มณฑลสุราษฎร์
มณฑลสุราษฎร์ หรือเดิมชื่อ มณฑลชุมพร เป็นมณฑลที่ประกอบด้วย 4 เมือง คือ ชุมพร หลังสวน ไชยา และกาญจนดิษฐ์ หรือปัจจุบันคือพื้นที่ในจังหวัดชุมพรและสุราษฎร์ธานี ตั้งที่บัญชาการมณฑลที่ชุมพร[1] (ต่อมาย้ายที่ทำการไปอยู่ที่เมืองไชยาใหม่ จึงได้เปลี่ยนชื่อมณฑลไปด้วย) เป็นมณฑลที่เป็นแหล่งทรัพยากรทางธรรมชาติที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจทั้งแร่ธาตุและป่าไม้ ได้แก่ ดีบุก ถ่านหิน ทองคำ และผลิตภัณฑ์จากป่าทั้งพืชและสัตว์ โดยเฉพาะมีช้างมากจนเรียกว่า ดงช้าง[2]
มณฑลสุราษฎร์ | |||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
มณฑลเทศาภิบาล | |||||||||||||||||
พ.ศ. 2439 – 2469 | |||||||||||||||||
เมืองหลวง | ชุมพร (พ.ศ. 2439–2458) สุราษฎร์ธานี (พ.ศ. 2458–2469) | ||||||||||||||||
การปกครอง | |||||||||||||||||
• ประเภท | สมุหเทศาภิบาลต่างพระเนตรพระกรรณ | ||||||||||||||||
สมุหเทศาภิบาล | |||||||||||||||||
• พ.ศ. 2439–2443 | พระยารัตนเศรษฐี (คอซิมก๊อง ณ ระนอง) (คนแรก) | ||||||||||||||||
• พ.ศ. 2444–2448 | พระยาวรสิทธิ์เสวีวัตร (ใต้ฮัก ภัทรนาวิก) | ||||||||||||||||
• พ.ศ. 2448–2455 | พระยามหิบาลบริรักษ์ (สวัสดิ์ ภูมิรัตน์) | ||||||||||||||||
• พ.ศ. 2455–2468 | พระยาคงคาธราธิบดี (พลอย ณ นคร) (คนสุดท้าย) | ||||||||||||||||
ยุคทางประวัติศาสตร์ | รัตนโกสินทร์ | ||||||||||||||||
• จัดตั้งมณฑลชุมพร | พ.ศ. 2439 | ||||||||||||||||
• เปลี่ยนชื่อเป็นมณฑลสุราษฎร์ | พ.ศ. 2458 | ||||||||||||||||
• เป็นส่วนหนึ่งของมณฑลภาคปักษ์ใต้ | 21 มีนาคม พ.ศ. 2459 | ||||||||||||||||
• ยุบรวมกับมณฑลนครศรีธรรมราช | 31 มีนาคม พ.ศ. 2469 | ||||||||||||||||
| |||||||||||||||||
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ | ไทย |
ประวัติ
แก้สมัยระบบกินเมือง เมืองชุมพรตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งส่วนใหญ่เป็นตระกูล ณ นคร สาเหตุในการจัดตั้งมณฑลชุมพร เพราะทางกรุงเทพเห็นว่าไม่มีประสิทธิภาพในการควบคุมกำลังคนของหัวเมืองเหล่านี้[3] อีกทั้งมีการคุกคามของมหาอำนาจชาวตะวันตกที่กำลังสนใจคอคอดกระในเขตเมืองชุมพรและกระบุรี เป็นส่วนแคบสุดของแหลมมลายูและอาจเป็นเส้นทางย่นระยะทางไปตะวันออกไกลได้[4] จึงได้จัดตั้งมณฑลชุมพร เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2439 โดยตั้งเป้าหมายจะให้เป็นมณฑลทำนุบำรุงการค้า และแต่งตั้งพระยารัตนเศรษฐี (คอซิมก๊อง) เป็นข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลชุมพร พระยารัตนเศรษฐีเลือกที่ตั้งว่าการมณฑลที่ริมแม่น้ำท่าตะเภา ใกล้บ้านเจ้าเมืองในสมัยระบบกินเมือง[5] จากนั้นพระยาวรสิทธิ์เสวีวัตร (ใต้ฮัก ภัทรนาวิก) ดำรงตำแหน่่งข้าหลวงเทศาภิบาลระหว่าง พ.ศ. 2444–2448 และได้ย้ายที่ตั้งว่าการมณฑลไปอยู่ที่เมืองไชยา และได้เปลี่ยนชื่อเป็น "มณฑลสุราษฎร์" เมื่อ พ.ศ. 2458[6]
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ฐานะการคลังประเทศตกอยู่ในภาวะขาดดุลมาตลอด รัฐบาลจึงต้องการตัดงบประมาณ จึงได้ยุบมณฑลสุราษฎร์เมื่อ พ.ศ. 2468[7]
การปฏิรูป
แก้การแบ่งเขตการปกครองในสมัยพระยารัตนเศรษฐี (คอซิมก๊อง) เมืองชุมพรประกอบด้วย 4 อำเภอ คือ อำเภอชุมพร อำเภอปะทิว อำเภอท่าแซะ และอำเภอกำเนิดนพคุณ เมืองหลังสวนประกอบด้วย 3 อำเภอ คือ อำเภอหลังสวน อำเภอสวี และอำเภอพะโต๊ะ เมืองไชยาประกอบด้วย 4 อำเภอ คือ อำเภอไชยา อำเภอพุนพิน อำเภอประสงค์ และอำเภอคีรีรัฐนิคม เมืองกาญจนดิษฐ์ประกอบด้วย 4 อำเภอ คือ อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอพุมควง อำเภอกะแดะ และอำเภอเกาะ[8] เจ้าเมืองแบบเก่าได้รับตำแหน่งผู้ว่าราชการเมือง
รายชื่อข้าหลวงเทศาภิบาล
แก้- พระยารัตนเศรษฐี (คอซิมก๊อง) พ.ศ. 2439–2443
- พระยาวรสิทธิ์เสวีวัตร (ใต้ฮัก ภัทรนาวิก) พ.ศ. 2444–2448
- พระยามหิบาลบริรักษ์ (สวัสดิ์ ภูมิรัตน์) พ.ศ. 2448–2455
- พระยาคงคาธราธิบดี (พลอย ณ นคร) พ.ศ. 2455–2468
อ้างอิง
แก้- ↑ วุฒิชัย มูลศิลป์. "มณฑลเทศาภิบาล : วิเคราะห์เปรียบเทียบ" (PDF). สมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย. p. 15. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2021-07-16. สืบค้นเมื่อ 2021-08-21.
- ↑ จมื่นอมรดรุณารักษ์ (แจ่ม สุนทรเวช). พระราชกรณียกิจสำคัญในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว, เล่ม 3 (พระนคร : ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์, 2512), 34
- ↑ การเมืองการปกครองของมณฑลชุมพร พ.ศ. 2439-2468, 38.
- ↑ การเมืองการปกครองของมณฑลชุมพร พ.ศ. 2439-2468, 42.
- ↑ การเมืองการปกครองของมณฑลชุมพร พ.ศ. 2439-2468, 59.
- ↑ "ประกาศ เปลี่ยน นาม อำเภอ นาม เมือง และ นาม มณฑล" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-01-25. สืบค้นเมื่อ 2021-08-21.
- ↑ การเมืองการปกครองของมณฑลชุมพร พ.ศ. 2439-2468, 163.
- ↑ การเมืองการปกครองของมณฑลชุมพร พ.ศ. 2439-2468, 63.
บรรณานุกรม
แก้- ฤทธิ์ชู, สารูป. การเมืองการปกครองของมณฑลชุมพร พ.ศ. 2439-2468 (PDF). มหาวิทยาลัยศิลปากร.