โฌแซ็ฟ ฟอร์ล็องซ์
ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร
คณบดี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดำรงตำแหน่งคณบดีวาระที่ 2
“วิสัยทัศน์ที่ดีนั้นต้องมีความก้าวล้ำ ไม่ใช่แค่ก้าวทัน และต้องไม่ใช่สิ่งที่เราทำได้ดีอยู่แล้ว แต่ต้องเป็นจุดหมายที่เรายังไม่เคยไปมาก่อนเพื่อท้าทายเราฝันให้ใหญ่ และไปให้ถึงความเป็นเลิศ” จาก..ความเชี่ยวชาญด้านการบริหารธุรกิจและองค์กรจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ
ประวัติการศึกษา
● ปริญญาตรี บริหารธุรกิจบัณฑิต(เกียรตินิยม) (สาขาการเงินและการธนาคาร), จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
● ปริญญาโท Master of Public and Private Management, Yale University, USA
● ปริญญาโท Master of Business Administration, Yale University, USA
● Certificate in Human Resource Management, Harvard University, USA
● DPhil (Management Studies), University of Oxford, UK
สู่…ความเชี่ยวขาญ ด้านการบริหารธุรกิจและองค์กรจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ
–––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––––
ประวัติการทำงาน
● ดำรงตำแหน่ง ศาสตราจารย์ สาขาบริหารธุรกิจ สังกัดคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งแต่ พ.ศ.2564
● คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วาระที่ 1 ตั้งแต่ พ.ศ.2562 ถึง เมษายน 2566
● คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วาระที่ 2 ตั้งแต่ พ.ศ.2566 ถึงปัจจุบัน
● อดีตหัวหน้าภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี 2 วาระ ปี พ.ศ.2557-2562
● อดีตประธานคณะกรรมการดำเนินงานหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
● อดีตรองประธานคณะกรรมการดำเนินงานหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
● อดีตรองประธานกรรมการดำเนินงานหลักสูตรบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
● อดีตหัวหน้าหน่วยงานสื่อสารองค์กร คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
● อดีตกรรมการดำเนินงานหลักสูตรบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
● กรรมการสภามหาวิทยาลัย ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2565 ถึงปัจจุบัน
● คณะกรรมการนโยบายการเงิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
● คณะกรรมการพิจารณากำหนดตำแหน่งเชี่ยวชาญระดับต้น เชี่ยวชาญระดับกลาง และเชี่ยวชาญระดับสูง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
● คณะกรรมการประกันคุณภาพ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
● คณะกรรมการอำนวยการวิเคราะห์กรอบอัตรากำลังของมหาวิทยาลัย
● อดีตผู้อำนวยการหลักสูตรสหสาขาวิชาธุรกิจเทคโนโลยีและการจัดการนวัตกรรม บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ระดับนานาชาติ
● กรรมการประเมินผลงานคุณภาพระดับโลก AACSB (Association to Advance Collegiate Schools of Business)
● สถาบันรับรองมาตรฐานการศึกษาด้านบริหารธุรกิจ จากสหรัฐอเมริกา
● กรรมการประเมินผลงานคุณภาพระดับโลก EQUIS (EFMD Quality Improvement System)
● สถาบันรับรองมาตรฐานการศึกษาด้านบริหารธุรกิจ จากสหภาพยุโรป
● กรรมการประเมินผลงานคุณภาพระดับโลก AMBA (Association of MBAs)
● สถาบันรับรองมาตรฐานหลักสูตรบริหารธุรกิจระดับบัณฑิตศึกษา จากสหราชอาณาจักร
● ประธานกรรมการวิจัยร่วมกับ The World Economic Forum : WEF ในส่วนของการทำวิจัยในประเทศไทย
● กรรมการตัดสินในงานระดับโลก Youth4South Entrepreneurship Competition at United Nations
โฌแซ็ฟ-นีกอลา-แบลซ ฟอร์ล็องซ์ (ฝรั่งเศส: Joseph-Nicolas-Blaise Forlenze) มีชื่อแรกเกิดคือ จูเซปเป นีโกเลาะ เลโอนาร์โด บีอาโจ ฟอร์เลนซา (อิตาลี: Giuseppe Nicolò Leonardo Biagio Forlenza, 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1757 – 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1833) เป็นทั้งจักษุแพทย์และศัลยแพทย์ชาวอิตาลี ที่ได้รับการถือว่าเป็นหนึ่งในจักษุแพทย์ที่สำคัญที่สุดระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 18 และคริสต์ศตวรรษที่ 19 เขาเป็นที่รู้จักกันดีในประเทศฝรั่งเศสในยุคจักรวรรดินโปเลียนสำหรับการผ่าตัดต้อกระจก
ประวัติ แก้
ฟอร์ล็องซ์เป็นบุตรของเฟลีเชและวีตา ปากาโน เขาเกิดที่ปีแชร์โน (แคว้นบาซีลีคาตา) ในช่วงรัชสมัยแห่งราชอาณาจักรเนเปิลส์ จากครอบครัวแพทย์ เฟลีเชซึ่งเป็นบิดาของเขา, เซบัสตีอาโน และจูเซปเปซึ่งเป็นลุงของเขาต่างเป็นศัลยแพทย์ช่างตัดผมของตระกูลขุนนางกาเปเช มีนูโตโล จากรูโอตี หลังจากเข้าศึกษาหลักสูตรการสอนศาสนาโดยวิธีถาม-ตอบ ที่รูโอตี เขาได้ย้ายไปยังเนเปิลส์เพื่อศึกษาศัลยศาสตร์ และไปตั้งตัวต่อในประเทศฝรั่งเศสภายใต้การสอนของปีแยร์-โฌแซ็ฟ เดอโซ ซึ่งเขาได้กลายเป็นเพื่อนสนิทและเป็นผู้ทำงานร่วมกันในการศึกษาทางกายวิภาค
ต่อมา ฟอร์ล็องซ์เดินทางไปประเทศอังกฤษ ที่เขาพักอยู่เป็นเวลาสองปี โดยเก็บประสบการณ์ที่โรงพยาบาลเซนต์จอร์จในกรุงลอนดอน แล้วได้รับการกำกับโดยจอห์น ฮันเตอร์ เขายังได้เดินทางไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์และเยอรมนี ครั้นกลับสู่ประเทศฝรั่งเศส เขาก็ได้เริ่มอาชีพจักษุแพทย์ เขามีความแน่วแน่ในการรักษาโรคตาต่าง ๆ และใช้หน้ากากขี้ผึ้งเป็นตัวอย่างให้เห็น[1]
ใน ค.ศ. 1797 เขาฝึกการผ่าตัดตาที่บ้านพักคนชราในปารีส ต่อหน้าคณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งจากสถาบัน เช่นเดียวกับสมาชิกหลายคนของรัฐบาล รวมถึงนักวิชาการฝรั่งเศสและต่างประเทศ ในปี ค.ศ. 1798 เขาได้เป็นศัลยแพทย์ที่ออแตลเดแซ็งวาลีด และออแตล-ดีเยอ ของปารีส ซึ่งเขาได้ทำการรักษาแบบอินเตอร์เวนชันที่น่าทึ่งจำนวนมาก
ฟอร์ล็องซ์ได้รักษาทหารของกองทัพของนโปเลียนที่กลับมาจากอียิปต์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากโรคทางตาที่รุนแรง เขารักษาบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น ฌ็อง-เอเตียน-มารี ปอร์ตาลีส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงนมัสการ และกวี ปองซ์ เดอนี เลอเบริง ได้รับการนำต้อกระจกที่มีอยู่เป็นเวลาสิบสองปีจากดวงตาข้างหนึ่งออก เลอเบริงจึงอุทิศต่อเขาในบทกวีชื่อเลคงเกสเดอโลมซูร์ลานาจูร์ (Les conquêtes de l’homme sur la nature)[2] จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 มีพระราชกฤษฎีกา แต่งตั้งให้เขาเป็น "ศัลยแพทย์ดวงตาแห่งลีเซ, บ้านพักรับร้องพลเรือน และสถาบันการกุศลทั้งหมดแห่งหน่วยงานต่าง ๆ ของจักรวรรดิ"[3] ดังนั้น ฟอร์ล็องซ์จึงได้รับการส่งไปยังจังหวัดฝรั่งเศสเพื่อรักษาโรคตา
การงานของเขาขยายไปถึงอังกฤษและอิตาลี ซึ่งเขาทำการผ่าตัดฟรีในเมืองต่าง ๆ เช่น ตูริน และโรม ในกรุงโรม เขารักษาพระคาร์ดินัล โดรีอา และได้รับเกียรติต่อสาธารณชนโดยคาโรลีน แห่งบูร์บง ดยุกแห่งแบร์รี ส่วนต้นฉบับของเขาอย่างข้อควรพิจารณาสำหรับการผ่าตัดของม่านตาเทียม (ค.ศ. 1805) ถือเป็นหนึ่งในงานทางการแพทย์ที่สำคัญที่สุดของยุคสมัย[4] ฟอร์ล็องซ์เสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ. 1833 โดยเป็นโรคการตกเลือดในสมอง ที่ "กาเฟเดอฟอย" ในกรุงปารีส ซึ่งเขาใช้เวลาช่วงเย็นที่นั่นบ่อยครั้ง
ผลงาน แก้
- กงซิเดราซิยงซูร์ลูเปราซิยงเดลาปูปิเยร์อาร์ติฟิซิแย็ล (Considérations sur l'opération de la pupille artificielle), ค.ศ. 1805
- โนติซซูร์เลอเดเวโลเปมองเดอลาลูมีแยร์เอเดซองแซซิยงดองเลซาเวเกลอ-นี, อาลาซุยเดอลูเปราซิยงเดอลากาตาลาต์ (Notice sur le développement de la lumière et des sensations dans les aveugles-nés, à la suite de l'opération de la cataracte), ค.ศ. 1817
เกียรติประวัติ แก้
- เครื่องอิสริยาภรณ์เลฌียงดอเนอร์, อัศวิน[1]
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์เซนต์ไมเคิลและเซนต์จอร์จ, อัศวินกิตติมศักดิ์[5]
อ้างอิง แก้
- ↑ 1.0 1.1 Rabbe, Sainte-Preuve, Biographie universelle et portative des contemporains, Chez l'éditeur, 1836, p.1721
- ↑ O lyre, ne sois pas ingrate !
Qu’un doux nom dans nos vers éclate
Brillant comme l’astre des cieux !
Je revois sa clarté première;
Chante l’art qui rend la lumière;
Forlenze a dévoilé mes yeux.
Joseph Fr. Michaud, Louis Gabriel Michaud, Biographie universelle, ancienne et moderne, Michaud frères, 1838, p.263 - ↑ Jan Ellen Goldstein, Console and Classify. The French Psychiatric Profession in the Nineteenth Century, Chicago Press, 2002, p. 63
- ↑ Salvatore De Renzi, Storia della medicina Italiana, Volume 5, Filiatre-Sebezio, 1848, p.430
- ↑ Almanach royal pour l'an MDCCCXXX, Testu et cie, 1830, p.283
บรรณานุกรม แก้
- Jan E. Goldstein, Console and Classify. The French Psychiatric Profession in the Nineteenth Century, Chicago Press, 2002
- Rabbe, Sainte-Preuve, Biographie universelle et portative des contemporains, Chez l'éditeur, 1834
- Marie-Nicolas Bouillet, Alexis Chassang, Dictionnaire universel d’histoire et de géographie, Hachette, 1878
แหล่งข้อมูลอื่น แก้
- Biography of Joseph Forlenze เก็บถาวร 2013-11-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (อิตาลี)