มาร์ราคิช (อังกฤษ: Marrakesh), มาราแก็ช (ฝรั่งเศส: Marrakech), มุรรอกุช (อาหรับ: مراكش) หรือ เมร์ราเกช (เบอร์เบอร์: ⵎⴻⵔⵔⴰⴽⴻⵛ) เป็นเมืองใหญ่ในประเทศโมร็อกโก มีประชากร 794,620 คน และมีประชากร 1,063,415 คนในเขตมหานคร (ค.ศ. 2004)[2] เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโมร็อกโก รองจากกาซาบล็องกา แฟ็ส และราบัต

มาร์ราคิช

มาราแก็ช, มุรรอกุช, เมร์ราเกช
นครระดับจังหวัด
ที่ตั้งของมาร์ราคิช
มาร์ราคิชตั้งอยู่ในโมร็อกโก
มาร์ราคิช
มาร์ราคิช
สถานที่ตั้งในโมร็อกโก
พิกัด: 31°37′48″N 8°0′32″W / 31.63000°N 8.00889°W / 31.63000; -8.00889พิกัดภูมิศาสตร์: 31°37′48″N 8°0′32″W / 31.63000°N 8.00889°W / 31.63000; -8.00889
ประเทศ โมร็อกโก
RegionMarrakech-Tensift-El Haouz
ProvinceMarrakech
Established1062 C.E.
ผู้ก่อตั้งYusef ibn Tashfin
การปกครอง
 • MayorFatima Zahra Mansouri
ความสูง466 เมตร (1,529 ฟุต)
ความสูงจุดสูงสุด510 เมตร (1,670 ฟุต)
ความสูงจุดต่ำสุด430 เมตร (1,410 ฟุต)
ประชากร
 (2012)[1]
 • นครระดับจังหวัด909,000 คน
 • อันดับ4th
 • รวมปริมณฑล1,063,415 คน
เขตเวลาUTC+0 (WET)
 • ฤดูร้อน (เวลาออมแสง)UTC+1 (WEST)
ย่านเมืองเก่ามาร์ราคิช *
  แหล่งมรดกโลกโดยยูเนสโก
Jemaa el-Fnaa place
ประเทศโมร็อกโก
ภูมิภาค **รัฐอาหรับ
ประเภทวัฒนธรรม
เกณฑ์พิจารณาi, ii, iv, v
ประวัติการขึ้นทะเบียน
ขึ้นทะเบียน1985 (คณะกรรมการสมัยที่ 9th)
* ชื่อตามที่ได้ขึ้นทะเบียนในบัญชีแหล่งมรดกโลก
** ภูมิภาคที่จัดแบ่งโดยยูเนสโก

เมืองนี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1062 โดยอะบู บักร์ อิบน์ อุมัร (Abu Bakr ibn Umar) หัวหน้าเผ่าและเป็นลูกพี่ลูกน้องกับยูซุฟ อิบน์ ตาชฟีน โดยเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์อัลมอราวิดส์แห่งแอฟริกา ในสมัยกลางเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่เมืองหนึ่งของศาสนาอิสลาม ต่อมาฝรั่งเศสได้เข้ายึดครองใน ค.ศ. 1912 หลังจากนั้นฝรั่งเศสได้พัฒนาส่วนที่เป็นเมืองใหม่ขึ้น

ปัจจุบันถือเป็นเมืองหนึ่งที่คับคั่งที่สุดในแอฟริกา เป็นเมืองศูนย์กลางการค้า และจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว

อ้างอิง แก้

  1. Central Intelligence Agency (12 October 2011). The CIA World Factbook 2012. Skyhorse Publishing Inc. p. 2006. ISBN 978-1-61608-332-8. สืบค้นเมื่อ 8 October 2012.
  2. "Recensement général de la population et de l'habitat de 2004" (PDF). Haut-commissariat au Plan, Lavieeco.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2019-01-05. สืบค้นเมื่อ 27 April 2012.