โตโยต้า วีออส (อังกฤษ: Toyota Vios , Yaris Sedan ) เป็นรถรุ่นตระกูลที่โตโยต้า ออกแบบมาเพื่อมาแทนที่รถรุ่นโซลูน่า (Soluna) เริ่มผลิตรุ่นแรกใน พ.ศ. 2545 โดยจัดเป็นรถขนาดเล็กมาก (Subcompact Car) โดยทั่วไปจะนิยมนำรถวีออสไปใช้งานเป็นรถยนต์ส่วนตัวและเชิงพาณิชย์(บางบริษัท) แต่มีการนำไปใช้เป็นรถแท็กซี่ในบางประเทศ เช่นในอินโดนีเซีย จะมีรถวีออสสำหรับทำเป็นแท็กซี่จำหน่ายในชื่อ "โตโยต้า ลิโม่" (ต่างจากในประเทศไทย ที่รถโตโยต้า ลิโม่ คือรุ่นโคโรลล่าที่มีการตัด Option ต่างๆ ออก เพื่อให้รถมีราคาถูก เหมาะกับการซื้อไปเป็นแท็กซี่เช่า) และมีการนำไปปรับแต่งและใช้เป็นรถแข่ง

โตโยต้า วีออส
ภาพรวม
บริษัทผู้ผลิตโตโยต้า
เรียกอีกชื่อ
เริ่มผลิตเมื่อตุลาคม พ.ศ. 2545–ปัจจุบัน
ตัวถังและช่วงล่าง
ประเภทรถยนต์นั่งขนาดเล็กมาก
รูปแบบตัวถัง
โครงสร้างเครื่องวางหน้า
ขับเคลื่อนล้อหน้า
รุ่นที่คล้ายกันโตโยต้า ยาริส
ระยะเหตุการณ์
รุ่นก่อนหน้า

วีออส เป็นคู่แข่งทางธุรกิจกับรถยนต์หลายรุ่น ที่สำคัญๆ คือ ฮอนด้า ซิตี้, เชฟโรเลต อาวีโอ ด้วยความที่ถูกออกแบบมาให้เป็นรถส่วนบุคคลขนาดเล็กราคาถูก

รุ่นที่ 1 (XP40: พ.ศ. 2545-2550) แก้

 
โตโยต้า วีออส โฉมที่ 1 (โซลูน่า วีออส)

โตโยต้า วีออส โฉมแรกนี้ ผลิตในประเทศไทยที่ โรงงานโตโยต้าเกตเวย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา โรงงาน TMP ในประเทศฟิลิปปินส์ และ TFTM ในประเทศจีน โดยส่งออกไปขายยัง อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, บรูไน, สิงคโปร์ และไต้หวัน โดยรถวีออสโฉมที่ 1 ในประเทศเหล่านี้จะใช้เครื่องยนต์ 1NZ-FE ความจุ 1.5 ลิตร สำหรับรถวีออสโฉมนี้ในประเทศฟิลิปปินส์จะใช้เครื่องยนต์ 2NZ-FE ความจุ 1.3 ลิตร ส่วนรถวีออสโฉมนี้ในประเทศจีนจะใช้เครื่องยนต์แบบ 8A-FE / 2SZ-FE โดยโฉมแรกนี้ เริ่มขายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงต้นปี พ.ศ. 2546

มีตัวถังแบบเดียว คือ แบบซีดาน 4 ประตู โดยในระยะแรกในประเทศไทยจะจำหน่ายในชื่อ โตโยต้า โซลูน่า วีออส (Toyota Soluna Vios) เพื่อแสดงว่าเป็นโฉมใหม่ของโตโยต้า โซลูน่า และยังได้บริตนีย์ สเปียส์มาเป็นพรีเซ็นเตอร์แต่ต่อมาจึงได้ยกเลิกชื่อโซลูน่า เพื่อทำการตลาดในชื่อรุ่นชื่อใหม่ คือ "วีออส"

รุ่นย่อยในประเทศไทยได้แก่ 1.5 S, 1.5 E และ 1.5 J

  • 1.5 S เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด เป็นรุ่นท็อปที่สุด ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ ปรับด้วยไฟฟ้า มือจับประตูด้านนอกแบบโครเมียม มีคิ้วกันกระแทกด้านข้าง มีสีภายใน 2 สี คือสีเบจ (ตกแต่งลายไม้) และสีดำ (ตกแต่งด้วยสีเมทัลลิก) พร้อมด้วยเบาะผ้าสีเดียวกันกับสีภายใน วิทยุแบบเทป พร้อมเครื่องเล่น CD 1 แผ่น 4 ลำโพง มาตรวัดแบบดิจิตอล กระจกหน้าต่างไฟฟ้าทั้ง 4 บาน พร้อมระบบเลื่อนขึ้นและลงด้านคนขับแบบอัตโนมัติ ในส่วนของระบบความปลอดภัย มีการติดตั้งระบบสัญญาณเตือนการโจรกรรม TVSS พร้อมรีโมท และมีระบบเบรก ABS พร้อมถุงลมนิรภัยเฉพาะด้านคนขับ (เฉพาะรุ่น S ได้เรือนไมล์วัดความเร็วแบบดิจิตอล)
  • 1.5 E เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด เป็นรุ่นรองลงมา ล้ออัลลอยขนาด 14 นิ้ว กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ ปรับด้วยไฟฟ้า มือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ มีคิ้วกันกระแทกด้านข้าง มีสีภายใน 2 สีเช่นเดียวกับรุ่น S คือสีเบจ (ตกแต่งลายไม้) และสีดำ พร้อมด้วยเบาะผ้าสีเดียวกันกับสีภายใน (ยกเว้นสีภายในสีดำ เบาะผ้าจะเป็นสีเทา) วิทยุแบบเทป 4 ลำโพง มาตรวัดแบบอนาล็อก กระจกหน้าต่างไฟฟ้าทั้ง 4 บาน พร้อมระบบเลื่อนขึ้นและลงด้านคนขับแบบอัตโนมัติ ในส่วนของระบบความปลอดภัย มีระบบเบรก ABS พร้อมถุงลมนิรภัยเฉพาะด้านคนขับ (เฉพาะรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ซึ่งมีให้เลือก)
  • 1.5 J เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด เป็นรุ่นต่ำที่สุด ล้อกระทะขนาด 14 นิ้ว กระจกมองข้างสีดำ ปรับด้วยมือ มือจับประตูด้านนอกสีดำ สีภายในมีเพียงสีเดียวคือสีดำ พร้อมด้วยเบาะผ้าสีเทา วิทยุแบบเทป 4 ลำโพง มาตรวัดแบบอนาล็อก กระจกหน้าต่างเป็นแบบมือหมุนทั้ง 4 บาน

ต่อมาในปี พ.ศ. 2547 ได้มีการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์มาตรฐานเล็กน้อยในรุ่น 1.5 J โดยมีการเปลี่ยนกระจกมองข้างและมือจับประตูด้านนอกเป็นสีเดียวกับตัวรถ โดยกระจกมองข้างยังคงปรับด้วยมือ ส่วนภายในมีการเปลี่ยนกระจกหน้าต่างจากแบบมือหมุนทั้ง 4 บาน เป็นแบบไฟฟ้าทั้ง 4 บาน พร้อมระบบเลื่อนขึ้นและลงด้านคนขับแบบอัตโนมัติ ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆยังเหมือนเดิม

และเมื่อต้นปี พ.ศ. 2549 ได้มีการปรับโฉม (Minor Change)

วีออส เทอร์โบ แก้

โตโยต้า วีออส โฉมแรกนี้ เคยมีการผลิตและจำหน่ายรุ่นพิเศษ คือโตโยต้า วีออส เทอร์โบ (อังกฤษ: Toyota Vios Turbo) โดยมีการจัดทำรถรุ่นนี้ขึ้นในจำนวน 600 คัน และจำหน่ายเฉพาะในประเทศไทย โดยรุ่นพิเศษนี้ ยังคงเป็นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรแบบเดิม แต่มีการติดตั้งเทอร์โบ และระบบอินเตอร์คูลเลอร์โดยสำนักแต่งรถ TRD หรือ Toyota Racing Development ในรหัสใหม่ 1NZ-FE Turbo ซึ่งเป็นสำนักแต่งรถที่ขึ้นกับโตโยต้า ประเทศญี่ปุ่นโดยตรง ทำให้มีแรงม้าเพิ่มขึ้นเป็น 143 แรงม้า นอกจากนี้ยังได้เพิ่มอุปกรณ์ตกแต่งตัวรถ ทำให้ดูแตกต่างไปจากรุ่นปกติ

รายละเอียดทางเทคนิค แก้

ขนาด & น้ำหนัก
ความยาว (มิลลิเมตร) 4285
ความกว้าง (มิลลิเมตร) 1695
ความสูง (มิลลิเมตร) 1435
ความยาวช่วงล้อ (มิลลิเมตร) 2500
ความกว้างช่วงล้อ (มิลลิเมตร) หน้า x หลัง 1455 x 1430
ระดับต่ำสุดจากพื้น (มิลลิเมตร) 143
น้ำหนักรถ (กิโลกรัม) 960 - 1050
ความจุกระโปรงท้ายรถ VDA (ลิตร) 400
รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด (เมตร) 4.9
เครื่องยนต์ 1NZ-FE
แบบเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง DOHC 16V พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVT-i
ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก (มิลลิเมตร) 75.0 x 84.7
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี) 1,497
อัตราส่วนกำลังอัด 10.5 : 1
แรงม้าสูงสุด (กิโลวัตต์ (แรงม้า) / รอบต่อนาที) 80 (109) / 6000
แรงบิดสูงสุด (นิวตัน-เมตร (kg-m) / รอบต่อนาที) 142 (14.5) / 4200
ระบบจ่ายน้ำมัน EFI (Electronic Fuel Injection)
ความจุถังน้ำมัน 45
ระบบขับเคลื่อน & ระบบกันสะเทือน
ระบบขับเคลื่อน อัตโนมัติ 4 จังหวะแบบร่องตรง (Slide) ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ SuperECT
ระบบช่วงล่าง - หน้า อิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบช่วงล่าง - หลัง คานบิดแบบ ETA-Beam พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบเบรก - หน้า ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน
ระบบเบรก - หลัง ดิสก์เบรก (ในรุ่น S และ E) / ดรัมเบรก (ในรุ่น J )
ขนาดยาง 175 / 65 R14 ( รุ่น J,E ), 185 / 55 R15 ( รุ่น S )
แบตเตอรี่ แบตเตอรี่ชนิดตะกั่วกรด รหัส 46B24R [1]

รุ่นที่ 2 (XP90: พ.ศ. 2550-2555) แก้

 
โตโยต้า เบลต้า
 
โตโยต้า วีออส โฉมที่ 2 (เวอร์ชันจีน)
 
โตโยต้า วีออส โฉมที่ 2

โฉมที่สองของวีออสเปิดตัวครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น ในปี 2549 โดยใช้ชื่อว่า "โตโยต้า เบลต้า" และเปิดตัวในตลาดอเมริกาเหนือ, ตะวันออกกลาง, อเมริกาใต้, ลาตินอเมริกา, ออสเตรเลีย ช่วงต้นปี 2550 โดยใช้ชื่อ "โตโยต้า ยาริส ซีดาน" ส่วนในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใช้ชื่อว่า "โตโยต้า วีออส" เปิดตัวในประเทศไทยครั้งแรกวันที่ 8 และ 9 มีนาคม พ.ศ. 2550 ที่สยามพารากอน ในวงการรถมือสองของไทยจะเรียกโฉมนี้ว่า "โฉมเห็บหมา" เนื่องจากลักษณะตัวรถคล้ายกับเห็บเพศเมีย หรือเห็บกระดุมที่เกาะอยู่บนตัวสุนัข

นอกเหนือจากการใช้เป็นรถยนต์ส่วนบุคคลแล้ว ยังมีการนำไปปรับแต่งและใช้เป็นรถแข่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแข่งขัน โตโยต้า วีออส วันเมคเรซ ซึ่งเป็นการแข่งรถในประเทศไทยที่ทางโตโยต้าจัดขึ้น

การแข่งรถมี 2 รุ่นได้แก่

Toyota Vios One Make Race Class C

Toyota Vios One Make Race Lady Cup

นักแข่งดาราในนามของ Toyota Team Star. (2010 - 2012)

รุ่น Vios One Make Race Class C อธิกิตติ์ พริ้งพร้อม , วริษฐ์ ทิพโกมุท , ศิริศิลป์ โชติวิจิตร (กวาง เอบีนอร์มอล) ,

รุ่น Vios One Make Race Lady Cup ชัชฎาภรณ์ ธนันทา , สุคนธวา เกิดนิมิตร , เฟี้ยวฟ้าว สุดสวิงริงโก้ , ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ , นาตาลี เดวิส , แอริณ ยุกตะทัต , อารยา เอ ฮาร์เก็ต

ในปี 2550 - 2551 ในเมืองไทยมีการแบ่งการผลิตวีออสออกเป็น 3 รุ่นมาตรฐาน ได้แก่

  • รุ่น J เป็นรุ่นล่างสุด มาพร้อมระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรก BA / กระทะล้อขนาด 15 นิ้ว พร้อมฝาครอบ ไฟตัดหมอกหลัง (ระบบป้องกันการโจรกรรม TVSS พร้อมรีโมทเป็นอุปกรณ์เสริม) กระเป๋าเก็บเอกสารหลังผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า
  • รุ่น E เป็นเกรดกลาง เพิ่มอุปกรณ์จากรุ่น J มากขึ้นคือ ระบบป้องกันการโจรกรรม TDS พร้อมรีโมทที่ด้ามกุญแจ ล้อแม็กซ์อัลลอยด์ 5 ก้าน ขนาด 15 นิ้ว ไฟตัดหมอกหลัง และภายในห้องโดยสารสามารถเลือกโทนสีได้ 2 แบบคือ สีครีม (Ivory) และ สีเทาดำ (Dark Grey) และไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง
  • รุ่น E Safety เป็นเกรดรองสูงสุด เพิ่มถุงลมนิรภัยคู่หน้า และและเข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับอัตโนมัติ ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ เหมือนรุ่น E
  • รุ่น G เป็นเกรดสูงสุด เพิ่มอุปกรณ์ภายใน เช่น เครื่องเสียงแบบ 6 ลำโพง หน้าปัดแบบออปติตรอนพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีฟ้า ติดตั้งไฟตัดหมอกหน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ภายในห้องโดยสารหุ้มด้วยหนัง สามารถเลือกโทนสีได้ 2 แบบคือ สีครีม (Ivory) และ สีดำ (Dark Grey) ที่พักแขนพร้อมหลุมวางแก้วน้ำบริเวณผู้โดยสารตอนหลัง และเบาะหลังสามารถพับทะลุไปห้องเก็บสัมภาระได้ ในอัตราส่วน 60/40

และเพิ่ม 3 รุ่นพิเศษ ได้แก่

  • รุ่น S-Limited เพิ่มอุปกรณ์ชุดแต่งจากโรงงานรอบคัน พร้อมปรับแต่งโช้คอัพ และสปริงให้มีความแข็งมากกว่ารุ่นอื่น หน้าปัดแบบออปติตรอนพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีส้ม ส่วนภายในแบบสปอร์ตสีเทาควันบุหรี่ ทั้งเบาะหุ้มหนัง พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนังสีดำ รวมถึงเบาะผู้โดยสารตอนหลังสามารถพับทะลุไปห้องเก็บสัมภาระได้ ในอัตราส่วน 60/40 ไฟหน้าแบบ Bi-Xenon ปรับระดับสูง - ต่ำ แปรผันอัตโนมัติตามน้ำหนักรถ เปลื่ยนระบบเบรกหลังจากดรัมเป็นดิสก์เบรก
  • รุ่น G-Limited เพิ่มอุปกรณ์จากรุ่น G เช่น ระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Entry เปิด - ปิดประตูแบบสัมผัส พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่อง หรือ Push Start และระบบป้องกันการโจรกรรมกุญแจเลียนแบบหรือ Immobilizer สามารถเลือกโทนสีได้ 2 แบบคือ สีครีม (Ivory) และ สีดำ (Dark Grey)
  • รุ่น GT Street โดยการนำรุ่น J มาตกแต่งในรูปแบบพิเศษ สเกิร์ตรอบคันทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง สปอยเลอร์และสติกเกอร์ GT Street ที่ฝากระโปรงหลัง ท่อไอเสียพร้อมฝาครอบ สแตนเลส และสติกเกอร์ด้านข้างดีไซน์สปอร์ต ส่วนภายในใช้โทนสีแดงดำ ทั้งผ้าเบาะ สีแดงกับสีดำ รวมถึงพวงมาลัยหุ้มหนัง หัวเกียร์หุ้มหนังเดินด้ายสีแดง คอนโซลหน้าสุดสปอร์ตสีดำ-แดง และเปลี่ยนล้อกระทะ เป็นล้อแม็กซ์ขนาด 15 นิ้ว (ลายเดียวกันกันยาริส ไมเนอร์เชนจ์ G/E Grade) โดยจะทำการผลิตเพียง 1,000 คัน

ความปลอดภัย แก้

ระบบป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

ระบบเบรก ABS (Anti-lock Braking System) แบบ 4 channel 4 Sensor ป้องกันล้อล็อกขณะเบรกกะทันหัน หรือเบรกบนถนนลื่น

ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-Force Distribution) จะช่วยกระจายแรงดันน้ำมันเบรกโดยการแปรผันตามน้ำหนักที่กดลงในแต่ละล้อและควบคุมแรงเบรกขณะเข้าโค้งอย่างอิสระ ช่วยเสริมประสิทธิภาพการเบรกให้มีความสมดุล ป้องกันการไถลของล้อขณะเข้าโค้งและเหยียบเบรกกะทันหัน

ในกรณีบรรทุกเต็มพิกัด ระบบ EBD จะเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรกที่ล้อคู่หลังขณะบรรทุก และ ควบคุมแรงเบรกของล้อทั้งหมดขณะเข้าโค้งเพื่อเสริมประสิทธิภาพการหยุดให้สูงที่สุด

ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist) ในกรณีเบรกแบบกะทันหัน ระบบ BA จะช่วยเพิ่มแรงเบรกในระบบ โดยคอมพิวเตอร์จะอ่านค่าจากการเหยียบของผู้ขับว่ามีแรงกระทำมากและนานเท่าไร ช่วยเสริมการหยุดรถได้ในระยะที่สั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ระบบปกป้องเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA พัฒนาการล่าสุดของโครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA ที่ให้ความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกด้วยโครงสร้างห้องโดยสารที่แข็งแกร่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับแรงกระแทกจากการชน ให้ถ่ายเทไปสู่ส่วนต่างๆ ของตัวถัง เพื่อให้ลดความเสียหายห้องโดยสารน้อยที่สุด โดยระบบดูดซับแรงกระแทกที่สามารถดูดซับแรงกระแทกลดความรุนแรงจากการชนด้วยการกระจายแรงสู่ตัวถัง พร้อมคานนิรภัยด้านหน้าและด้านข้างเพิ่มความแข็งแกร่ง และความปลอดภัยให้กับห้องโดยสารเมื่อเกิดการชน

ระบบลดแรงกระแทกศีรษะด้านข้าง ออกแบบเพื่อช่วยลดแรงกระแทกที่ศีรษะของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

ถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS ปกป้องทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ช่วยลดการบาดเจ็บของศีรษะและหน้าอก จากแรงปะทะซึ่งเกิดจากการชนด้านหน้า (ในรุ่น E Safety, G, G-Limited, S-Limited)

เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าพร้อมระบบกลไกดึงกลับ และผ่อนแรงดึงอัตโนมัติ (Pretensioner & Force Limiter) ช่วยรั้งร่างกายผู้ขับขี่และผู้โดยสารให้แนบกับเบาะเมื่อเกิดการชน ป้องกันการบาดเจ็บจากแรงกระแทก

เบาะนั่งคู่หน้าแบบ WIL Concept ป้องกันการบาดเจ็บของกระดูกต้นคอเมื่อเกิดการชนจากด้านหลัง


NHTSA หน่วยงานด้านความปลอดภัยยานยนต์ทางบกของสหรัฐอเมริกา ให้คะแนนผลทดสอบการชน Toyota Vios ดังนี้[2]

  • การชนด้านหน้าฝั่งผู้ขับขี่:      
  • การชนด้านหน้าฝั่งผู้โดยสาร:      
  • การชนด้านข้างฝั่งผู้ขับขี่ (ไม่มีถุงลมนิรภัยด้านข้าง):      
  • การชนด้านข้างฝั่งผู้โดยสาร (ไม่มีถุงลมนิรภัยด้านข้าง):      
  • การชนด้านข้างฝั่งผู้ขับขี่ (มีถุงลมนิรภัยด้านข้าง):      
  • การชนด้านข้างฝั่งผู้โดยสาร (มีถุงลมนิรภัยด้านข้าง):      
  • ทดสอบการพลิกคว่ำ:      

ผลทดสอบ


กลางปี 2551 - ต้นปี 2553 มีการเพิ่มรุ่น J มาตรฐาน และเปลื่ยนแปลงและลดอุปกรณ์บางอย่างในรุ่นปกติ เช่น


  • รุ่น J มาตรฐาน (ไม่มี ABS) เป็นเกรดล่างสุด ลดอุปกรณ์มาตรฐานบางอย่างออกไป เช่น วิทยุ CD/MP3/WMA ชนิด 2 ลำโพงมาตรฐาน วัสดุภายในสีดำ (Dark Grey) ล้อกระทะขนาด 14 นิ้วพร้อมยางขนาด 175/65 ยี่ห้อ Dunlop รุ่น SP10
  • รุ่น J ปกติ (มี ABS) ยกเลิกไฟตัดหมอกหลัง / ไม่มีกระเป๋าเก็บเอกสารหลังผู้ขับขี่ / เปลื่ยนยางเป็น Dunlop SP Sport 2030 ขนาดเดิม
  • รุ่น E ยกเลิกไฟเลี้ยวกระจกมองข้างโดยติดตั้งที่บริเวณบังโคลน เปลื่ยนวัสดุภายในเป็นสีดำให้เหมือนรุ่น J แต่ยังคงเลือกโทนสีได้ 2 แบบคือ สีครีม (Ivory) และ สีดำ (Dark Grey) ไม่มีกระเป๋าเก็บเอกสารหลังผู้ขับขี่ เปลื่ยนยางเป็นยี่ห้อ Dunlop รุ่น Sp Sport 2030 ขนาดเดิม
  • รุ่น E Safety ลดสเปคเหมือนรุ่น E

ส่วนรุ่น G / G Limited / S Limited ยังคงสเปคเดิมทุกประการเหมือนปี 2007


 
โตโยต้า วีออส โฉมที่ 2 (ปรับโฉม)

ในปี 2553 ในเมืองไทยมีการปรับโฉม 3 รุ่นมาตรฐาน โดยองค์ประกอบภายนอกทุกรุ่นได้เปลื่ยนแปลงกระจังหน้า ล้ออัลลอยลายใหม่ 12 ก้าน (ในรุ่นที่ใช้ล้ออัลลอย) และชุดไฟท้าย รวมถึงออกแบบมือจับฝากระโปรงท้ายใหม่ ส่วนภายในห้องโดยสารการเปลี่ยนแปลงคือ


  • รุ่น J มาตรฐาน (ไม่มี ABS) เป็นเกรดล่างสุด เปลื่ยนอุปกรณ์มาตรฐานบางอย่างเช่น มือจับประตูและฝากระโปรงท้ายจากสีเดียวกับตัวรถเป็นเป็นวัสดุสีดำ เปลื่ยนวัสดุหุ้มเบาะใหม่ และถอดฝาครอบล้อออก
  • รุ่น J ปกติ (ABS) เสริมระบบป้องกันการโจรกรรมแบบกุญแจ Immobilizer เปลื่ยนวัสดุหุ้มเบาะใหม่ และมือจับที่ฝากระโปรงท้ายออกแบบใหม่
  • รุ่น E เปลี่ยนเป็นพวงมาลัยลายสปอร์ต ระบบป้องกันการโจรกรรม TDS พร้อมรีโมทที่ด้ามกุญแจ และระบบ Immobilizer ล้อแม็กอัลลอยขนาด 15 นิ้วลายใหม่ ไฟตัดหมอกหลัง วัสดุคอนโซลแบบสีเมทัลลิค (เฉพาะกรอบด้านข้าง แต่แผงควบคุมเครื่องเสียงและเครื่องปรับอากาศยังเป็นสีดำ) ภายในห้องโดยสารสามารถเลือกโทนสีได้ 2 แบบคือ สีครีม (Ivory) และ สีดำ (Dark Grey) และเพิ่มจุดเชื่อมต่อวิทยุ (AUX) เปลื่ยนวัสดุหุ้มเบาะ และมือจับฝากระโปรงท้ายออกแบบใหม่ พร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ
  • รุ่น E Safety เพิ่มถุงลมนิรภัยคู่หน้าและเข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับอัตโนมัติ เปลื่ยนพวงมาลัยลายใหม่ และดิสก์เบรก 4 ล้อ ล้อแม็กอัลลอยขนาด 15 นิ้วลายใหม่ เปลื่ยนวัสดุหุ้มเบาะ
  • รุ่น G เปลื่ยนสีแผงควบคุมคอนโซลกลางเป็นแบบเปียโน แบล็ค (Piano Black) เปลื่ยนพวงมาลัยลายใหม่พร้อมชุดควบคุมเครื่องเสียง เพิ่มจุดเชื่อมต่อวิทยุ (AUX) ล้อแม็กอัลลอยขนาด 15 นิ้วลายใหม่ มือจับฝากระโปรงท้ายออกแบบใหม่ ฝาครอบไฟตัดหมอกหน้าลักษณะสีเมทัลลิค
  • รุ่น G Limited ยังคงสเปคเดิมเหมือนรุ่นปี 2007 แต่เปลื่ยนสีแผงควบคุมคอนโซลกลางเป็นแบบเปียโน แบล็ค (Piano Black) เปลื่ยนพวงมาลัยลายใหม่พร้อมชุดควบคุมเครื่องเสียง เพิ่มจุดเชื่อมต่อวิทยุ (AUX) ล้อแม็กอัลลอยขนาด 15 นิ้วลายใหม่ มือจับฝากระโปรงท้ายออกแบบใหม่ ฝาครอบไฟตัดหมอกหน้าลักษณะสีเมทัลลิค
  • ในรุ่น G และรุ่น G Limited ให้เลือกเป็นเบาะหนังสีเบจ หรือสีดำ
  • ยกเลิกการจำหน่ายรุ่น S Limited

ต่อมาในช่วงปลายปี 2555 ต้นปี 2556 ได้มีการปรับอุปกรณ์อีกครั้ง โดยให้มีแอร์แบคคู่หน้าในทุกรุ่นย่อย ไฟหน้ารมดำในทุกรุ่นย่อย กลับมาใช้พวงมาลัยทรงเดียวกับปี 2007 (แต่รุ่น G และ G Ltd. ยังคงสเปคเดิมคือพวงมาลัยทรงสปอร์ต) และสำหรับรุ่นที่มีล้อแม็ก จะเป็นแม็กอัลลอย 12 ก้านขนาด 15 นิ้ว (ลายเดียวกับปี 2553) รมดำให้ความสปอร์ตมากขึ้น


ทุกแบบใช้เครื่องยนต์ 1NZ-FE 1.5 ลิตร 109 แรงม้า และแรงบิด 14.4 กก./ม. เหมือนโฉมปี 2545 - 2550 โดยมีการเปลื่ยนแปลงครั้งใหญ่ คือ

  • ระบบคันเร่งจากเดิมที่ควบคุมด้วยสายเคเบิลมาเป็นระบบไฟฟ้า DBW หรือ Drive - By -Wire เรียกว่า ETCS-i โดยทำงานร่วมกับระบบ Canbus และระบบตรวจสอบข้อบกพร่อง OBD-II
  • ย้ายกล่องสมองกลติดตั้งในห้องเครื่อง และเพิ่มหน่วยความจำเป็น 32 Bit
  • เปลื่ยนตำแหน่งแบตเตอรี่ใหม่
  • เปลื่ยนท่อร่วมไอดีใหม่
  • เปลื่ยนตำแหน่งกรองอากาศใหม่ ให้มีระยะสั้นลงกว่าเดิม เพื่อให้อากาศเข้าเร็วขึ้น
  • เปลื่ยนยางแท่นเครื่องฝั่งคนขับแบบใหม่ชนิดไฮโดรลิก
  • เปลื่ยนตำแหน่งท่อแอร์ใหม่
  • เปลื่ยนตำแหน่งชุดแผงคอนเดนเซอร์แอร์ใหม่
  • เปลื่ยนหม้อน้ำใหม่
  • เปลื่ยนชุดพัดลมไฟฟ้าใหม่


ระบบจ่ายเชี้อเพลิงควบคุมโดยกล่อง ECU ขนาด 32 Bit ติดตั้งอยู่บริเวณห้องเครื่อง พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS ควบคุมด้วยสมองกล ECU พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังขับ 42 วัตต์ สามารถปรับความหนัก - เบา ตามความเร็วรถยนต์


ใช้เกียร์อัตโนมัติซึ่งเป็นลูกเดียวกับ Corolla Altis ในรุ่น 1.8 ในโฉม ZZE122R และ ZZE142R (รหัสเกียร์ U341E) ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ Super ECT โดยมีการพัฒนาจากวีออสโฉมปี 2545 - 2550 คือ

  • ใช้น้ำมันเกียร์ความหนืดต่ำแบบ ATF-WS
  • พัฒนาชุดคลัตช์ และ ระบบล็อกอัพ ทอร์คคอนเวอร์เตอร์ใหม่
  • เปลื่ยนแปลงชุดควบคุมคอมพิวเตอร์เกียร์ใหม่
  • เปลื่ยนชุดควบคุมคันเกียร์ จากเดิมแบบตรง มาเป็นแบบร่องหยัก และโหมดป้องกันการเข้าเกียร์ผิดโดยไม่ตั้งใจ พร้อมปุ่ม Shift Lock

มีระบบ Hill Sensing Control สำหรับการปีนป่ายขึ้นที่สูงและลงทางลาดชันได้อย่างไร้กังวล ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อหามุมองศาของการปีนป่ายที่สูงและลงทางชัน ระบบคอมพิวเตอร์จะป้องกันไม่ให้เปลี่ยนไปที่เกียร์สูงสุดโดยไม่จำเป็น หรือไม่ลดลงไปเกียร์ต่ำสุดเพื่อป้องกันการลื่นไถลของล้อกรณีปีนป่ายที่สูงและไม่ลาดชันจนเกินไป และในขาลง ก็จะคงที่ไว้ที่เกียร์สามเพื่อการขับขี่ที่มั่นคง และเบรกอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเรียนรู้การขับขี่ในแต่ละสภาพถนน เพื่อปรับเปลื่ยนจังหวะเกียร์ให้ขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด


ในวีออสโฉมปี 2550 - 2556 ทุกรุ่น จะมีระบบ

  • Auto Crank Start โดยผู้ขับขี่สามารถติดเครื่องยนต์โดยการบิดกุญแจไปที่ตำแหน่ง Start แล้วปล่อยมือได้ทันที ระบบจะทำการติดเครื่องด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องบิดกุญแจค้างไว้ (ในรุ่น G-Limited สามารถกดปุ่มสตาร์ทแล้วปล่อยมือได้ทันที เครื่องจะทำการสตาร์ทเองโดยอัตโนมัติ)
  • เครื่องเสียงพร้อมระบบ ASL หรือ Auto Sound-Speed Levelizer ปรับระดับเสียงขึ้น-ลง โดยอัตโนมัติตามความเร็วรถ และสามารถปรับได้สามระดับคือ Low Mid และ High พร้อมระบบ DSP (Digital Sound Processer) ช่วยเพี่มความสุนทรีย์ขณะฟังเพลง
  • ระบบไฟฟ้ามีการหน่วงเวลาชุดกระจกไฟฟ้า 45 วินาทีหลังจากดับเครื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่ กรณีจอดรถแล้วต้องการเปิดกระจก และระบบจะตัดการทำงาน เมื่อเปิดประตูคู่หน้าบานใดบานนึงออก หรือ หลังจาก 45 วินาทีเป็นต้นไป
  • ระบบหน่วงเวลาไฟเพดานกลางห้องโดยสารหลังจากดับเครื่อง 30 วินาที และตัดการทำงานเมื่อเปิดเกิน 1 ชั่วโมงขึ้นไป เพื่อป้องกันไฟแบตเตอรี่หมด

รายละเอียดทางเทคนิค แก้

ขนาด & น้ำหนัก
ความยาว (มิลลิเมตร) 4300
ความกว้าง (มิลลิเมตร) 1700
ความสูง (มิลลิเมตร) 1460
ความยาวช่วงล้อ (มิลลิเมตร) 2550
ความกว้างช่วงล้อ (มิลลิเมตร) หน้า x หลัง 1470 x 1460
ระดับต่ำสุดจากพื้น (มิลลิเมตร) 150
น้ำหนักรถ (กิโลกรัม) 1020 - 1065 (แล้วแต่รุ่น)
ความจุกระโปรงท้ายรถ VDA (ลิตร) 420 (550 ลิตร เมื่อพับเบาะหลัง)
รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด (เมตร) 4.9
เครื่องยนต์ 1NZ-FE
แบบเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง DOHC 16V พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVT-i
ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก (มิลลิเมตร) 75.0 x 84.7
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี) 1,497
อัตราส่วนกำลังอัด 10.5 : 1
แรงม้าสูงสุด (กิโลวัตต์ (PS) / รอบต่อนาที) 80 (109) / 6000
แรงบิดสูงสุด (นิวตัน-เมตร (kg-m) / รอบต่อนาที) 141 (14.4) / 4200
ระบบจ่ายน้ำมัน EFI (Electronic Fuel Injection)
ความจุถังน้ำมัน 42
ระบบขับเคลื่อน & ระบบกันสะเทือน
ระบบขับเคลื่อน อัตโนมัติ 4 จังหวะ แบบร่องหยัก (GATE-TYPE) ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ SuperECT
ระบบช่วงล่าง - หน้า อิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบช่วงล่าง - หลัง ทอร์ชั่นบีม คอยล์สปริง
ระบบเบรก - หน้า ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน
ระบบเบรก - หลัง ดรัมเบรก (ปี 2553 ดิสก์เบรกในรุ่น E/Safety และ G,G-LTD)
ขนาดยาง 185/60R15 ในรุ่น J,E,G,G-LTD,S-LTD และ 175/65R14 สำหรับรุ่น J มาตรฐาน
แบตเตอรี่ แบตเตอรี่ชนิดตะกั่วกรด รหัส 46B24L อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> เปิดผิดรูปหรือมีชื่อที่ใช้ไม่ได้

รุ่นที่ 3 (XP150: พ.ศ. 2556-2565) แก้

 
โตโยต้า วีออส โฉมที่ 3

โฉมที่ 3 ของวีออสเปิดตัวครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทยเมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2556 โดยมีสโลแกนว่า Have It All โดยรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดจากรุ่นที่ 2 แต่ยังคงใช้เครื่องยนต์ 1 NZ-FE 1.5 ลิตร 109 แรงม้า และแรงบิด 14.4 กก./ม. เหมือนรุ่นแรก พร้อมทั้งมีพรีเซนเตอร์คนใหม่ จิรายุ ตั้งศรีสุข และ จรินทร์พร จุนเกียรติ มีให้เลือกทั้งหมด 7 สีซึ่งได้แก่ 1. สีขาว 2. สีเบจ 3. สีเงิน 4. สีดำ 5. สีน้ำตาล 6. สีเทา 7. สีแดง โดยมีให้เลือก 4 รุ่นดังนี้

รุ่น J

  • ล้อกระทะพร้อมฝาครอบ 15 นิ้วลายใหม่ พร้อมยาง Dunlop SP Sport 2030 185/60R15
  • ภายในสีเทา Dark Gray
  • เบาะผ้าลายธรรมดา
  • กุญแจรีโมทแบบ Immobilizer (แบบไม่มีสัญญาณแจ้งเตือนผู้บุกรุกจากภายนอก)


รุ่น E

  • มีระบบเบรก ABS/EBD/BA
  • กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า
  • กุญแจรีโมท เพิ่มระบบสัญญาณแจ้งเตือนเมื่อผู้บุกรุกจากภายนอก (TDS)
  • ล้อแม็กอัลลอยขนาด 15 นิ้วลายใหม่ พร้อมยาง Dunlop SP Sport 2030 185/60R15
  • ไฟเบรกดวงที่สาม ในห้องโดยสาร
  • เบาะผ้าลายธรรมดา
  • เลือกสีภายในได้ระหว่างสีเทา Dark Gray กับสีเบจ Ivory


รุ่น G

  • ล้อแม็กแบบรุ่น E พร้อมยาง Dunlop SP Sport 2030 185/60R15
  • ไฟหน้าโปรเจกเตอร์
  • กระจังหน้าและคิ้วฝากระโปรงท้ายโครเมียม
  • ไฟเลี้ยวฝังบริเวณกรอบกระจกมองข้าง พร้อมพับไฟฟ้า
  • เลือกสีภายในได้ระหว่างสีเทา Dark Gray กับสีเบจ Ivory
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
  • สวิทช์ควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย
  • หน้าปัดพร้อมจอ MID
  • เบาะผ้าลายธรรมดา
  • มือเปิดประตูด้านในโครเมียม


รุ่น S

  • ล้อแม็ก 16 นิ้วรมดำ พร้อมยาง Bridgestone Turanza ER33 195/50R16
  • ไฟตัดหมอกหน้า
  • มือเปิดประตูด้านนอกโครเมียม
  • ภายในสีเทา Dark Gray พร้อมเบาะผ้าลายสปอร์ต
  • มาตรวัดพี้นหลังสีแดง
  • ระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Entry พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์แบบ Push Start

(เฉพาะรุ่น S และ G จะได้กระจกบังลมหน้ากันเสียงรบกวน Acoustic Glass )


รุ่น TRD Sportivo IV 2014 อิงพี้นฐานจากวีออสรุ่น J แต่มีการปรับเปลื่ยนคือ

  • ล้อแม็กซ์อัลลอย 15 นิ้วลายพิเศษเฉพาะ TRD
  • สเกิร์ตและสปอยเลอร์ TRD
  • สติ๊กเกอร์​และ​สัญลักษณ์ TRD
  • เบาะหนัง
  • เครื่องเล่น DVD จอสัมผัส 7" รองรับ Smart G-Book (รุ่น TRD Sportivo IV นี้ ไม่มี ระบบ ABS ป้องกันล้อล็อกและดิสเบรกหลังยังเป็นดรัมเบรกเพราะพื้นฐานมาจากตัว J )


ช่วงปลายปี พ.ศ. 2558 ได้มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดของอุปกรณ์ติดรถเล็กน้อย

  • รุ่น E

เพิ่มไฟเลี้ยวที่กรอบกระจกมองข้าง และ กระจกมองข้างสามารถพับเก็บด้วยไฟฟ้า

  • รุ่น TRD SPORTIVO V โดยการนำรุ่นพื้นฐานมาจากตัว J

รุ่น TRD Sportivo IV แต่เปลื่ยนล้ออัลลอย 15 นิ้วลายใหม่ ไฟหน้าโปรเจกต์เตอร์รมดำ กระจังหน้าสีดำ สติ๊กเกอร์ด้านข้างลายใหม่ ไฟเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ฝังในสเกิร์ตหน้าใต้ไฟตัดหมอก พร้อมชุดสเกิร์ตและสปอยเลอร์ TRD แบบใหม่รอบคัน เบาะนั่งโดยสารปักเย็บลายใหม่พร้อมสลักตัวอักษร TRD จอเครื่องเสียงแบบใหม่หลักการทำงานคล้าย Ui ของ ANDROID ขนาด 7 นิ้วพร้อมกล้องมองหลังรองรับ Dolby Digital CD DVD การฟังเพลงผ่าน Bluetooth การโทรศัพท์และยังรองรับการสั่งงานด้วยเสียง

(รุ่น TRD Sportivo V นี้ ไม่มี ระบบ ABS ป้องกันล้อล็อกและดิสเบรกหลังยังเป็นดรัมเบรกเพราะพื้นฐานมาจากตัว J )


ราคาอย่างเป็นทางการของโตโยต้า วีออส ปี 2556 - 2558

  • 1.5J M/T เกียร์ธรรมดา 559,000 บาท
  • 1.5J A/T เกียร์อัตโนมัติ 589,000 บาท
  • 1.5E M/T เกียร์ธรรมดา 614,000 บาท
  • 1.5E A/T เกียร์อัตโนมัติ 649,000 บาท
  • 1.5G A/T เกียร์อัตโนมัติ 699,000 บาท
  • 1.5S A/T เกียร์อัตโนมัติ 734,000 บาท

ทุกแบบใช้เครื่องยนต์ 1NZ-FE 1.5 ลิตร 109 แรงม้า และแรงบิด 14.4 กก./ม. เหมือนวีออสโฉมปี 2550 - 2556 โดยมีการปรับเปลื่ยนคือ

  • เปลื่ยนหม้อลมเบรกชนิด Dual - Servo
  • เปลื่ยนยางแท่นเครื่องแบบไฮโดรลิกรุ่นใหม่ทรงจั่ว
  • ย้ายตำแหน่ง ECU กลับเข้าไปห้องโดยสาร โดยอยู่ตำแหน่งหลังลี้นชักเก็บของฝั่งคนนั่ง
  • จูนอัพการตอบสนองคันเร่งไฟฟ้าใหม่
  • เพิ่มไฟแสดงการขับขี่แบบประหยัด (Eco) บนหน้าปัด โดยมีเฉพาะในรุ่นเกียร์อัตโนมัติเท่านั้น

และยังคงใช้ชุดเกียร์อัตโนมัติแบบร่องหยัก รหัสเกียร์ U341E เหมือนโฉมที่แล้ว ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ Super ECT มีระบบ Hill Sensing Control สำหรับการปีนป่ายขึ้นที่สูงและลงทางลาดชันได้อย่างไร้กังวล ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อหามุมองศาของการปีนป่ายที่สูงและลงทางชัน โดยคอมพิวเตอร์จะป้องกันไม่ให้เปลี่ยนไปที่เกียร์สูงสุดโดยไม่จำเป็น หรือไม่ลดลงไปเกียร์ต่ำสุดเพื่อป้องกันการลื่นไถลของล้อกรณีปีนป่ายที่สูงและไม่ลาดชันจนเกินไป และในขาลง ก็จะคงที่ไว้ที่เกียร์สามเพื่อการขับขี่ที่มั่นคง และเบรกอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเรียนรู้การขับขี่ในแต่ละสภาพถนน เพื่อปรับเปลื่ยนจังหวะเกียร์ให้ขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ความปลอดภัย แก้

ระบบป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

ระบบเบรก ABS (Anti-lock Braking System) แบบ 4 channel 4 Sensor ป้องกันล้อล็อกขณะเบรกกะทันหัน หรือเบรกบนถนนลื่น

ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-Force Distribution) จะช่วยกระจายแรงดันน้ำมันเบรกโดยการแปรผันตามน้ำหนักที่กดลงในแต่ละล้อและควบคุมแรงเบรกขณะเข้าโค้งอย่างอิสระ ช่วยเสริมประสิทธิภาพการเบรกให้มีความสมดุล ป้องกันการไถลของล้อขณะเข้าโค้งและเหยียบเบรกกะทันหัน

ในกรณีบรรทุกเต็มพิกัด ระบบ EBD จะเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรกที่ล้อคู่หลังขณะบรรทุก และ ควบคุมแรงเบรกของล้อทั้งหมดขณะเข้าโค้งเพื่อเสริมประสิทธิภาพการหยุดให้สูงที่สุด

ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist) ในกรณีเบรกแบบกะทันหัน ระบบ BA จะช่วยเพิ่มแรงเบรกในระบบ โดยคอมพิวเตอร์จะอ่านค่าจากการเหยียบของผู้ขับว่ามีแรงกระทำมากและนานเท่าไร ช่วยเสริมการหยุดรถได้ในระยะที่สั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA พัฒนาการล่าสุดของโครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA ที่ให้ความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกด้วยโครงสร้างห้องโดยสารที่แข็งแกร่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับแรงกระแทกจากการชน ให้ถ่ายเทไปสู่ส่วนต่างๆของตัวถัง เพื่อให้เกิดความเสียหายต่อห้องโดยสารน้อยที่สุด โดยระบบดูดซับแรงกระแทกที่สามารถดูดซับแรงกระแทกลดความรุนแรงจากการชนด้วยการกระจายแรงสู่ตัวถัง พร้อมคานนิรภัยด้านหน้าและด้านข้างเพิ่มความแข็งแกร่ง และความปลอดภัยให้กับห้องโดยสารเมื่อเกิดการชน

ระบบลดแรงกระแทกศีรษะด้านข้าง ออกแบบเพื่อช่วยลดแรงกระแทกที่ศีรษะของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

ถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS AIRBAG 2 ตำแหน่งปกป้องทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ช่วยลดการบาดเจ็บของศีรษะและหน้าอก จากแรงปะทะซึ่งเกิดจากการชนด้านหน้า

เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าพร้อมระบบกลไกดึงกลับ และผ่อนแรงดึงอัตโนมัติ (Pretensioner & Force Limiter) ช่วยรั้งร่างกายผู้ขับขี่และผู้โดยสารให้แนบกับเบาะเมื่อเกิดการชน ป้องกันการบาดเจ็บจากแรงกระแทก

เบาะนั่งคู่หน้าแบบ WIL Concept ป้องกันการบาดเจ็บของกระดูกต้นคอเมื่อเกิดการชนจากด้านหลัง

(โฉมปี 2013 1NZ-FE ไม่มีระบบการทรงตัว VSC ทุกรุ่น ใน ปี 2013 )

(เฉพาะโฉมเครื่อง 2NR-FBE ในปี 2559 ได้ระบบการทรงตัว VSC ทุกรุ่นในปี 2016)

รายละเอียดทางเทคนิค แก้

ขนาด & น้ำหนัก
ความยาว (มิลลิเมตร) 4410
ความกว้าง (มิลลิเมตร) 1700
ความสูง (มิลลิเมตร) 1475
ความยาวช่วงล้อ (มิลลิเมตร) 2550
ความกว้างช่วงล้อ (มิลลิเมตร) หน้า x หลัง 1470 x 1460 (1455 x 1445 ในรุ่น S)
ระดับต่ำสุดจากพื้น (มิลลิเมตร) 145
น้ำหนักรถ (กิโลกรัม) 1020 - 1065 (แล้วแต่รุ่น)
ความจุกระโปรงท้ายรถ VDA (ลิตร) 430 (ทุกรุ่นพับเบาะหลังไม่ได้)
รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด (เมตร) 5.1
เครื่องยนต์ 1NZ-FE
แบบเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง DOHC 16V พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VVT-i
ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก (มิลลิเมตร) 75.0 x 84.7
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี) 1,497
อัตราส่วนกำลังอัด 10.5 : 1
แรงม้าสูงสุด (กิโลวัตต์ (PS) / รอบต่อนาที) 80 (109) / 6000
แรงบิดสูงสุด (นิวตัน-เมตร (kg-m) / รอบต่อนาที) 141 (14.4) / 4200
ระบบจ่ายน้ำมัน EFI (Electronic Fuel Injection)
ความจุถังน้ำมัน 42
ระบบขับเคลื่อน & ระบบกันสะเทือน
ระบบขับเคลื่อน อัตโนมัติ 4 จังหวะ แบบร่องหยัก (GATE-TYPE) ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ SuperECT
ระบบช่วงล่าง - หน้า อิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบช่วงล่าง - หลัง ทอร์ชั่นบีม คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบเบรก - หน้า ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน
ระบบเบรก - หลัง ดรัมเบรก (ดิสก์เบรกในรุ่น S และ G)
ขนาดยาง 195/50R16 ในรุ่น S และ 185/60R15 สำหรับทุกรุ่น
แบตเตอรี่ แบตเตอรี่ชนิดตะกั่วกรด รหัส 46B24L อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> เปิดผิดรูปหรือมีชื่อที่ใช้ไม่ได้

ในปี พ.ศ. 2559 ได้มีการออกตัวถัง MY2016 เปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์ใหม่ รหัส 2NR-FBE พร้อมเกียร์ CVT และยกระดับความปลอดภัยมากขึ้น

สาเหตุที่ต้องเปลี่ยนไปใช้เครื่องใหม่เนื่องจากเทคโนโลยีของ 1NZ-FE เก่าแล้วทำให้เกิดการปล่อยไอเสียเยอะกว่าและอัตราการประหยัดน้ำมันแย่กว่าเดิม

Toyota จึงได้วิจัยเครื่องใหม่

มีชื่อว่า 2NR-FBE เครื่องนี้มีความจุ 1496cc จับคู่กับเกียร์อัตราทดแปรผันเป็น CVT 7 สปีดแล้วซึ่งการวิจัยเครื่องนี้เน้นการเร่งอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและประหยัดน้ำมันได้อีก 70% จากเครื่อง 1NZ-FE ที่เป็นเทคโนโลยีเก่าเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

รายละเอียดทางเทคนิค แก้

เครื่องยนต์ 2NR-FBE
แบบเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง DOHC 16V พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ Dual VVT-i
ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก (มิลลิเมตร) 72.0 x 90.6
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซีซี) 1,496
อัตราส่วนกำลังอัด 11.5 : 1
แรงม้าสูงสุด (กิโลวัตต์ (PS)5WK /50168 รอบต่อนาที) AV79 15K601 ACE7C30 (030)(108) / 6000
แรงบิดสูงสุด (นิวตัน-เมตร (kg-m) / รอบต่อนาที) 140 (14.3) / 4200
ระบบจ่ายน้ำมัน EFI (Electronic Fuel Injection)
ความจุถังน้ำมัน 42
ระบบขับเคลื่อน
ระบบขับเคลื่อน CVT 7 จังหวะ แบบร่องหยัก (GATE-TYPE) พร้อมโหมด Manual (+/-)

วีออส ปี 2559 ได้มีการเปลี่ยนเครื่องยนต์เป็น 2NR-FBE และอิงออปชั่นจากตอนเปิดตัวปี 2556 และภายในทุกรุ่นเปลี่ยนแค่ฐานเกียร์ใหม่แบบ +/- โดยยังคงรูปแบบร่องหยัก (Gate Type) พร้อม Shift Lock เหมือนเดิม โดยมีราคาเปลี่ยนแปลงดังนี้

  • 1.5 J CVT 599,000 บาท. (เพิ่ม 10,000 บาท)
  • 1.5 E CVT 669,000 บาท. (เพิ่ม 20,000 บาท
  • 1.5 G CVT 714,000 บาท. (เพิ่ม 15,000 บาท)
  • 1.5 E Exclusive 719,000 บาท. (รุ่นพิเศษชุดแต่งดีไซน์จากตัวโฉม TRD Sportivo V เน้น Luxury มากขึ้นลดความ Sport ลง)
  • 1.5 S CVT 749,000 บาท. (เพิ่ม 15,000 บาท)

โดยรุ่นย่อยใหม่ 1.5 Exclusive CVT โดยพื้นฐานมาจากรุ่น E มีอุปกรณ์ที่แตกต่างดังนี้

ภายนอก

  • สเกิร์ตหน้า, สเกิร์ตข้าง, สเกิร์ตหลัง ดีไซน์จากโฉม TRD Sportivo V เดิมก่อนหน้านี้ เน้นความ หรูหรา Luxury ลดความ Sport ลดลง
  • ไฟหน้าแบบโปรเจกเตอร์ แสงสีส้ม
  • ไฟ Daytime Running Light แบบ LED บริเวณ ใต้ไฟตัดหมอกหน้า
  • ไฟตัดหมอกหน้า แสงสีส้ม
  • กระจังหน้าโครเมียม
  • กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ปรับและพับเก็บด้วยไฟฟ้า
  • มือจับประตูด้านนอกโครเมียม
  • คิ้วฝากระโปรงท้ายโครเมียม
  • ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว ลายใหม่
  • กล้องมองหลังพร้อมเส้นกะระยะ
  • สัญลักษณ์ Exclusive ด้านท้ายรถ

ภายในห้องโดยสาร

  • สีภายในห้องโดยสาร โทนสีดำ
  • เบาะหนังสีดำลายกราฟิก
  • คอนโซลหน้าและแผงประตูตกแต่งด้วยลายไฮโดรกราฟิกสีเทา
  • พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนังตกแต่งด้วย Piano Black
  • เครื่องเล่น DVD/CD/MP3 รองรับ Dolby Digital หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว T-Connect พร้อมช่องต่อ USB / HDMI / SD Card
  • ระบบเชื่อมต่อ Hands-free แบบไร้สาย Bluetooth
  • ถาดใส่ของ และ กล่องเก็บสัมภาระท้ายรถ
  • ชุดอุปกรณ์เติมลมยาง Air Compressor Kit

วีออส โฉมปี 2559 ที่ใช้เครื่องยนต์ 2NR-FBE มีระบบความปลอดภัยในทุกรุ่นย่อยเป็นอุปกรณ์มาตรฐานจากโรงงาน เช่น ระบบ ABS, EBD, BA, VSC พร้อมสวิตช์ เปิด - ปิด การทำงาน อยู่บริเวณฝั่งคนขับ, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC และถุงลมนิรภัยคู่หน้า

โตโยต้าได้ยกเลิกเกียร์ธรรมดาในวีออส ทำให้รุ่นย่อย 1.5 E M/T และ 1.5 J M/T ถูกยกเลิกไปในช่วงของการเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ ซึ่งนั่นแสดงว่าโตโยต้าไม่มีรถยนต์นั่งขนาดเล็กเกียร์ธรรมดาในไทยในช่วงเวลานี้ เพราะ โตโยต้า ยาริส เครื่องยนต์ 1.2 ลิตรก็เปิดตัวด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ทั้งหมด เหลือเพียงรถยนต์นั่งขนาดกลางอย่าง "โคโรลล่า อัลติส ไมเนอร์เชนจ์" รุ่นย่อย J M/T ในราคา 799,000 เพียงตัวเลือกเดียวเท่านั้น

รุ่นปรับปรุงปี 2560 แก้

 
โตโยต้า วีออส รุ่นปรับโฉมปี 2560
 
โตโยต้า ยาริส เอทีฟ คู่หูของ โตโยต้า วีออส

รุ่นปรับปรุงปี 2560 ของโตโยต้า วีออส เปิดตัวเมื่อวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2560 ตามหลังประเทศจีน โดยมีกระจังหน้าแบบใหม่ที่เหมือนโตโยต้า วีออส โฉมจีน และโตโยต้า คัมรี่โฉม XV60 ที่เปิดตัวไปก่อนหน้า ใช้เครื่องยนต์ 2NR-FBE เหมือนรุ่นปรับโฉมปี 2559 และมีระบบความปลอดภัย เช่น กระจกมองข้างปรับและพับเก็บด้วยไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว, ABS, EBD, BA, VSC พร้อมสวิตช์ เปิด - ปิด การทำงาน อยู่บริเวณฝั่งคนขับ, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC และถุงลมนิรภัยคู่หน้า ในทุกรุ่นย่อย ซึ่งตั้งแต่รุ่น E ขึ้นไปจะมีไฟตัดหมอกหน้าและเซนเซอร์กะระยะด้านท้ายเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และตั้งแต่รุ่น G ขึ้นไปจะมีจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน มีราคาเปลี่ยนแปลงดังนี้

  • รุ่น 1.5J CVT ราคา 609,000 บาท (เพิ่ม 10,000 บาท)
  • รุ่น 1.5E CVT ราคา 679,000 บาท (เพิ่ม 10,000 บาท)
  • รุ่น 1.5G CVT ราคา 729,000 บาท (เพิ่ม 10,000 บาท)
  • รุ่น 1.5S CVT ราคา 789,000 บาท (เพิ่ม 40,000 บาท) เพิ่มเบาะหนังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

จนถึงทุกวันนี้ทำยอดขายที่เริ่มจะน้อยลง เนื่องจาก โตโยต้า ยาริส เอทีฟ มียอดขายสูงกว่า Toyota ส่ง Vios MY2019 “ Super SPEC ” ด้วยการเปลื่ยนชื่อรุ่นย่อยเช่น Entry, Mid และ High พร้อมกับปรับอุปกรณ์มากขึ้นเช่น กล้องติดหน้ารถยนต์,ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED,รุ่น Mid เพิ่มออฟชั่นให้กับรุ่น High เช่น ไฟหน้า LED,หน้าจอสัมผัส 7 นิ้ว และอื่นๆ ที่เพิ่มเข้ามา อีกทั้ง ยกเลิกทำตลาดรุ่นย่อย 1.5 E CVT และ ภายในห้องโดยสารสีเบจ

  • รุ่น 1.5 Entry 609,000 บาท
  • รุ่น 1.5 Mid 699,000 บาท
  • รุ่น 1.5 High 789,000 บาท

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปใน VIOS MY2019

  • รุ่น 1.5 Mid
    • เพิ่ม เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสีดำ
    • ราคา ปรับลดลง 30,000 บาท
  • รุ่น 1.5 High
    • เพิ่ม กล้องบันทึกการขับขี่ ด้านหน้ารถ และ เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหลัง 2 ตำแหน่ง ไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED

รุ่นที่ 4 (AC100; พ.ศ. 2565-ปัจจุบัน) แก้

Fourth generation (AC100)
 
ภาพรวม
เรียกอีกชื่อโตโยต้า วีออส (อาเซียน)
โตโยต้า ยาริส เอทีฟ (ประเทศไทย)
โตโยต้า ยาริส (ตะวันออกกลาง และ ละตินอเมริกา)
เริ่มผลิตเมื่อพ.ศ. 2565–ปัจจุบัน
แหล่งผลิต
ตัวถังและช่วงล่าง
รูปแบบตัวถังรถเก๋ง 4 ประตู รูปทรงท้ายสั้น (Fastback)
แพลตฟอร์มสถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ของไดฮัทสุ: ดีเอ็นจีเอ-B
รุ่นที่คล้ายกัน
ระบบส่งกำลัง
เครื่องยนต์
  • เบนซิน:
  • 1.2 L 3NR-VE w/Dual VVT-iE I4 (NGC100)
  • 1.3 L 1NR-VE I4 (NGC101)
  • 1.5 L 2NR-VE I4 (NGC102)
ระบบเกียร์
  • 5-สปีด ธรรมดา (มีบางประเทศ)
  • 7-สปีด Super CVT-i พร้อมระบบล็อกเกียร์
มิติ
ระยะฐานล้อ2,620 mm (103.1 in)
ความยาว4,425 mm (174.2 in)
ความกว้าง1,740 mm (68.5 in)
ความสูง1,475 mm (58.1 in)

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2565 บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงข่าวเปิดตัวรถยนต์ โตโยต้า วีออส รุ่นที่สี่ในชื่อ ALL NEW TOYOTA YARIS ATIV ที่ TOYOTA ALIVE บางนา กม.3 โดยได้ทำโครงสร้างตัวถังใหม่ ภายใต้แพลตฟอร์ม Daihatsu New Global Architecture (DNGA) จากความร่วมมือของทั้งโตโยต้า และไดฮัทสุ[4] และออกแบบสไตล์ ”Fastback style” ส่งผลให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศต่ำเพียง 0.284

ทุกรุ่นของรุ่นนี้ จะมาพร้อมกับ Push start, ชุดไฟหน้า Full LED, ล้ออัลลอยด์ Two tone ขนาด 16 นิ้ว, พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง พร้อมปุ่มเลือกโหมดการขับขี่ ECO / Normal / Power บนพวงมาลัย และวิทยุหน้าจอสัมผัส พร้อมรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto

ในแง่ความปลอดภัย ทุกรุ่น จะมาพร้อมกับอุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐาน แต่ในรุ่น Smart ขึ้นไป จะมี Toyota Safety Sense 2.5+ มาให้ด้วย ส่วนในรุ่น PREMIUM ขึ้นไป จะมาพร้อมกับระบบห้ามล้อแบบดิสเบรก ทั้ง 4 ล้อ

ซึ่งในประเทศไทย จะมาพร้อมกับสเปคพิเศษ เช่น ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร 64 เฉดสี , เบาะหนังสีแดง , ชิ้นส่วนตกแต่งภายนอกสีเทาเมทัลลิก และลำโพงระดับ Premium จาก Pioneer จำนวน 6 ตำแหน่ง

ส่วนเครื่องยนต์ ในประเทศไทย จะใช้ เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว ขนาด 1.2 ลิตร Dual VVT-iE รหัส 3NR-VE กำลังสูงสุด 94 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 110 นิวตัน-เมตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i และระบบล็อกเกียร์ 7 จังหวะ

โดยในการเปิดตัวในประเทศไทยนี้ มีเป้าหมายการขายที่ 3,500 คันต่อเดือน โดยการทำตลาดนั้น ได้นำคุณ กันต์พิมุกต์ ภูวกุล หรือแบมแบม อดีต K-POP จากวง GOT7 มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ภายใต้สโลแกน Our Beloved นี่แหละ...รถของเรา[5]

หลังจากนั้น บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้เผยยอดจองรถคันนี้ โดยใน 12 วันนับตั้งแต่วันที่เปิดตัว มียอดจองมากกว่า 8,000 คัน[6] และใน 1 เดือนนับตั้งแต่วันที่เปิดตัว มียอดจองมากกว่า 21,300 คัน[7]

รุ่นย่อย แก้

รุ่น เครื่องยนต์ ราคาเปิดตัว ราคาปัจจุบัน หมายเหตุ
PREMIUM LUXURY 3NR-VE 1.2 ลิตร เบนซิน 689,000 บาท 699,000 บาท
PREMIUM 659,000 บาท 669,000 บาท
SMART 584,000 บาท 594,000 บาท
SPORT 539,000 บาท 549,000 บาท รุ่นเริ่มต้น

ราคายังไม่รวมชุดอุปกรณ์ตกแต่งมาตรฐาน LUSSO (ลูสโซ่) , CHIARO (เคียโร่) และ PRESTO (เพรสโต้)

มีทั้งหมด 7 สี คือสีเงิน Metal Stream , สีเทา Urban Metal , สีแดง Red Mica Metallic , สีดำ Attitude Black Mica , สีขาว Super White , สีส้ม Spicy Scarlet และสีขาวมุก Platinum White Pearl

สีส้ม Spicy Scarlet และสีขาวมุก Platinum White Pearl เป็นสีพิเศษ , สีขาว Super White จะมีในรุ่น SPORT และ SMART , สีขาวมุก Platinum White Pearl จะมีในรุ่น PREMIUM และ PREMIUM LUXURY[5]

การยุติจำหน่าย โตโยต้า วีออส ในประเทศไทย แก้

หลังการเปิดตัวรถยนต์ ALL NEW TOYOTA YARIS ATIV ทางบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้ประกาศการยุติสายพานการผลิตรถยนต์นั่งขนาดเล็กในกลุ่ม 4 ประตู (ซีดาน) ในรุ่น โตโยต้า วีออส (Toyota VIOS) ในโรงงานประกอบรถยนต์ของ โตโยต้า ในตลอดระยะเวลา 19 ปี

เนื่องจากโตโยต้า วีออส และ โตโยต้า ยาริส เอทีฟ เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม 4 ประตูซีดานเช่นเดียวกัน และในด้านภาษีสรรพสามิต โตโยต้า ยาริส เอทีฟ จะมีอัตราเสียภาษีสรรพสามิต น้อยกว่า โตโยต้า วีออส ถึง 8 เปอร์เซ็นต์[8][9]

เปิดตัวชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ Toyota Yaris ATIV MODELLISTA แก้

ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 ได้เปิดตัวชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ MODELLISTA x ASAVA โดยมีแนวคิดในการพัฒนาชุดอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ จะเน้นที่ความพรีเมี่ยม มีสไตล์ ทันสมัย หรูหรา โดย MODELLISTA เลือกที่จะทำงานร่วมกับ ASAVA ในกิจกรรมความร่วมมือพิเศษในครั้งนี้ โดยในรุ่นนี้ จะมาพร้อมกับชุดแต่งสเกิร์ตกันชนหน้า – สเกิร์ตกันชนหลัง – ชุดสเกิร์ตข้าง – สปอยเลอร์หลัง - ล้ออัลลอย 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 205/50 R17 และสัญลักษณ์ MODELLISTA ท้ายรถ สามารถติดตั้งได้กับ Toyota Yaris ATIV ทุกรุ่นย่อย[10]

เปิดตลาดต่างประเทศ แก้

สปป.ลาว แก้

 
ภาพด้านหลังของ โตโยต้า วีออส สีขาวมุก ที่ประเทศลาว (ตรงชื่อรุ่นยังเป็น Vios อยู่)

ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นประเทศที่สองต่อจากประเทศไทย ที่ได้เปิดตัว โตโยต้า ยาริส เอทีฟ ในฐานะรุ่นเปลี่ยนโฉม (Full Model change) ของ โตโยต้า วีออส โดยตัวแทนจำหน่ายและให้บริการหลังการขาย Toyota Laothani (โตโยต้าลาวธานี) ขุมพลังสเปกลาวต่างจากไทย ตรงที่ลาวได้เครื่องยนต์ใหญ่กว่าไทยและยังยกมาจาก โตโยต้า วีออส เจนเนอเรชั่นที่แล้วแต่มีการพัฒนาใหม่ คือใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร Dual VVT-i รหัส 1NR-VE 98 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 122 นิวตันเมตรที่ 4,200 รอบ/นาที, ระบบช่วงล่างด้านหน้า แม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีมและคอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง โดยรุ่นที่ขายในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จะทำตลาดอยู่ 2 รุ่น คือรุ่น 1.3 E จะเป็นรุ่นเกียร์ธรรมดา 5 สปีด จะถือเป็นรุ่นเริ่มต้นใน สปป ลาว และรุ่น 1.3 High จะเป็นรุ่นท็อปสุดที่จะมีโหมดการขับขี่ ECO / Normal / Power บนพวงมาลัย และแพคเกจช่วยเหลือผู้ขับขี่ Toyota Safety Sense เต็มระบบมาให้[11]

กลุ่มประเทศ GCC (คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ) แก้

ในเวอร์ชันตะวันออกกลาง (มีทั้งประเทศ   บาห์เรน,   ซาอุดีอาระเบีย และ   สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) โดยสเปคในแต่ละประเทศ จะมีอุปกรณ์ระบบความปลอดภัยที่แตกต่างกันในแต่ละรุ่นย่อย ในเครื่องยนต์ ที่ทำตลาดในซาอุดีอาระเบีย จะได้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.3 ลิตร รหัส 1NR-VE กำลังสูงสุดที่ 97 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 122 นิวตันเมตร พร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ CVT โดยนำเข้าจากประเทศ  ไทย ส่วนเครื่องยนต์ ที่ทำตลาดในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ บาห์เรน จะได้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร รหัส 2NR-VE กำลังสูงสุดที่ 104 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 136 นิวตันเมตร พร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ CVT โดยนำเข้าจากประเทศ  อินโดนีเซีย

โดยสเปคบาห์เรน มี 2 รุ่น คือ 1.5 Mid กับ 1.5 High, สเปคสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มี 2 รุ่น คือ 1.5 E และ 1.5 G และ สเปคซาอุดีอาระเบีย มี 3 รุ่น คือ 1.3 Y, 1.3 Y Plus และ 1.3 YX[12]

อินโดนีเซีย แก้

ในประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ได้เปิดตัวในฐานะรุ่นเปลี่ยนโฉม (Full Model change) ของ โตโยต้า วีออส ในวันที่ 12 ตุลาคม 2565 โดยนำเข้าจากประเทศไทยเข้ามา ซึ่งอินโดนีเซียเป็นประเทศแห่งที่ 3 ของเอเชีย ที่ได้สัมผัส Toyota Yaris Ativ รุ่นล่าสุด หลังการเปิดตัวที่ไทยและลาว โดยบางออพชั่นจะเหนือกว่าไทย เช่นล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว และเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบขนาด 1.5 ลิตร รหัส 2NR-VE ที่ให้กำลังสูงสุดที่ 104 แรงม้า และให้แรงบิดสูงสุด 136 นิวตันเมตร มาพร้อมกับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ CVT ในรุ่นท็อปจะมีแพคเกจช่วยเหลือผู้ขับขี่ Toyota Safety Sense มาให้ โดยการทำตลาด จะมี 3 รุ่นให้เลือก คือ 1.5 E MT, 1.5 G CVT และ 1.5 G TSS CVT[13]

กัมพูชา แก้

ในราชอาณาจักรกัมพูชา ได้เปิดตัวในฐานะรุ่นเปลี่ยนโฉม (Full Model change) ของ โตโยต้า วีออส โดยตัวแทนจำหน่ายและให้บริการหลังการขาย ในวันที่ 7 ตุลาคม 2565 โดยนำเข้าจากประเทศไทยเข้ามา เหมือนกับลาวและอินโดนีเซีย ซึ่งกัมพูชาเป็นประเทศแห่งที่ 4 ของเอเชีย ตรงที่กัมพูชาได้เครื่องยนต์ใหญ่กว่าไทยและยังยกมาจาก Toyota Vios เจนเนอเรชันที่แล้ว คือใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร Dual VVT-I รหัส 1NR-VE 96 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 122 นิวตันเมตรที่ 4,200 รอบ/นาที พร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ CVT ซึ่งจะมีกำลังน้อยกว่าสเปคลาวเล็กน้อย โหมดการขับขี่ ECO / Normal / Power บนพวงมาลัย ระบบช่วงล่างด้านหน้า แม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีมและคอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง โดยรุ่นที่ขายในราชอาณาจักรกัมพูชา จะมีเพียงรุ่นเดียวและสเปคเหมือนสเปคของประเทศลาว คือรุ่น 1.3 High ทุกประการ[14]

บรูไน แก้

ในบรูไน (เนอการาบรูไนดารุสซาลาม) ได้เปิดตัวในฐานะรุ่นเปลี่ยนโฉม (Full Model change) ของ โตโยต้า วีออส ในวันที่ 18 ธันวาคม 2565

มาเลเซีย แก้

ในมาเลเซีย ได้เปิดตัวในฐานะรุ่นเปลี่ยนโฉม (Full Model change) ของ โตโยต้า วีออส ในวันที่ 20 มีนาคม 2566

ละตินอเมริกา (LATAM) แก้

คอสตาริกา แก้

ในประเทศสาธารณรัฐ  คอสตาริกา ได้เปิดตัวในฐานะรุ่นเปลี่ยนโฉม (Full Model change) ของ โตโยต้า ยาริส ซีดาน ในวันที่ 10 ตุลาคม 2565 มาพร้อม เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบขนาด 1.5 ลิตร รหัส 2NR-VE ที่ให้กำลังสูงสุดที่ 104 แรงม้า และให้แรงบิดสูงสุด 136 นิวตันเมตร มาพร้อมกับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ CVT และ 3 รุ่นให้เลือก ทั้ง New Line และ Highline[15]

เม็กซิโก แก้

ในเวอร์ชันสหรัฐ  เม็กซิโก ได้เปิดตัวในฐานะรุ่นเปลี่ยนโฉม (Full Model change) ของ โตโยต้า ยาริส ซีดาน ในวันที่ 12 ตุลาคม 2565 มาพร้อม เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบขนาด 1.5 ลิตร รหัส 2NR-VE ที่ให้กำลังสูงสุดที่ 104 แรงม้า และให้แรงบิดสูงสุด 136 นิวตันเมตร เหมือนกับสเปคคอสตาริกา มาพร้อมกับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ CVT และ 5 รุ่นให้เลือก ทั้ง Base, S และ S Hi[16]

เปรู แก้

ในประเทศสาธารณรัฐ  เปรู ได้เปิดตัวในฐานะรุ่นเปลี่ยนโฉม (Full Model change) ของ โตโยต้า ยาริส ซีดาน ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 มาพร้อม เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบขนาด 1.3 ลิตร รหัส 1NR-VE ที่ให้กำลังสูงสุดที่ 94 แรงม้า และให้แรงบิดสูงสุด 113 นิวตันเมตร (11.5 กิโลกรัม-เมตร) นำเข้าจากประเทศไทย มาพร้อมกับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 จังหวะ และ 5 รุ่นให้เลือก ทั้ง Base และ GLi มาพร้อมรุ่น GLP (ติดตั้งแก๊ส LPG และ CNG) มีเฉพาะเกียร์ธรรมดาเท่านั้น

อ้างอิง แก้

  1. สุวิชชา วิเชียรวรรณ. "แบตเตอรี่ Toyota Vios" https://www.batteryok.net/แบตเตอรี่-toyota-vios/ เก็บถาวร 2023-06-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน สืบค้นเมื่อ 2020-08-01
  2. "Safercar.gov". Safercar.gov. สืบค้นเมื่อ 2010-04-27.
  3. Lye, Gerard (March 19, 2023). "2023 Toyota Vios review in Malaysia – DNGA brings big improvements; now with more premium feel & features". Paul Tan's Automotive News (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ March 19, 2023.
  4. "Headlightmag Clip พาชมรอบคัน All NEW Toyota Yaris ATIV ทั้ง 4 รุ่นย่อย". HeadLight Magazine. 2022-08-09.
  5. 5.0 5.1 "เปิดตัวครั้งแรกของโลก รถยนต์ที่เป็นที่ชื่นชอบของทุกคน ALL NEW TOYOTA YARIS ATIV "Our Beloved นี่แหละ...รถของเรา" พร้อม Package การขายที่ให้มากกว่าการเป็นเจ้าของรถยนต์". www.toyota.co.th.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  6. ประชาชาติ, รถยนต์ (2022-08-22). "โตโยต้า ยาริส เอทีฟ กระแสแรง ยอดจอง ทะลุ 8,000 คัน". ประชาชาติธุรกิจ.
  7. A, Moo Teerapat (2022-09-10). "Toyota Yaris ATIV กวาดยอดจองสะสมสูงถึง 21,300 คัน หลังเปิดตัวในไทยเพียง 1 เดือน !". Autolifethailand.tv (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
  8. Thailand, BECi Corporation Ltd. "ปิดตำนาน 'โตโยต้า วีออส' ยุติสายพานผลิตในไทย เปิดตัว TOYOTA YARIS ATIV ทำตลาดรถยนต์นั่ง 4 ประตูแทน". CH3Plus.com.
  9. "โตโยต้า เปิดราคา Yaris Ativ ใหม่ 5.39-6.89 แสน หยุดผลิต Vios อย่างเป็นทางการ". bangkokbiznews. 2022-08-09.
  10. บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด (2022-11-28). "ปรากฏการณ์ความร่วมมือด้านการออกแบบ MODELLISTA x ASAVA "Trend Leader on the road" สะท้อนความหรูหรา โดดเด่น ของอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ MODELLISTA". www.toyota.co.th. สืบค้นเมื่อ 2022-11-29.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  11. "เผยข้อมูล All NEW Toyota VIOS เวอร์ชันลาว เครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร 98 แรงม้า 122 นิวตันเมตร เกียร์ CVT". HeadLight Magazine. 2022-09-07.
  12. "2022 Toyota Yaris Ativ สเปคซาอุดิอาระเบีย ออพชั่นน้อยกว่าไทย แต่ทำไมเครื่องยนต์ดีกว่า | AutoFun". ข่าวสารรถยนต์ AutoFun. 2022-10-06.
  13. "Toyota Yaris Ativ เวอร์ชันอินโดนีเซีย ยังใช้ชื่อ Vios พร้อมขุมพลังเบนซิน 1.5L ทางเลือกเกียร์ 5MT และล้อ 17 นิ้ว". HeadLight Magazine. 2022-10-16.
  14. "រូបរាងថ្មី ប្រណិតភាព ទាន់សម័យ Toyota All New Vios ២០២៣ សម្ភោធដាក់លក់ផ្លូវការនៅលើទីផ្សារកម្ពុជា ជាមួយតម្លៃខ្ទង់ ៣ម៉ឺនដុល្លារ". Advan Auto - The Best Auto News In Cambodia (ภาษาอังกฤษ).
  15. "Llega a Costa Rica el renovado Toyota Yaris 2023 desde los $23.100". www.larepublica.net (ภาษาสเปน).
  16. Segura, Rita (2022-10-12). "Yaris 2023, la evolución del sedán subcompacto". Memo Lira (ภาษาสเปนแบบยุโรป).

แหล่งข้อมูลอื่น แก้