ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2016 นัดชิงชนะเลิศ
การแข่งขัน ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2016 นัดชิงชนะเลิศ เป็นการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศของ ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2016, เป็นทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลที่เป็นเจ้าภาพโดย ประเทศญี่ปุ่น. ครั้งนี้เป็นนัดชิงชนะเลิศครั้งที่ 12 ของ ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก, ทัวร์นาเมนต์ที่มีการจัดขึ้นโดยฟีฟ่าระหว่างสโมสรที่เป็นผู้ชนะจากแต่ละทีมแต่ละสมาพันธ์จากหกทวีป, เช่นเดียวกับแชมป์ลีกจากชาติเจ้าภาพ.
สนามกีฬา อินเตอร์เนชันแนล โยโกฮามะ ในโยโกฮามะ จะเป็นสนามที่ใช้ในนัดชิงชนะเลิศ | |||||||
รายการ | ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2016 | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
| |||||||
หลังต่อเวลาพิเศษ | |||||||
วันที่ | 18 ธันวาคม พ.ศ. 2559 | ||||||
สนาม | สนามกีฬานานาชาติโยโกฮามะ, โยโกฮามะ | ||||||
ผู้เล่นยอดเยี่ยม ประจำนัด | คริสเตียโน โรนัลโด (เรอัลมาดริด)[1] | ||||||
ผู้ตัดสิน | จานนี ซิคัซเว (แซมเบีย)[1] | ||||||
ผู้ชม | 68,742 คน[2] | ||||||
สภาพอากาศ | มีเมฆเป็นบางส่วน 10 °C (50 °F) 82% ความชื้นสัมพัทธ์[1] | ||||||
รอบชิงชนะเลิศเป็นการตัดสินกันระหว่าง สโมสรจากสเปน เรอัลมาดริด, เป็นตัวแทนของ ยูฟ่า ในฐานะครองแชมป์ของ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และสโมสรจากญี่ปุ่น คาชิมะ แอนต์เลอส์, เป็นตัวแทนของชาติเจ้าภาพ. จะลงเล่นที่ สนามกีฬานานาชาติโยโกฮามะ ในเมือง โยโกฮามะ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2559.
ภูมิหลัง
แก้คาชิมะ แอนต์เลอส์ กลายเป็นสโมสรแรกในทวีปเอเชียที่ผ่านเข้าสู่นัดชิงชนะเลิศของฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกโดยสามารถเอาชนะทีมชนะเลิศของโกปาลีเบร์ตาโดเรส อัตเลตีโก นาซีอองนาล 3–0.[3] มันเป็นครั้งแรกที่สโมสรจากทวีปเอเชียสามารถเอาชนะทีมจากฝั่งทวีปอเมริกาใต้ได้ในประวัติศาสตร์ของการแข่งขัน, และเป็นครั้งที่สามที่ทีมจากทวีปอเมริกาใต้ไม่ได้ผ่านเข้ารอบสำหรับนัดชิงชนะเลิศ.[4]
เส้นทางสู่นัดชิงชนะเลิศ
แก้เรอัลมาดริด | รอบ | คาชิมะ แอนต์เลอส์ | ||
---|---|---|---|---|
ยูฟ่า | สมาพันธ์ | เอเอฟซี | ||
ชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2015–16 | ได้สิทธิ์ในฐานะ | ชนะเลิศ เจลีก ดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 2016 | ||
คู่แข่งขัน | ผล | ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2016 | คู่แข่งขัน | ผล |
บาย | รอบเพลย์ออฟ | ออกแลนด์ ซิตี | 2–1 | |
รอบก่อนรองชนะเลิศ | มาเมโลดี ซันดาวน์ส | 2–0 | ||
อเมริกา | 2–0 | รอบรองชนะเลิศ | อัตเลตีโก นาซีอองนาล | 3–0 |
เรอัลมาดริด
แก้เรอัลมาดริด เข้าสู่การแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ, เผชิญหน้ากับทีมจากเม็กซิโก และเป็นทีมชนะเลิศ คอนคาแคฟ แชมเปียนส์ ลีก อเมริกา. การีม แบนเซมา เป็นผู้เปิดสกอร์แรกสำหรับเรอัลในครึ่งเวลาแรกช่วงทดเวลาบาดเจ็บ, ทำให้ทีมของพวกเขาเป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อนพัก. คริสเตียโน โรนัลโด เป็นผู้ยิงประตูปิดท้ายด้วยชัยชนะ 2–0 และได้เป้าหมายเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของ โลส บลังโกส กับประตูในครึ่งเวลาหลังช่วงทดเวลาบาดเจ็บ.[5]
คาชิมะ แอนต์เลอส์
แก้คาชิมะ แอนต์เลอส์ เริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ในรอบเพลย์ออฟสำหรับรอบก่อนรองชนะเลิศ, เผชิญหน้ากับทีมจากนิวซีแลนด์ ออกแลนด์ ซิตี, ทีมชนะเลิศของ โอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก. ออกแลนด์ เปิดประตูแรกจากการทำประตูของ คิม แด-วูก ในนาทีที่ 50. สิบเจ็ดนาทีต่อมา, ชุเฮะอิ อะกะซะกิ ตามตีเสมอให้กับทีมเจ้าภาพ. สองนาทีที่เหลืออยู่, มุ คะนะซะกิ เป็นผู้คว้าชัยชนะให้กับทีม, ส่งผลให้ คาชิมะ ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศด้วยผลชนะ 2–1.[6]
ในรอบก่อนรองชนะเลิศ, เดอะ แอนท์เลอร์ส เผชิญหน้ากับทีมชนะเลิศจาก ซีเอเอฟ แชมเปียนส์ ลีก และทีมแชมป์แอฟริกาใต้ มาเมโลดี ซันดาวน์ส. ยะสุชิ เอ็นโดะ เป็นผู้เปิดสกอร์แรกในนาทีที่ 63 ส่งให้คาชิมะขึ้นนำไปก่อน, ก่อนที่ ชุเฮะอิ อะกะซะกิ จะเป็นผู้ทำประตูอีกหนึ่งลูกกับสองนาทีที่เหลือเพื่อรักษาสกอร์ให้ทีมเอาชนะไปได้ 2–0 และทะลุเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ.[7]
ในรอบรองชนะเลิศ, คาชิมะต้องมาพบกับ ทีมชนะเลิศ โกปา ลีเบร์ตาโดเรส, อัตเลติโก นาซิอองนาล ของ โคลอมเบีย. ในนาทีที่ 33, ผู้ตัดสินจากฮังการี วิคตอร์ คัสไซ ที่ได้มอบรางวัลเป็นประวัติศาสตร์ให้กับคาชิมะจากลูกโทษที่จุดโทษ. นี่เป็นครั้งแรกที่ระบบผู้ช่วยผู้ตัดสินจากการใช้วิดีโอตัดสิน (วีเออาร์) ได้ถูกนำมาใช้ในการมอบลูกโทษในกีฬาฟุตบอล, โดยเป็นการตรวจสอบดูวิดีโอจากภาพช้ามาตัดสินใจโดยคัสไซ. การพิจารณาใหม่ได้ริเริ่มขึ้นหลังจากคัสไซได้รับข้อมูลมาจากผู้ตัดสินชาวดัตช์ ดันนี มัคเคอไล เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการตัดสินที่ผิดพลาดในกรอบเขตโทษของอัตเลติโก นาซิอองนาล.[8] โชะมะ โดะอิ ประสบความสำเร็จจากการซัดจุดโทษทำให้ทีมขึ้นนำได้สำเร็จ. ยะสุชิ เอ็นโดะ มาเพิ่มสกอร์หนีห่างให้กับทีมในนาทีที่ 83, ก่อนที่ ยุมะ ซุซุกิ จะทำประตูในอีกสองนาทีถัดมา, ปิดท้ายด้วยชัยชนะ 3–0 ให้กับ คาชิมะ และส่งให้พวกเขาทะลุเข้าสู่นัดชิงชนะเลิศได้เป็นผลสำเร็จ.[9]
นัด
แก้รายละเอียด
แก้เรอัลมาดริด | 4–2 (ต่อเวลาพิเศษ) | คาชิมะ แอนต์เลอส์ |
---|---|---|
แบนเซมา 9' โรนัลโด 60' (ลูกโทษ), 98', 104' |
รายงาน | ชิบะซะกิ 44', 52' |
เรอัลมาดริด[10]
|
คาชิมะ แอนต์เลอส์[10]
|
ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำนัด:[1]
|
ผู้ช่วยผู้ตัดสิน:
|
ข้อมูลในการแข่งขัน[11]
|
สถิติ
แก้
|
|
|
|
อ้างอิง
แก้- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 "Match overview Real Madrid, C.F. - Kashima Antlers". FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. 16 December 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 17, 2016. สืบค้นเมื่อ 16 December 2016.
- ↑ 2.0 2.1 2.2 2.3 2.4 "Match report – Final – Real Madrid, C.F. v Kashima Antlers" (PDF). FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. 18 December 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ December 20, 2016. สืบค้นเมื่อ 18 December 2016.
- ↑ "Atletico Nacional 0 Kashima Antlers 3". BBC Sport. 14 ธันวาคม พ.ศ. 2558. สืบค้นเมื่อ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2559.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ "Kashima Antlers beat Atlético Nacional to reach Club World Cup final". Guardian. 14 ธันวาคม พ.ศ. 2558. สืบค้นเมื่อ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2559.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ "Real overcome America to reach final". FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. 15 ธันวาคม ค.ศ. 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-12-18. สืบค้นเมื่อ 18 ธันวาคม ค.ศ. 2016.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=
และ|date=
(help) - ↑ "Kashima Antlers fight back to overcome Auckland". FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. 8 ธันวาคม ค.ศ. 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-12-20. สืบค้นเมื่อ 18 ธันวาคม ค.ศ. 2016.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=
และ|date=
(help) - ↑ "Endo, Mu sink Sundowns". FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. 11 ธันวาคม ค.ศ. 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-12-20. สืบค้นเมื่อ 18 ธันวาคม ค.ศ. 2016.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=
และ|date=
(help) - ↑ "Video review used for penalty decision in FIFA Club World Cup Japan 2016 semi-final". FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. 14 ธันวาคม ค.ศ. 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-12-20. สืบค้นเมื่อ 14 ธันวาคม ค.ศ. 2016.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=
และ|date=
(help) - ↑ "Antlers down Atletico Nacional to reach final". FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. 14 ธันวาคม ค.ศ. 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-12-16. สืบค้นเมื่อ 18 ธันวาคม ค.ศ. 2016.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=
และ|date=
(help) - ↑ 10.0 10.1 "Start list Real Madrid, C.F. - Kashima Antlers" (PDF). FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. 18 ธันวาคม ค.ศ. 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2018-12-12. สืบค้นเมื่อ 18 ธันวาคม ค.ศ. 2016.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=
และ|date=
(help) - ↑ "Regulations – FIFA Club World Cup Japan 2016" (PDF). FIFA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2018-12-11. สืบค้นเมื่อ 2016-12-15.
- ↑ "Match report, Half-time Real Madrid, C.F. - Kashima Antlers 1:1" (PDF). FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. 18 ธันวาคม ค.ศ. 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2018-12-11. สืบค้นเมื่อ 18 ธันวาคม ค.ศ. 2016.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=
และ|date=
(help)