มาตรวัดโบฟอร์ต (อังกฤษ: The Beaufort Scale) เป็นมาตรวัดที่เกิดจากการสังเกตและการทดลองเกี่ยวข้องกับความเร็วลมและสภาพของลมที่สังเกตได้ในทะเลและบนบก มาตรานี้มักใช้สำหรับคาดคะเนความเร็วลม สำหรับใช้ในการเดินเรือใบ[1] โดยถูกประดิษฐ์ขึ้นในปี ค.ศ. 1805 โดยนักอุทกศาสตร์ชาวไอริชชื่อ ฟรานซิส โบฟอร์ต (ต่อมาเป็นพลเรือตรี เซอร์ ฟรานซิส โบฟอร์ต) เจ้าหน้าที่กองทัพเรือในขณะนั้น มาตราโบฟอร์ตนั้นมีการพัฒนาที่ซับซ้อนและยาวนาน โดยผนวกกับข้อมูลก่อนหน้าของคนอื่น ๆ (รวมถึง แดเนียล เดโฟ ในศตวรรษก่อน) จนเมื่อโบฟอร์ตรับหน้าที่เป็นนักอุทกศาสตร์ของกองทัพเรือในคริสต์ทศวรรษ 1930 และได้คิดค้นขึ้นมา ต่อมาได้ใช้อย่างเป็นทางการโดยกัปตัน โรเบิร์ต ฟิตซ์รอย และได้จัดตั้งสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งแรก (Met Office) ในสหราชอาณาจักรเพื่อให้การพยากรณ์อากาศในปี ค.ศ. 1854[2]

ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 นายทหารเรือที่ทำการสังเกตสภาพอากาศ แต่ก็ไม่มีมาตราเป็นมาตรฐานและดังนั้นพวกเขาจะตัดสินใจจากความคิดของเขาเอง - "ลมแรง" ของชายคนหนึ่งอาจเป็น "ลมอ่อน" ของผู้อื่น ดังนั้นโบฟอร์ตจึงประสบความสำเร็จในการสร้างมาตรฐานให้กับการวัดความเร็วลมของคนทั่วโลก

ตารางเทียบ แก้

ตารางมาตราโบฟอร์ต[3][4]
หมายเลข คำอธิบาย ความเร็วลม ความสูงของคลื่น สภาพคลื่นทะเล สภาพบนบก ภาพถ่ายทางทะเล ธง
0 ทะเลราบ น้อยกว่า 1 นอต 0 เมตร ทะเลราบ – คล้ายกระจก ควันลอยขึ้นในแนวดิ่ง  
1 ทะเลสงบ 1 – 3 นอต (เฉลี่ย 2 นอต) ประมาณ  0 - 0.1 เมตร มีลมพัดให้เป็นคลื่นพริ้วเล็ก ๆ แต่ยังไม่เป็นลูกระลอก ควันสามารถแสดงทิศ แต่กังหันลมไม่หมุน  
2 ทะเลเรียบ 4 – 6 นอต (เฉลี่ย 5 นอต) ประมาณ  0.1 - 0.5 เมตร คลื่นเป็นลูกระลอกสั้น ๆ แต่ชัดเจน  ยอดระลอกเป็นมันอย่างกระจก แต่ยังไม่เกิดฟอง รับรู้ถึงลมได้, ใบไม้ส่งเสียงกรอบแกรบเมื่อถูกพัด, กังหันลมถูกลมพัด  
3 ทะเลเรียบ 7 – 10 นอต (เฉลี่ย 9 นอต) ประมาณ  0.1 -0.5 เมตร ระลอกคลื่นใหญ่ขึ้น ยอดระลอกเริ่มจะแตก แต่ส่วนมากยังเป็นกระจก มีแตกเป็นฟองขาวเล็กน้อย ใบไม้และกิ่งเล็ก ๆ เริ่มเคลื่อนไหว  
4 คลื่นเล็กน้อย 11 – 16 นอต (เฉลี่ย 13 นอต) ประมาณ 0.5 - 1.25 เมตร คลื่นขนาดเล็ก เป็นลูกยาวขึ้นและแตกเป็นฟองขาวบ่อยขึ้น พัดฝุ่นและกระดาษได้ กิ่งไม้ขนาดเล็กเคลื่อนไหว  
5 คลื่นปานกลาง 17 – 21 นอต (เฉลี่ย 18 นอต) ประมาณ 1.25 - 2.5 เมตร ลื่นปานกลาง เป็นลูกยาวชัดเจน แตกเป็นฟองขาวมากขึ้น (อาจมีฝอยได้บ้าง) ใบไม้บนต้นไม้เริ่มสั่นไหว  
6 คลื่นจัด 22 – 27 นอต (เฉลี่ย 24 นอต) ประมาณ 2.5 -4.0 เมตร เริ่มมีคลื่นใหญ่ ยอดคลื่นแตกเป็นฟองขาวจำนวนมาก (บางทีมีฝอยกระจายไปตามลม) กิ่งไม้ขนาดใหญ่สั่นไหว, สายไฟแกว่งเสียดสีกัน  
7 คลื่นจัดมาก 28 – 33 นอต (เฉลี่ย 30 นอต) ประมาณ 4.0 - 6.0 เมตร คลื่นสูงขึ้น ฟองขาวจากยอดคลื่นเริ่มปลิวเป็นสายไปตามลมบ้าง ส่วนของต้นไม้มีการไหวตามลายลม และรู้สึกลำบากเมื่อเดินสวนกับลม    
8 คลื่นใหญ่ 34 – 40 นอต (เฉลี่ย 37 นอต) ประมาณ 6.0 - 9.0 เมตร คลื่นสูงใหญ่ปานกลางเป็นแนวยาว ยอดคลื่นเริ่มม้วนตัว มีฟองขาวปลิวเป็นสายไปตามลมชัดเจน กิ่งไม้หัก  

 

 

9 คลื่นใหญ่ 41 – 47 นอต (เฉลี่ย 44 นอต) ประมาณ 6.0 - 9.0 เมตร คลื่นสูงใหญ่ มีฟองหนาปลิวเป็นสายไปตามทางลม ยอดคลื่นเริ่มม้วนตัว ฝอยน้ำอาจทำให้ทัศนวิสัยไม่ดี เกิดความเสียหายของโครงสร้างเล็กน้อย  

 

 

10 คลื่นใหญ่มาก 48 – 55 นอต (เฉลี่ย 52 นอต) ประมาณ 9.0 - 14 เมตร คลื่นสูงใหญ่มากกับมียอดคลื่นเป็นแนวยาว มีฟองแตกขาวเป็นสายยาวปลิวไปตามลม ท้องทะเลเป็นฟองขาวไปทั่ว มีทัศนวิสัยไม่ดี ต้นไม้ถอนรากถอนโคน ความเสียหายของโครงสร้างอย่างมาก    
11 ทะเลเป็นบ้า 56 – 63 นอต (เฉลี่ย 60 นอต) มากกว่า 14 เมตร คลื่นสูงใหญ่ ไม่ควรนำเรือขนาดเล็กและขนาดกลางมาเพราะอาจจมหายไปในร่องคลื่น ทะเลมีฟองขาวเป็นสายยาวไปตามลม ยอดคลื่นถูกลมตีเป็นฟองไปทั่ว ความเสียหายอย่างกว้างขวาง    
12 ทะเลเป็นบ้า 64 – 71 นอต (เฉลี่ย 68 นอต) มากกว่า 14 เมตร มีฟองและฝอยน้ำคลุ้งในอากาศไปทั่ว ทะเลเป็นสีขาวเนื่องจากมีฝอยน้ำแทบทุกบริเวณ การทำลายล้าง    


 

อ้างอิง แก้

  1. สี่แคว, Tum Sikwae : ตุ้ม (วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557). "Tum Sikwae ตุ้ม สี่แคว: วิธีบอกความเร็วลม ความใหญ่ของคลื่น โดยการใช้สายตาเป็นตัววัด ตาม มาตราโบฟอร์ต". Tum Sikwae ตุ้ม สี่แคว. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  2. "Wayback Machine" (PDF). web.archive.org. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-02. สืบค้นเมื่อ 2020-02-19.{{cite web}}: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์)
  3. "Beaufort Wind Scale". www.spc.noaa.gov.
  4. "ภาพแสดงลักษณะทะเล". www.marine.tmd.go.th.