เวสต์ลีย์ นาธาน มอร์แกน (เกิดวันที่ 21 มกราคม ค.ศ. 1984) เป็นนักฟุตบอลอาชีพในตำแหน่งกองหลัง และเป็นตำนานกัปตันทีมของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตีและทีมชาติจาเมกา

เวส มอร์แกน
มอร์แกนขณะฝึกซ้อมกับเลสเตอร์ซิตีในปี ค.ศ. 2013
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม เวสต์ลีย์ นาธาน มอร์แกน[1]
วันเกิด (1984-01-21) 21 มกราคม ค.ศ. 1984 (40 ปี)[2]
สถานที่เกิด นอตทิงแฮม อังกฤษ
ส่วนสูง 6 ft 2 in (1.88 m)[2]
ตำแหน่ง กองหลัง
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน
เลสเตอร์ซิตี
หมายเลข 5
สโมสรเยาวชน
1995–1999 นอตส์เคาน์ตี[3]
1999–2000 ดันเคิร์ก[4]
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2002–2012 นอตทิงแฮมฟอเรสต์ 352 (12)
2003คิดเดอร์มินสเตอร์แฮริเออร์ (ยืมตัว) 5 (1)
2012– เลสเตอร์ซิตี 277 (11)
ทีมชาติ
2013– จาเมกา 30 (0)
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 14:04, 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 2020 (UTC)
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 23:55, 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2017 (UTC)

มอร์แกนเคยอยู่กับนอตทิงแฮมฟอเรสต์เป็นเวลานาน เขาลงเล่นให้กับสโมสร 402 นัด ทำได้ 14 ประตู ถือเป็นผู้เล่นที่อยู่กับนอตทิงแฮมยาวนานที่สุด ก่อนที่จะย้ายไปเลสเตอร์ซิตีในเดือนมกราคม ค.ศ. 2012 และได้รับแต่งตั้งให้เป็นกัปตันในปีนั้น เขาลงเล่นให้สโมสรเลสเตอร์มากกว่า 200 นัดในทุกรายการ เขาพาสโมสรคว้าแชมป์แชมเปียนชิปในปี ค.ศ. 2014 และคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยแรกในอีกสองปีถัดมา เขายังเป็นผู้เล่นชาวจาเมกาคนแรกที่ทำประตูในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก[5]

มอร์แกนเกิดและเติบโตที่อังกฤษ แต่เลือกเล่นให้กับทีมชาติจาเมกา โดยลงเล่นให้กับทีมชาตินัดแรกในปี ค.ศ. 2013 เขาเป็นส่วนหนึ่งของจาเมกาในการแข่งขันโกปาอาเมริกา 2 ครั้ง และพาทีมชาติจบอันดับรองชนะเลิศในโกลด์คัพ 2015

ทีมชาติ แก้

วันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 2013 มอร์แกนถูกเรียกตัวติดทีมชาติเป็นครั้งแรก[6][7] เขาลงเล่นให้กับทีมชาตินัดแรกในนัดที่เสมอปานามา 0–0 เมื่อวันที่ 7 กันยายน ค.ศ. 2013[8] เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมชาติในนัดที่แพ้แคนาดา 3–1 เมื่อวันที่ 9 กันยายน ค.ศ. 2014[9]

เขาเป็นส่วนหนึ่งของจาเมกาในฐานะทีมชาติรับเชิญในโกปาอาเมริกา 2015ประเทศชิลี เขาลงเล่นครบทุกนาที และทีมชาติของเขาจบอันดับสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่ม[10] สัปดาห์ถัดมา เขายังคงติดทีมชาติในการแข่งขันโกลด์คัพสหรัฐและแคนาดา ทีมชาติของเขาจบอันดับรองชนะเลิศ หลังจากที่พ่ายแพ้ในนัดชิงชนะเลิศต่อเม็กซิโก 3–1 ที่ฟิลาเดลเฟีย[11]

ชีวิตส่วนตัว แก้

มอร์แกนสมรสกับน้องสาวของลีออน เบสต์[12] อีกทั้งยังเป็นเจ้าของร่วมของบลูอิงค์ ร้านทำรอยสักในเมืองเลสเตอร์[13]

เกียรติประวัติ แก้

นอตทิงแฮมฟอเรสต์

เลสเตอร์ซิตี

จาเมกา

บุคคล

  • ทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ: 2010–11,[18] 2012–13,[19] 2013–14,[20] 2015–16[21] (แชมเปียนชิปทั้งหมด)
  • ทีมยอดเยี่ยมแห่งทศวรรษของฟุตบอลลีก: 2005–2015[22]
  • ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลของเลสเตอร์ซิตี: 2012–13[23]
  • ผู้เล่นแห่งฤดูกาลของเลสเตอร์ซิตี: 2012–13[23]

อ้างอิง แก้

  1. "Updated squads for 2017/18 Premier League confirmed". Premier League. 2 February 2018. สืบค้นเมื่อ 11 February 2018.
  2. 2.0 2.1 Hugman, Barry J., บ.ก. (2010). The PFA Footballers' Who's Who 2010–11. Edinburgh: Mainstream Publishing. p. 294. ISBN 978-1-84596-601-0.
  3. "Foxes Move For Morgan". LCFC.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2012. สืบค้นเมื่อ 30 มกราคม 2012.
  4. Robertson, Gregor (22 December 2015). "Leicester City captain Wes Morgan's fairytale rise". Sky Sports.
  5. McNulty, Phil (14 March 2017). "Leicester City 2–0 Sevilla (3–2 agg)". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 17 March 2017.
  6. "Leicester City's Wes Morgan gets chance to fulfil World Cup dream". Leicester Mercury. 3 September 2013. สืบค้นเมื่อ 11 March 2016.[ลิงก์เสีย]
  7. "Wes answers Jamaica call". LCFC.com. Leicester City F.C. 1 September 2013. สืบค้นเมื่อ 1 September 2013.
  8. "Morgan Makes International Bow". 7 September 2013. สืบค้นเมื่อ 7 September 2013.
  9. "Wes Morgan to captain Boyz against Canada today". 9 September 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 11 September 2014.
  10. "Argentina 1–0 Jamaica". BBC Sport. 21 June 2015. สืบค้นเมื่อ 4 May 2016.
  11. "Jamaica 1–3 Mexico". BBC Sport. 27 July 2015. สืบค้นเมื่อ 4 May 2016.
  12. Ryder, Lee. "Leon Best roars: Bring on Nottingham Forest – NUFC News – Newcastle United". ChronicleLive. สืบค้นเมื่อ 19 July 2012.
  13. Hattenstone, Simon (29 April 2016). "Strange times in Leicester: 'If we win the league, you'll see the biggest party ever'". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 29 April 2016.
  14. "Nott'm Forest 3–2 Yeovil". BBC Sport. 5 May 2008. สืบค้นเมื่อ 19 December 2015.
  15. "Wes Morgan: Overview". Premier League. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-04-18. สืบค้นเมื่อ 17 April 2018.
  16. "W. Morgan: Summary". Soccerway. Perform Group. สืบค้นเมื่อ 17 April 2018.
  17. "Leicester City captain Wes Morgan suffers defeat as Mexico beat Jamaica in Gold Cup final". Leicester Mercury. 27 กรกฎาคม 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 ตุลาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 19 ธันวาคม 2015.
  18. "Spurs' Gareth Bale wins PFA player of the year award". BBC Sport. 17 April 2011. สืบค้นเมื่อ 19 December 2015.
  19. "Gareth Bale wins PFA Player of Year and Young Player awards". BBC Sport. 28 April 2013. สืบค้นเมื่อ 19 December 2015.
  20. "Luis Suarez: Liverpool striker wins PFA Player of the Year award". BBC Sport. 27 April 2014. สืบค้นเมื่อ 19 December 2015.
  21. "PFA awards: Leicester and Spurs dominate Premier League team". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 21 April 2016.
  22. "The Football League announces its Team of the Decade". The Football League. 19 April 2015. สืบค้นเมื่อ 19 December 2015.
  23. 23.0 23.1 "Leicester City's player of the year Wes Morgan focuses on final fling". Leicester Mercury. 1 May 2013. สืบค้นเมื่อ 19 December 2015.[ลิงก์เสีย]

แหล่งข้อมูลอื่น แก้