มรรคาศักดิ์สิทธิ์
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
มรรคาศักดิ์สิทธิ์ หรือ ทางสู่กางเขน (อังกฤษ: Stations of the Cross (ที่หมายสู่กางเขน) ; ละติน: Via Crucis (ทางสู่กางเขน) หรือ Via Dolorosa (ทางแห่งความเศร้า) หรือ เรียกง่ายๆ ว่า The Way - ทาง) คือภาพงานศิลปะศาสนาคริสต์บรรยายถึงช่วงเวลาสุดท้ายในชีวิตพระเยซู ตั้งแต่เดินทางสู่การตรึงกางเขนและหลังการตรึงกางเขน เรียกกันว่า “พระทรมานของพระเยซู” ทำขึ้นเพื่อเป็นการระลึกถึงความทรมานและความเสียสละของพระองค์[1] ประเพณีนี้ปฏิบัติกันในนิกายโรมันคาทอลิก แองกลิคัน และ ลูเทอแรน มรรคาศักดิ์สิทธิ์จะปฏิบัติเมื่อใดก็ได้แต่มักจะทำกันระหว่างเทศกาลมหาพรต โดยเฉพาะทุกค่ำวันศุกร์ระหว่างช่วงเวลานี้ และวันศุกร์ประเสริฐก่อนเทศกาลอีสเตอร์
มรรคาศักดิ์สิทธิ์ Stations of the Cross | |
พระเยซูสิ้นพระชนม์บนกางเขน (คริสต์ศตวรรษที่ 12) ที่หมายนี้อยู่ในมหาวิหารนักบุญราฟาเอลที่ Dubuque, ไอโอวา |
ประวัติ
แก้วัตถุประสงค์ของการตั้งมรรคาศักดิ์สิทธิ์ก็เพื่อให้ผู้มีศรัทธาได้เดินรำพึงธรรมตามรอยพระบาทของพระเยซูจนสิ้นพระชนม์ พิธีนี้เป็นที่นิยมกันในบรรดาคริสต์ศาสนิกชนโรมันคาทอลิกและอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ เฉพาะกลุ่มที่ปฏิบัติตามจารีตตะวันตก (Western Rite)
ที่หมายต่างของมรรคาศักดิ์สิทธิ์เป็นความพยายามที่จะสร้างเหตุการณ์วันที่พระเยซูถูกตรึงกางเขนจากถนนสายที่เชื่อกันว่าเป็นถนนที่พระเยซูเดินไปสู่ที่การถูกตรึงกางเขนที่กรุงเยรูซาเลม ปัจจุบันเรียกว่าถนนกางเขน (Via Crucis) หรือ ถนนโดโลโรซา พอถึงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 15 การตั้งที่มรรคาศักดิ์สิทธิ์ก็เริ่มเผยแพร่ไปสู่โบสถ์คาทอลิกในยุโรปตะวันตกแต่ก็ไม่ได้สร้างกันเต็มที่จนมาถึงทางสู่อาราม การติดตั้งที่หมายเหล่านี้มิได้ทำกันจนมาถึงคริสต์ศตวรรษที่ 17
มรรคาศักดิ์สิทธิ์ บางครั้งจะใช้ติดตั้งภายในคริสต์ศาสนสถาน เป็นงานศิลปะสิ่งหนึ่งที่มักจะมองข้ามเมื่อเข้าชมโบสถ์ ส่วนใหญ่จะทำเป็นรูปขนาดประมาณหนึ่งตารางฟุตติดตั้งเป็นระยะๆบนผนังสองด้านที่นำไปสู่แท่นบูชาเอก แต่ละโบสถ์ก็จะมีรูปแบบแตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นวัสดุที่ใช้ทำ หรือแบบศิลปะที่ใช้ทำ บางชุดจะเป็นงานที่มีฝีมือดีและคุณค่าสูง นอกจะติดตั้งภายในโบสถ์แล้วบางครั้งก็จะตั้งเหมือนสักการสถานเป็นระยะๆก่อนจะถึงตัวคริสต์ศาสนสถานซึ่งมักจะเห็นได้จากทางสู่วัดแบบอาราม การติดตั้งที่หมายเหล่านี้มิได้ทำกันจนมาถึงคริสต์ศตวรรษที่ 17[2] นอกจากนั้นฉากจากมรรคาศักดิ์สิทธิ์ก็ยังใช้เป็นหัวข้อที่ใช้อย่างแพร่หลายในงานจิตรกรรมและประติมากรรม
แบบมรรคาศักดิ์สิทธิ์
แก้ภาพหรือสิ่งก่อสร้างในชุดมรรคาศักดิ์สิทธิ์จะประกอบด้วยฉาก หรือ ที่หมาย 14 จุด แต่ละชุดจะคล้าย ๆ กัน มีแตกต่างกันบ้างก็เล็กน้อย การจะเลือกอะไรที่หมายในชุดก็แล้วแต่ศรัทธาของผู้ใช้ ชุดมรรคาศักดิ์สิทธิ์ที่นิยมกันก็มี
ชุดแรก
|
อีกชุดหนึ่ง
|
แบบมรรคาศักดิ์สิทธิ์ในปัจจุบัน
แก้สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2เคยนำขบวนคริสต์ศาสนิกชนบนมรรคาศักดิ์สิทธิ์ทุก “วันศุกร์ประเสริฐ” ที่โคลอสเซียมเป็นประจำทุกปี แต่เดิมพระองค์เองจะเป็นผู้แบกไม้กางเขนจากที่หมายหนึ่งไปที่หมายหนึ่ง แต่ระยะหลังพระองค์ได้แต่นั่งเป็นประธานพิธีที่เนินปาเลไทน์ (Palatine Hill) ขณะที่ผู้ร่วมทำพิธีคนอื่นแบกไม้กางเขนแทน ว่ากันว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์ก็ได้นั่งดูมรรคาศักดิ์สิทธิ์จากชาเปลส่วนพระองค์ที่วังวาติกัน
ทุกปีสมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 จะทรงเชิญให้คนเขียนบทภาวนา (meditation texts) สำหรับที่หมายแต่ละที่หมายบนมรรคาศักดิ์สิทธิ์ ผู้เขียนหลายคนที่ทรงเชิญมิได้นับถือนิกายโรมันคาทอลิก และบางปีทีหมายที่ทรงเลือกในเส้นทางก็จะเปลี่ยนไปตามพระทัยซึ่งทำให้มีคาดกันว่าพระองค์จะเปลี่ยนมรรคาศักดิ์สิทธิ์ใหม่ เมื่อปีค.ศ. 2000 ทรงเขียนบทภาวนาด้วยพระองค์เองและใช้มรรคาศักดิ์สิทธิ์ตามประเพณีเดิม มรรคาศักดิ์สิทธิ์ของพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 ประกอบด้วย
|
8. ไซมอน แห่ง ไซรีนช่วยพระเยซูแบกไม้กางเขน |
การฉลองมรรคาศักดิ์สิทธิ์
แก้การฉลองมรรคาศักดิ์สิทธิ์มักจะทำกันทุกค่ำวันศุกร์ระหว่างเทศกาลมหาพรต โดยเฉพาะ “วันศุกร์ประเสริฐ” ก่อนเทศกาลอีสเตอร์ การฉลองประกอบด้วยการร้องเพลงสวดและการสวดมนต์ เพลงสวดที่นิยมกันมากคือเพลงสวด (sequence) แบบที่เรียกกันว่า “Stabat Mater Dolorosa” ซึ่งเชื่อกันว่าริเริ่มเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 13 โดย สมเด็จพระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 3 และ จาร์คคาโพเน ดา โทดี (Jacopone da Todi) หลวงพ่อจากรัฐอุมเบรีย (Umbria) ในประเทศอิตาลี Stabat Mater Dolorosa เป็นเพลงสวดที่บรรยายความโศกเศร้าของพระแม่มารีย์ตอนที่พระเยซูถูกตรึงกางเขน เมื่อถึงที่หมายแต่ละจุดบางทีก็จะมีการร้องเพลงสวดที่เรียกว่า “Adoramus Te” สรรเสริญพระเยซู หรือบางทีก็ร้อง “Alleluia”
ในปัจจุบันมีผู้สนับสนุนให้เพิ่มฉากพระเยซูฟี้นจากความตายเป็นที่หมายที่ 15 เพราะถ้าพระเยซูไม่ฟี้นจากความตายพระองค์ก็ไม่สามารถทำภารกิจในการเป็นผู้ไถ่บาปของมวลมนุษย์ได้สำเร็จ เหตุผลอันเดียวกันนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้มีการฉลอง “อีสเตอร์ ทริดุม” (Easter Triduum หรือ Holy Triduum หรือ Paschal Triduum) ซึ่งเริ่มตั้งแต่ค่ำ “วันพฤหัสบดึศักดิ์สิทธิ์” (Holy Thursday) และไปจบเอาค่ำวันอาทิตย์อีสเตอร์ (Easter Sunday) บางครั้งการฉลองมรรคาศักดิ์สิทธิ์ก็จะทำเพื่อให้ระลึกถึงเวลาที่พระเยซูทรงฟื้นขึ้นจากความตายและเมื่อทรงขึ้นสวรรค์
ภาพยนตร์เรื่อง The Passion of the Christ สร้างโดย เมล กิบสัน ใช้มรรคาศักดิ์สิทธิ์เป็นโครงเรื่อง แต่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับที่หมายที่ 14 และที่หมายสุดท้ายการฝังพระเยซูเมื่อเทียบกับที่หมายอีก 13 ที่ ซึ่งอาจจะตีความหมายได้ว่าพระเยซูกำลังออกจากที่ฝังศพและจะฟี้นจากความในฉากสุดท้ายของภาพยนตร์
อ้างอิง
แก้ดูเพิ่ม
แก้แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- Way of the Cross (Catholic Encyclopedia) - มรรคาศักดิ์สิทธิ์
- รายการการฉลองมรรคาศักดิ์สิทธิ์ของกรุงวาติกัน
- มรรคาศักดิ์สิทธิ์ (คริสต์ศตวรรษที่ 19) (College of the resurrection) เก็บถาวร 2007-08-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - ภาพและบทสวดมนต์
- มรรคาศักดิ์สิทธิ์ (Via Cruis: The Way of The Cross) เก็บถาวร 2007-07-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - คำบรรยาย ภาพจากเยรูซาเล็มและบทสวดมนต์
- มรรคาศักดิ์สิทธิ์ของพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 ปี 1991 (New American Bible) เก็บถาวร 2007-06-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- งานภาพพิมพ์มรรคาศักดิ์สิทธิ์โดย Albrecht Dürer และ Adrian Wiszniewski เก็บถาวร 2008-01-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- พระทรมานของพระเยซูในศิลปะ (The Passion of Christ in Art)
- มรรคาศักดิ์สิทธิ์ (Anglican Church of St. Martin's (โตรอนโต ประเทศคานาดา)) เก็บถาวร 2007-12-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน - ภาพ
ประมวลภาพ
แก้-
ถนนโดโลโรซา (Via Dolorosa) เยรูซาเล็ม ภาพถ่ายระหว่าง ค.ศ. 1898 และ 1946
-
ผู้ร่วมพิธีเดินตามรอยมรรคาศักดิ์สิทธิ์บนถนนโดโลโรซาเมื่อปี ค.ศ. 2006
-
ที่หมายที่ 1 และ 2 (คริสต์ศตวรรษที่ 19) ที่มหาวิหาร Sacré-Cœur ที่ปารีส
-
ไซมอน แห่ง ไซรีนช่วยพระเยซูแบกไม้กางเขน โดย Meister von Astorga
-
พระเยซูถูกเฆี่ยนและใส่มงกุฎหนาม ที่วาราลโล (Varallo) ประเทศอิตาลี
-
ที่หมายที่ 11 พระเยซูถูกตรึงกางเขนริมทางไม่ไกลจากโรทอันเดอโรท (Rot a. d. Rot) ประเทศเยอรมนี
-
พระเยซูบนกางเขนที่นครนิวยอร์ก
-
ที่หมายที่ 13 เอาร่างของพระเยซูลงจากกางเขน วัดเซ็นต์อือโทรป (St. Eutrope) ประเทศฝรั่งเศส
-
ที่หมายที่อารามฟูเอ็นซานตา ประเทศสเปน
-
นักบุญเวโรนีกาซับพระพักตร์พระเยซู