ไบรอัน เมย์
บทความนี้อาจต้องการตรวจสอบต้นฉบับ ในด้านไวยากรณ์ รูปแบบการเขียน การเรียบเรียง คุณภาพ หรือการสะกด คุณสามารถช่วยพัฒนาบทความได้ |
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
เซอร์ ไบรอัน ฮาโรลด์ เมย์ CBE (อังกฤษ: Sir Brian Harold May) เกิดเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1947 ที่เมืองมิดเดิลเซกส์ ในประเทศอังกฤษ เข้าเรียนที่โรงเรียน Hampton Grammar School และเขาศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาที่ Imperial College London มหาวิทยาลัยชื่อดังของอังกฤษ ในสาขาฟิสิกส์และคณิตศาสตร์
ไบรอัน เมย์ | |
---|---|
เมย์ในปี 2017 | |
ข้อมูลพื้นฐาน | |
ชื่อเกิด | Brian Harold May |
เกิด | Hampton, London, England | 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1947
แนวเพลง | Rock |
อาชีพ |
|
เครื่องดนตรี |
|
ช่วงปี | 1963–present |
ค่ายเพลง | |
การศึกษา | Hampton Grammar School |
ศิษย์เก่า | Imperial College London (BSc, PhD) |
คู่สมรส | Christine Mullen (สมรส 1976; หย่า 1988) Anita Dobson (สมรส 2000) |
บุตร | 3 |
รางวัล | Inductee, Rock & Roll Hall of Fame (2001) CBE (2005) |
อาชีพทางวิทยาศาสตร์ | |
วิทยานิพนธ์ | A survey of radial velocities in the zodiacal dust cloud (2008) |
อาจารย์ที่ปรึกษาในระดับปริญญาเอก | |
มีอิทธิพลต่อ | |
เว็บไซต์ | brianmay |
เขาได้พบกับ โรเจอร์ เทเลอร์ เพื่อนมือกลองของจากต่างมหาวิทยาลัย ที่ในขณะนั้นโรเจอร์ เทเลอร์กำลังศึกษาอยู่ที่วิทยาลัยแพทย์ London Hospital Medical College พวกเขาได้ขึ้นแสดงดนตรีและร้องเพลงด้วยกันอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งมือเบสของวงในตอนนั้น ได้ขออกจากวง พวกเขาทั้งสองยังคงตัดสินใจที่จะเดินหน้าเล่นดนตรีต่อไปเรื่อย ๆ จนพบกับ หนุ่มสายเลือดอินเดียที่เกิดในแอฟริกาชื่อว่า ฟารุค บัลซารา หรือที่เรารู้จักกันในนาม เฟรดดี เมอร์คูรี นักร้องคนใหม่ของวง และต่อมาอีกไม่นานก็ได้มือเบสคนใหม่ที่ชื่อว่า จอห์น ดีคอน เข้ามาร่วมวง (ไม่แน่ใจว่าในตอนนั้นไบร์อันให้ทำข้อสอบก่อนเข้าร่วมวงไหม เพราะแต่ละคนฉลาดไม่ธรรมดากันเลยทีเดียว)
พวกเขาทั้ง 4 คนได้ร่วมตัวกันเป็นวงดนตรีขึ้นมาอีกครั้งในนาม Queen พวกเขาออกตระเวนเล่นดนตรีตามคลับต่าง ๆ รวมไปถึงคลับชื่อดัง The Marquee คลับชื่อดังในลอนดอนด้วย หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ทำเพลงขึ้นมา 5 เพลงเพื่อยื่นเสนอให้กับค่ายเพลงต่าง ๆ แต่ก็ไม่มีค่ายไหนยินยอมให้เซ็นสัญญา จนกระทั่งพวกเขาได้รู้จักกับ Norman และ Barry Sheffield ซึ่งเป็นเจ้าของห้องบันทึกเสียง Trident Stidios โดยมีข้อแม้ว่าพวกจะได้ใช้ห้องอัดนั้นก็ต่อเมื่อห้องอัด ไม่มีคิวที่จะอัดแล้ว จึงจะได้อัด นั้นทำให้การอัดนั้นลากยาวมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงเดือนพฤศจิกายน ปี 1972
ในปีต่อมาอัลบั้มแรกของพวกเขาก็ได้ถูกเผยแพร่ต่อประชาชน พวกเขาได้รับทั้งคำชมและคำด่าอย่างหนัก แต่ยอดขายกลับไม่สวยงามอย่างที่คิดไว้ ต่อมาอัลบั้มที่ 2 ของพวกเขาก็ได้วางขายในตลาดอีกครั้ง และเริ่มประสบความสำเร็จขึ้นมาบ้าง จนกระทั่ง Sheer Heart Attack ผลงานในปี 1977 ทำให้พวกเขาได้รับความนิยมไปทั่วยุโรปและอเมริกา แถมยังขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ในอังกฤษอีกด้วย และต่อมาพวกเขาก็ได้ออกอัลบั้ม News Of The World ที่มีบทเพลงเชียอมตะเช่น We Will Rock You และเพลง We Are The Champions ซึ่งเป็นเพลงที่เปิดตลอดเมื่อจบการแข่งขันกีฬาต่าง ๆ และก็ยังเป็นที่ติดหูมาจนถึงในสมัยปัจจุบันนี้
วิทยานิพนธ์ แก้
ในช่วงเวลาที่เขาใช้ชีวิตอยู่บนทางแห่งเสียงดนตรีและเสียงเพลงนั้น ไบรอัน เมย์ยังเรียนไม่จบ เขายังอยู่ในช่วงการศึกษาต่อปริญญาเอกในสาขาฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัย Imperial College London โดยเขาได้ทำการศึกษาเรื่องแสงตกกระทบของฝุ่นระหว่างดวงดาวและความเร็วของแนวฝุ่นในระบบสุริยะ แต่ภาระหน้าที่ในวง Queen นั้นทำให้เขาวางมือการเป็นดอกเตอร์เอาไว้ก่อนแล้วหันไปใส่ใจกับการแสดงคอนเสริตที่อเมริกาแทน
โดยงานวิทยานิพนธ์ของเขาที่ดองมาเป็นเวลา 30 ปีนั้น มีชื่อว่า A Survey of Radial Velocities in the Zodiacal Dust Cloud ซึ่งเป็นการศึกษาเกี่ยวกับ ฝุ่นระหว่างดาวเคราะห์ ซึ่งฝุ่นระหว่างดาวเคราะห์เหล่านี้ทำให้แสงอาทิตย์เกิดการกระเจิง เรียกกันว่า “แสงจักรราศี” สำหรับใครที่อยากจะศึกษาวิทยานิพนธ์อันคงกระพัน 30 ปีของนักกีต้าร์ชื่อดังก็สามารถดาวน์โหลดได้ ที่นี่
สำรวจดาวพลูโต แก้
ในฐานะนักกีต้าร์ของวง Queen แล้วหลังจากการแสดงบนเวที เขาก็ได้ใช้เวลาช่วงนั้นในทีมยานอวกาศนิวฮอร์ไรซอนส์ (New Horizons) ซึ่งไบรอัน เมย์ ก็ได้โพสเกี่ยวกับประสบการณ์การการทำงานของเขาที่ไม่มีวันลืมเลื่อนใน 3 วันกับทีมงานนิวฮอร์ไรซอนส์ เขาได้ขอบคุณ Alan Stern หัวหน้าทีมวิทยาศาสตร์ของ ALP ในเมือง Laurel รัฐ Maryland ที่ทำให้เขามั่นใจว่าเขาได้รับการปฏิบัติเหมือนกับว่าเขาเป็นครอบครัวคนหนึ่งและในฐานะผู้ร่วมงานกัน
แล้วนอกจากที่เขาช่วยรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลนั้น เขายังได้ทำภาพสเตอริโอที่มีคุณภาพสูงของดาวพลูโตเป็นครั้งแรก ซึ่งเขาได้โพสในวันจันทร์ ที่ 20 เดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2015 ในเว๊บไซต์ของเขาเอง
ตอนนี้เราสามารถพูดได้ว่านี้คือภาพสเตอริโอของดาวพลูโตที่มีคุณภาพสูงที่สุด เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของดาวพลูโตที่เคยถ่ายรูปมา เพราะภาพทางขวานี้เป็นภาพรูปลักษณ์ล่าสุดที่ถ่ายได้เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2015 จาก NH และรูปทางด้านซ้ายได้ทำการดาวน์โหลดจาก NH เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2015 ส่วนไบรอัน เมย์แค่ปรับทิศทางของรูปเพื่อให้เข้ากันได้ดีขึ้น และปรับแต่งสีให้เข้ากันได้อย่างสวยงาม
ผู้พาเพื่อนผู้ล่วงลับให้โลกจดจำตลอดกาลในฐานะดวงดาว แก้
นอกจากไบรอัน เมย์ หรือถ้าจะเรียกให้ดีขึ้นก็คือ ดร.ไบรอัน เมย์ เรียนจบปริญญาเอกด้านฟิสิกส์ดาราศาสตร์จาก Imperial College London เขาได้ศึกษาข้อมูลด้านดาวเคราะห์น้อย และเป็นส่วนหนึ่งของผู้ก่อตั้ง “วันดาวเคราะห์น้อย” เพื่อกระตุ้นสำนึกต่อภัยอันตรายจากดาวเคราะห์น้อยที่จะมาชนโลก
ในการสำรวจดาวเคราะห์น้อย หมายเลข 17473 เป็นดาวเคราะห์น้อยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3.5 กิโลเมตร มันโคจรอยู่ระหว่างวงโคจรของดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี ถูกค้นพบโดย H. Debehogne จากหอดูดาว ESO‘s La Silla Observatory ในประเทศชิลี เมื่อวันที่ 21 เดือนมีนาคมปี ค.ศ. 1991 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่เฟร็ดดี นักร้องนำวง Queen ได้เสียชีวิตลง
ไบรอัน เมย์ เขาได้ประกาศกับแฟน ๆ กว่า 1,250 คน ในงานแสดงดนตรีที่สวิสเซอร์แลนด์ว่า ดาวเคราะห์น้อย 17473 ได้รับชื่อว่า “Freddiemercury” ตามนักร้องนำวง Queen ผู้ล่วงลับ ในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันเกิด 70 ปีของเขา ส่วนด้านล่างนี้คือคลิปวีดีโอที่ ไบรอัน เมย์ ได้พูดถึงดาวเคราะห์น้อยเฟรดดี เมอร์คิวรี่
นอกจากดาวเคราะห์น้อย 17473 Freddiemercury ที่ตั้งตามชื่อนักร้องนำของวง Queen แล้ว ก่อนหน้านี้ยังมีดาวเคราะห์น้อยอีกดวงหนึ่งที่ตั้งตามชื่อนักกีต้าร์ของวง Queen นั้นก็คือ ดาวเคราะห์น้อย 52665 Brianmay ซึ่งชื่อนี้ถูกเสนอโดย เซอร์แพทริค มัวร์ เพื่อนนักดาราศาสตร์ของเขาเอง และนั้นทำให้ ไบรอัน เมย์ ได้กลายเป็นนักดนตรีคนแรกที่มีชื่อตัวเองเป็นชื่อดาวเคราะห์น้อยที่ถูกค้นพบในปี 1988
หนังสือแทนใจจากไบรอัน เมย์ แก้
นอกจากผลงานที่กล่าวมาทั้งหมดแล้ว ไบรอัน เมย์ ยังได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับดาราศาสตร์ร่วมกับเพื่อน ๆ ของเขา นั้นก็คือ Bang! – The Complete History of the Universe ที่ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 2006 ในหนังสือเล่มนี้ไบรอันได้พูดถึงต้นกำเนิดจักรวาล ในสมัยก่อนหน้านี้ 13.7 พันล้านปี กล่าวถึงวิวัฒนาการของจักรวาลและสรรพสิ่งต่าง ๆ ดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์ หลุมดำ ควาซาร์ สสารต่าง ๆ รวมไปถึงเขาได้พูดถึงจุดสิ้นสุดของกาลเวลาไว้ในเล่มนี้อีกด้วย
และในปี ค.ศ. 2012 ไบรอัน เมย์และเพื่อน ๆ ของเขาได้ตีพิมพ์หนังสือเรื่อง The Cosmic Tourist อีกเล่ม ด้านในหนังสือจะให้อารมณ์เหมือนกับพวกเขาทั้งสามคน ไบรอัน เมย์, คริส ลินต็อตต์และแพท มัวร์ พาคนที่อ่านไปเที่ยวอวกาศ สถานที่ในอวกาศที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่ดาวเคราะห์น้อยไปจนถึงกาแลกซีที่อยู่ห่างไกลจากเรามากที่สุด นำเสนอความสวยงามที่พวกเขาได้พบ จากการดูกล้องโทรทรรศน์ที่ดีที่สุดหรือบางรูปอาจจะเป็นรูปที่ถ่ายโดยพวกเขาเอง
สำหรับใครที่อยากได้หนังสือทั้งสองเล่มนี้ไปครอบครอง ในปัจจุบันนี้สามารถสั่งซื้อทางออนไลน์ ในเว๊บไซต์ Amazon (คลิ๊กที่นี้) ในราคาเพียง 29.38 เหรียญสหรัฐ หรือจะคิดเป็นเงินไทยประมาณ 944 บาท
ภาพยนตร์เรื่อง Bohemian Rhapsody ภาพยนตร์ที่สร้างจากชีวิตจริงของวงดนตรีชื่อดัง Queen โดยหนังเรื่อง Bohemian Rhapsody นั้นเป็นเหมือนการเฉลิมฉลองความเป็นตำนานของวง Queen วงร็อคที่เปลี่ยนโฉมหน้าและปฏิวัติวงการเพลงไปตลอดกาล ด้านล่างนี้เป็นวีดีโอแนะนำภาพยนตร์และตัวอย่างภาพยนตร์เรื่องนี้ไบรอัน เมย์ เกิดเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1947 ที่เมืองมิดเดิลเซกส์ ในประเทศอังกฤษ เข้าเรียนที่โรงเรียน Hampton Grammar School และเขาศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาที่ Imperial College London มหาวิทยาลัยชื่อดังของอังกฤษ ในสาขาฟิสิกส์และคณิตศาสตร์
เขาได้พบกับ โรเจอร์ เทเลอร์ เพื่อนมือกลองของจากต่างมหาวิทยาลัย ที่ในขณะนั้นโรเจอร์ เทเลอร์กำลังศึกษาอยู่ที่วิทยาลัยแพทย์ London Hospital Medical College พวกเขาได้ขึ้นแสดงดนตรีและร้องเพลงด้วยกันอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งมือเบสของวงในตอนนั้น ได้ขออกจากวง พวกเขาทั้งสองยังคงตัดสินใจที่จะเดินหน้าเล่นดนตรีต่อไปเรื่อย ๆ จนพบกับ หนุ่มสายเลือดอินเดียที่เกิดในแอฟริกาชื่อว่า ฟารุค บัลซารา หรือที่เรารู้จักกันในนาม เฟรดดี เมอร์คูรี นักร้องคนใหม่ของวง และต่อมาอีกไม่นานก็ได้มือเบสคนใหม่ที่ชื่อว่า จอห์น ดีคอน เข้ามาร่วมวง (ไม่แน่ใจว่าในตอนนั้นไบร์อันให้ทำข้อสอบก่อนเข้าร่วมวงไหม เพราะแต่ละคนฉลาดไม่ธรรมดากันเลยทีเดียว)
พวกเขาทั้ง 4 คนได้ร่วมตัวกันเป็นวงดนตรีขึ้นมาอีกครั้งในนาม Queen พวกเขาออกตระเวนเล่นดนตรีตามคลับต่าง ๆ รวมไปถึงคลับชื่อดัง The Marquee คลับชื่อดังในลอนดอนด้วย หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ทำเพลงขึ้นมา 5 เพลงเพื่อยื่นเสนอให้กับค่ายเพลงต่าง ๆ แต่ก็ไม่มีค่ายไหนยินยอมให้เซ็นสัญญา จนกระทั่งพวกเขาได้รู้จักกับ Norman และ Barry Sheffield ซึ่งเป็นเจ้าของห้องบันทึกเสียง Trident Stidios โดยมีข้อแม้ว่าพวกจะได้ใช้ห้องอัดนั้นก็ต่อเมื่อห้องอัด ไม่มีคิวที่จะอัดแล้ว จึงจะได้อัด นั้นทำให้การอัดนั้นลากยาวมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงเดือนพฤศจิกายน ปี 1972
ในปีต่อมาอัลบั้มแรกของพวกเขาก็ได้ถูกเผยแพร่ต่อประชาชน พวกเขาได้รับทั้งคำชมและคำด่าอย่างหนัก แต่ยอดขายกลับไม่สวยงามอย่างที่คิดไว้ ต่อมาอัลบั้มที่ 2 ของพวกเขาก็ได้วางขายในตลาดอีกครั้ง และเริ่มประสบความสำเร็จขึ้นมาบ้าง จนกระทั่ง Sheer Heart Attack ผลงานในปี 1977 ทำให้พวกเขาได้รับความนิยมไปทั่วยุโรปและอเมริกา แถมยังขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ในอังกฤษอีกด้วย และต่อมาพวกเขาก็ได้ออกอัลบั้ม News Of The World ที่มีบทเพลงเชียร์อมตะเช่น We Will Rock You และเพลง We Are The Champions ซึ่งเป็นเพลงที่เปิดตลอดเมื่อจบการแข่งขันกีฬาต่าง ๆ และก็ยังเป็นที่ติดหูมาจนถึงในสมัยปัจจุบันนี้
อ้างอิง แก้
- ↑ 1.0 1.1 1.2 May, Brian Harold (2008). A survey of radial velocities in the zodiacal dust cloud (PDF) (วิทยานิพนธ์ PhD). Imperial College London. Bibcode:2008srvz.book.....M. doi:10.1007/978-0-387-77706-1. hdl:10044/1/1333. ISBN 9780387777054. OCLC 754716941. [[EThOS]] uk.bl.ethos.443586
- ↑ 2.0 2.1 2.2 ไบรอัน เมย์ at the Mathematics Genealogy Project