แผ่นโกโกส (อังกฤษ: Cocos Plate) เป็นแผ่นเปลือกโลกภาคพื้นสมุทรที่อยู่ใต้มหาสมุทรแปซิฟิกทางชายฝั่งตะวันตกของอเมริกากลาง ตั้งชื่อตามเกาะโกโกสซึ่งตั้งอยู่บนแผ่นนี้ แผ่นโกโกสเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 23 ล้านปีก่อน เมื่อแผ่นแฟรัลลอนแตกออกเป็นสองแผ่น โดยอีกแผ่นหนึ่งเกิดเป็นแผ่นนัซกา นอกจากนี้แผ่นโกโกสยังแตกออกเป็นสองส่วนด้วย โดยอีกส่วนที่เล็กกว่าเรียกว่าแผ่นริเบรา[2] แผ่นโกโกสถูกล้อมรอบด้วยแผ่นธรณีแปรสัณฐานหลายแผ่น โดยทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดกับแผ่นอเมริกาเหนือและแผ่นแคริบเบียน ทิศตะวันตกติดกับแผ่นแปซิฟิก และทิศใต้ติดกับแผ่นนัซกา

แผ่นโกโกส
แผ่นโกโกส
ประเภทแผ่นรอง
พื้นที่โดยประมาณ2,900,000 กม.2[1]
การเคลื่อนตัว1ทิศเหนือ-ทิศตะวันออก
อัตราเร็ว167 มม./ปี
ลักษณะภูมิศาสตร์เกาะโกโกส, มหาสมุทรแปซิฟิก
1โดยเทียบกับแผ่นแอฟริกา

ธรณีวิทยา แก้

แผ่นโกโกสถูกสร้างขึ้นโดยการขยายตัวของพื้นมหาสมุทรตามแนวจุดธารผุดแปซิฟิกตะวันออกและจุดร้อนกาลาปาโกส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่อันมีความซับซ้อนที่นักธรณีวิทยา เรียกว่า ระบบการขยายตัวโกโกส-นัซกา (Cocos-Nazca spreading system) จากจุดธารผุด แผ่นโกโกสถูกดันออกไปทางทิศตะวันออกและถูกดันหรือถูกลาก (อาจเกิดขึ้นทั้งสองลักษณะ) ไปใต้แผ่นแคริบเบียนที่มีความหนาแน่นน้อยกว่า ในกระบวนการที่เรียกว่าการมุดตัวของเปลือกโลก การมุดตัวของเปลือกโลกทำให้ขอบของเปลือกโลกร้อนขึ้น และเป็นการเพิ่มน้ำลงไปในชั้นเนื้อโลกของแผ่นที่อยู่ด้านบน ในชั้นเนื้อโลกที่เรียกว่า ฐานธรณีภาค ผิวเปลือกโลกจะถูกหลอมเป็นหินหนืด ขณะที่น้ำที่ติดไปด้วยจะกลายเป็นน้ำร้อนยวดยิ่งภายใต้แรงดันมหาศาล เป็นผลให้ทางตะวันออกเฉียงเหนือของขอบเขตการขยายตัวเกิดแนวโค้งต่อเนื่องของภูเขาไฟขึ้น เรียกว่า หมู่เกาะรูปโค้งอเมริกากลาง ตั้งแต่ประเทศคอสตาริกาถึงประเทศกัวเตมาลา และเป็นแนวแผ่นดินไหวที่ขยายขึ้นไปทางเหนือเข้าสู่ประเทศเม็กซิโก

ขอบด้านเหนือของแผ่นโกโกสคือร่องลึกมิดเดิลอเมริกา ขอบด้านตะวันออกคือรอยเลื่อนแปรสภาพขนาดใหญ่ เรียกว่า แนวรอยแตกปานามา ขอบด้านใต้คือเทือกเขากลางสมุทรชื่อ จุดธารผุดกาลาปาโกส[3] และขอบด้านตะวันตกคือเทือกเขากลางมหาสมุทรเช่นกันชื่อ จุดธารผุดแปซิฟิกตะวันออก

จุดร้อนใต้หมู่เกาะกาลาปาโกสทอดตัวตามแนวจุดธารผุดกาลาปาโกส (ดูที่จุดร้อนกาลาปาโกส และ แผ่นเล็กกาลาปาโกส)

แผ่นริเบราทางเหนือของแผ่นโกโกสมีการแยกตัวออกจากแผ่นโกโกสเมื่อ 5–10 ล้านปีก่อน ขอบเขตของทั้งสองแผ่นดูเหมือนจะไม่ปรากฏเป็นรอยเลื่อนแปรสภาพขนาดใหญ่ แต่ก็ถือว่าเป็นคนละแผ่นกัน ภายหลังที่แผ่นริเบราแยกตัวออกจากแผ่นโกโกส แผ่นริเบราได้ประพฤติตัวเป็นแผ่นธรณีแปรสัณฐานอิสระขนาดเล็กแผ่นหนึ่ง[4]

แผ่นดินไหวเม็กซิโกซิตี พ.ศ. 2528 และแผ่นดินไหวในรัฐเชียปัส พ.ศ. 2560 เป็นผลมาจากการมุดตัวของแผ่นโกโกสใต้แผ่นอเมริกาเหนือ และแผ่นดินไหวในเอลซัลวาดอร์ มกราคม พ.ศ. 2544 ก็เกิดจากการที่แผ่นโกโกสมุดตัวลงใต้แผ่นแคริบเบียนเช่นกัน

อ้างอิง แก้

  1. "Here are the Sizes of Tectonic or Lithospheric Plates".
  2. Manea, V.C.; Manea, M.; Ferarri, L. (2013). "A geodynamical perspective on the subduction of Cocos and Rivera plates beneath Mexico and Central America" (PDF). Tectonophysics. 609: 56–81. doi:10.1016/j.tecto.2012.12.039. สืบค้นเมื่อ 24 April 2017.
  3. Paul J. Grim, "Connection of the Panama fracture zone with the Galapagos rift zone, eastern tropical Pacific".
  4. Manea, V.C.; Manea, M.; Ferarri, L. (2013). "A geodynamical perspective on the subduction of Cocos and Rivera plates beneath Mexico and Central America" (PDF). Tectonophysics. 609: 56–81. doi:10.1016/j.tecto.2012.12.039. สืบค้นเมื่อ 24 April 2017.