ฟุตบอลทีมชาตินอร์เทิร์นไอร์แลนด์

ฟุตบอลทีมชาตินอร์เทิร์นไอร์แลนด์ หรือ ฟุตบอลทีมชาติไอร์แลนด์เหนือ เป็นทีมฟุตบอลตัวแทนของไอร์แลนด์เหนือ ในการแข่งขันฟุตบอลระหว่างชาติ อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของสมาคมฟุตบอลไอริช (IFA) โดยเป็นฟุตบอลทีมชาติที่เป็นสมาชิกของยูฟ่าและฟีฟ่า

นอร์เทิร์นไอร์แลนด์
Shirt badge/Association crest
ฉายาGreen and White Army,
Norn Iron
เจ้าพ่อลูกเซ็ตพีซ (ฉายาในภาษาไทย)
สมาคมสมาคมฟุตบอลไอริช
สมาพันธ์ยูฟ่า (ยุโรป)
หัวหน้าผู้ฝึกสอนไมเคิล โอนีลล์
กัปตันสตีเวน เดวิส
ติดทีมชาติสูงสุดสตีเวน เดวิส (140)
ทำประตูสูงสุดเดวิด ฮีลีย์ (36)
สนามเหย้าวินด์เซอร์ปาร์ก
รหัสฟีฟ่าNIR
อันดับฟีฟ่า
อันดับปัจจุบัน 74 ลดลง 2 (15 กุมภาพันธ์ 2024)[1]
อันดับสูงสุด20 (กันยายน ค.ศ. 2017)
อันดับต่ำสุด129 (กันยายน ค.ศ. 2012)
เกมระดับนานาชาติครั้งแรก
ธงชาติไอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ 0–13 อังกฤษ ธงชาติอังกฤษ
(เบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์; 18 กุมภาพันธ์ 1882)
ในฐานะ นอร์เทิร์นไอร์แลนด์
ธงชาติไอร์แลนด์เหนือ ไอร์แลนด์เหนือ 1–4 อังกฤษ ธงชาติอังกฤษ
(เบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ; 7 ตุลาคม ค.ศ. 1950)
ชนะสูงสุด
ธงชาติไอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ 7–0 เวลส์ ธงชาติเวลส์
(เบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์; 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1930)
ในฐานะ นอร์เทิร์นไอร์แลนด์
ธงชาติไอร์แลนด์เหนือ ไอร์แลนด์เหนือ 5–0 ไซปรัส ธงชาติไซปรัส
(เบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ; 21 เมษายน ค.ศ. 1971)
Flag of the Faroe Islands หมู่เกาะแฟโร 0–5 ไอร์แลนด์เหนือ ธงชาติไอร์แลนด์เหนือ
(Landskrona ประเทศสวีเดน; 11 กันยายน ค.ศ. 1991)
แพ้สูงสุด
ธงชาติไอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ 0–13 อังกฤษ ธงชาติอังกฤษ
(เบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์; 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1882)
ในฐานะ นอร์เทิร์นไอร์แลนด์
ธงชาติเนเธอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ 6–0 ไอร์แลนด์เหนือ ธงชาติไอร์แลนด์เหนือ
(อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์; 2 มิถุนายน ค.ศ. 2012)
ฟุตบอลโลก
เข้าร่วม3 (ครั้งแรกใน 1958)
ผลงานดีที่สุดรอบรองชนะเลิศ (1958)
ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป
เข้าร่วม1 (ครั้งแรกใน 2016)
ผลงานดีที่สุดรอบ 16 ทีมสุดท้าย (2016)

ทีมชาตินอร์เทิร์นไอร์แลนด์ เป็นทีมที่เปลี่ยนแปลงมาจากทีมชาติไอร์แลนด์ดั้งเดิม โดยภายหลังจากที่เกาะไอร์แลนด์ ได้แยกออกเป็น 2 ส่วน คือไอร์แลนด์เหนือ คือดินแดนส่วนบนของเกาะที่ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักรและ สาธารณรัฐไอร์แลนด์ คือดินแดนส่วนใต้ที่เป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะและได้แยกตัวเป็นเอกราช ทำให้มีฟุตบอลทีมชาติไอร์แลนด์อยู่ถึง 2 ทีม คือทีมชาติไอร์แลนด์ดั้งเดิม ที่ยังเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร (IFA) และ ทีมชาติไอร์แลนด์ที่ตั้งขึ้นใหม่ ของสาธารณรัฐไอร์แลนด์ (FAI) ทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมามากมาย ต่อมาฟีฟ่าได้มีคำสั่งให้ทีมชาติไอร์แลนด์เดิม เปลี่ยนชื่อเป็นทีมชาตินอร์เทิร์นไอร์แลนด์ และทีมชาติไอร์แลนด์ใหม่ เปลี่ยนชื่อเป็น ทีมชาติสาธารณรัฐไอร์แลนด์

แม้ไอร์แลนด์เหนือจะมีฐานะเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร แต่ทีมชาตินอร์เทิร์นไอร์แลนด์ ก็เป็นสมาชิกของฟีฟ่าและยูฟ่า ทำให้มีสิทธิลงแข่งขันในรายการสำคัญต่างๆ ยกเว้นกีฬาโอลิมปิกที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล ให้ชาติที่เป็นองค์ประกอบของสหราชอาณาจักรทั้งอังกฤษ, สกอตแลนด์, เวลส์และไอร์แลนด์เหนือ รวมตัวกันลงแข่งขันในนามทีมชาติสหราชอาณาจักร

ทีมชาตินอร์เทิร์นไอร์แลนด์เคยผ่านเข้าไปแข่งขันฟุตบอลโลก 3 ครั้ง โดยผลงานที่ดีที่สุดคือการเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ในฟุตบอลโลก 1958 และ ฟุตบอลโลก 1982 ส่วนในปี 1986 ตกรอบแรก นอกจากนี้ยังผ่านเข้าไปเล่นในรายการฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปเป็นครั้งแรกในปี 2016

ประวัติ แก้

ยุคทีมชาติไอร์แลนด์ แก้

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1882 , 15 เดือน หลังจากก่อตั้งสมาคมฟุตบอลไอริช (IFA) ทีมชาติไอร์แลนด์ได้ลงแข่งขันฟุตบอลระดับชาติเป็นครั้งแรก โดยเป็นการแข่งขันนัดกระชับมิตรกับทีมชาติอังกฤษ ที่เมืองเบลฟาสต์ ซึ่งผลการแข่งขันนัดดังกล่าว ทีมชาติไอร์แลนด์เป็นฝ่ายแพ้คาบ้านไปถึง 13–0 และเป็นสถิติแพ้ขาดลอยมากที่สุดในประวัติศาสตร์ทีมชาติมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังเป็นสถิติชนะขาดลอยมากที่สุดของทีมชาติอังกฤษอีกด้วย

ปี ค.ศ. 1884 ไอร์แลนด์ได้ลงแข่งขันในบริติชโฮมแชมเปียนชิป ที่จัดขึ้นเป็นปีแรก และแพ้รวดตลอดการแข่งขัน โดยถูกยิงมากถึง 19 ประตู และยิงได้แค่ประตูเดียว หลังจากนั้นไอร์แลนด์ ก็ยังไม่สามารถเอาชนะทีมคู่แข่งในการแข่งขันฟุตบอลระดับชาติได้เลยแม้แต่นัดเดียว จนกระทั่งวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1887 ไอร์แลนด์ก็สามารถเอาชนะคู่แข่งได้เป็นครั้งแรก โดยเป็นการเอาชนะทีมชาติเวลส์ ไป 4–1 ที่เมืองเบลฟาสต์

ปี ค.ศ. 1899 สมาคมฟุตบอลไอริช ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงกฏการเรียกตัวผู้เล่นมาติดทีมชาติ จากเดิมเฉพาะผู้เล่นที่อาศัยอยู่ในเกาะไอร์แลนด์เท่านั้น ที่จะมีสิทธิถูกเรียกตัวมาเล่นให้ทีมชาติ และผู้เล่นส่วนใหญ่จะคัดเลือกมาจากไอริช ลีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก 3 สโมสรฟุตบอลในเมืองเบลฟาสต์ ได้แก่ ลินฟิลด์, คลิฟตันวิลล์ และ ดิสทิลเลรี , ในวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 1899 ในการแข่งขันกับทีมชาติเวลส์ มีผู้เล่นที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในเกาะไอร์แลนด์ ถูกเรียกมาติดทีมชาติถึง 4 ราย จากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้ไอร์แลนด์สามารถเอาชนะไปได้ 1–0 และอีก 3 สัปดาห์ถัดมา ในวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 1899 อาร์ชี กู๊ดออล นักฟุตบอลจากสโมสรแอสตันวิลลา ที่เป็น 1 ใน 4 ผู้เล่นที่อาศัยอยู่นอกเกาะไอร์แลนด์ กลายเป็นผู้เล่นที่อายุมากที่สุดของทีมชาติในช่วงศตวรรษที่ 19 ที่สามารถทำประตูให้ทีมชาติได้ โดยเขาทำประตูได้ในนัดที่แพ้ทีมชาติสกอตแลนด์ 9–1 ซึ่งในขณะนั้นเขามีอายุ 34 ปี 279 วัน

ปี ค.ศ. 1920 สหราชอาณาจักรได้ออกพระราชบัญญัติรัฐสภาไอร์แลนด์ขึ้น ทำให้ต่อมาเกาะไอร์แลนด์ได้ถูกแบ่งแยกการปกครองออกเป็น 2 ส่วน คือไอร์แลนด์เหนือ และ ไอร์แลนด์ใต้ ก่อนที่ในปี ค.ศ. 1922 ไอร์แลนด์ใต้จะประกาศเอกราชจากสหราชอาณาจักร กลายเป็นเสรีรัฐไอริช

ผู้เล่นคนสำคัญ แก้

อดีตผู้เล่นคนสำคัญ แก้

อ้างอิง แก้

  1. "The FIFA/Coca-Cola World Ranking". FIFA. 15 กุมภาพันธ์ 2024. สืบค้นเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ 2024.

แหล่งข้อมูลอื่น แก้