ไฮเกอ กาเมอร์ลิง โอนเนิส

ไฮเกอ กาเมอร์ลิง โอนเนิส (ดัตช์: Heike Kamerlingh Onnes; 21 กันยายน ค.ศ. 185321 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1926) เป็นนักฟิสิกส์ชาวดัตช์ เกิดที่เมืองโกรนิงเงิน เป็นบุตรของฮาร์ม กาเมอร์ลิง โอนเนิส และอันนา แกร์ดีนา กูร์ส[2] มีน้องชายและน้องสาวชื่อแม็นโซและแจ็นนีตามลำดับ ในปี ค.ศ. 1870 กาเมอร์ลิง โอนเนิสเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยโกรนิงเงินและเรียนกับโรแบร์ท บุนเซิน และกุสทัฟ เคียร์ชฮ็อฟที่มหาวิทยาลัยไฮเดิลแบร์คระหว่างปี ค.ศ. 1871–1873 ต่อมาเขาเรียนจบปริญญาโทและปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยโครนิงเงินและเป็นผู้ช่วยโยฮันเนิส โบสส์คา ผู้อำนวยการวิทยาลัยสารพัดช่างเดลฟท์[3] (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเดลฟท์)

ไฮเกอ กาเมอร์ลิง โอนเนิส
เกิด21 กันยายน ค.ศ. 1853(1853-09-21)
โกรนิงเงิน เนเธอร์แลนด์
เสียชีวิต21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1926(1926-02-21) (72 ปี)
ไลเดิน เนเธอร์แลนด์
สัญชาติดัตช์
ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยไฮเดิลแบร์ค
มหาวิทยาลัยโกรนิงเงิน
มีชื่อเสียงจาก
รางวัล
อาชีพทางวิทยาศาสตร์
สาขาฟิสิกส์
สถาบันที่ทำงานมหาวิทยาลัยไลเดิน
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเดลฟท์
อาจารย์ที่ปรึกษาโรแบร์ท บุนเซิน
กุสตาฟ เคอร์ชอฟฟ์
โยฮันเนิส โบสส์คา
ลูกศิษย์ในระดับปริญญาเอก

ระหว่างปี ค.ศ. 1882–1923 กาเมอร์ลิง โอนเนิสดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์ทดลองที่มหาวิทยาลัยไลเดิน ต่อมาในปี ค.ศ. 1904 เขาก่อตั้งห้องปฏิบัติการด้านไครโอจีนิกส์และเชิญนักวิจัยหลายท่านมาร่วมงาน ในวันที่ 10 กรกฎาคม ค.ศ. 1908 กาเมอร์ลิง โอนเนิสประสบความสำเร็จในการสร้างฮีเลียมเหลวจากการศึกษาวัฏจักรแฮมป์สัน–ลินด์และปรากฏการณ์จูล–ทอมสัน เขาสามารถลดอุณหภูมิจนถึงจุดเดือดของฮีเลียม (−269 °ซ, 4.2 เคลวิน) และเมื่อลดความดันของฮีเลียมเหลว กาเมอร์ลิง โอนเนิสสามารถลดอุณหภูมิได้เกือบถึง 1.5 เคลวิน (-271.65 °ซ) ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ต่ำที่สุดในโลกในขณะนั้น ปัจจุบันอุปกรณ์ที่โอนเนิสใช้สร้างฮีเลียมเหลวเป็นครั้งแรกอยู่ที่พิพิธภัณฑ์บูร์ฮาเฟอที่เมืองไลเดิน[2]

ต่อมาในวันที่ 8 เมษายน ค.ศ. 1911 กาเมอร์ลิง โอนเนิสพบว่าที่อุณหภูมิ 4.2 เคลวิน (-268.95 °ซ) ความต้านทานไฟฟ้าในสายปรอทในฮีเลียมเหลวมีค่าเป็นศูนย์ เขาจึงตระหนักว่าความต้านทานไฟฟ้าจะลดลงเมื่ออุณหภูมิต่ำลง[4] และตีพิมพ์งานวิจัยหลายชิ้นโดยเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า "สภาพนำยวดยิ่ง" (superconductivity) ในปี ค.ศ. 1913 กาเมอร์ลิง โอนเนิสได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์จากการศึกษาคุณสมบัติของสารที่อุณหภูมิต่ำและการสร้างฮีเลียมเหลว[5]

ด้านชีวิตส่วนตัว กาเมอร์ลิง โอนเนิสแต่งงานกับมารียา อาดรียานา วิลเฮลมีนา เอลีซาเบต ไบเลอเฟลด์ในปี ค.ศ. 1887 ทั้งคู่มีบุตรด้วยกัน 1 คน[6] กาเมอร์ลิง โอนเนิสเสียชีวิตที่เมืองไลเดินในปี ค.ศ. 1926 ต่อมาชื่อเขาได้รับการนำไปตั้งเป็นชื่อแอ่งดวงจันทร์[7]

อ้างอิง แก้

  1. Howard, Irmgard (2002). "H Is for Enthalpy, Thanks to Heike Kamerlingh Onnes and Alfred W. Porter". Journal of Chemical Education. ACS Publications. 79 (6): 697. Bibcode:2002JChEd..79..697H. doi:10.1021/ed079p697.
  2. 2.0 2.1 "The Nobel Prize in Physics 1913: Heike Kamerlingh Onnes". Nobel Media AB. สืบค้นเมื่อ 24 April 2012.
  3. "Heike Kamerlingh Onnes - Biography". Encyclopedia.com. สืบค้นเมื่อ December 17, 2016.
  4. van Delft, Dirk (2007) Freezing physics, Heike Kamerlingh Onnes and the quest for cold, Edita, Amsterdam, ISBN 9069845199.
  5. "The Nobel Prize in Physics 1913". Nobelprize.org. สืบค้นเมื่อ December 17, 2016.
  6. "Heike Kamerlingh Onnes - Biography". NNDB. สืบค้นเมื่อ December 17, 2016.
  7. "Kamerlingh Onnes - The-Moon Wiki". Wikispaces. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-05-31. สืบค้นเมื่อ December 17, 2016.

แหล่งข้อมูลอื่น แก้