เป็นเอก รัตนเรือง

เป็นเอก รัตนเรือง (เกิด 8 มีนาคม พ.ศ. 2505 ที่กรุงเทพมหานคร) เป็นผู้กำกับและนักเขียนบทภาพยนตร์ชาวไทย เติบโตมาจากวงการกำกับภาพยนตร์โฆษณา เป็นเอกเป็นที่รู้จักมากที่สุดจากภาพยนตร์ เรื่องรัก น้อยนิด มหาศาล และจัดว่าเป็นหนึ่งในคนทำหนังคลื่นลูกใหม่ ร่วมกับวิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง และอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล โดยใน พ.ศ. 2560 ซึ่งถือเป็นการครบรอบ 20 ปีในวงการภาพยนตร์ของเป็นเอก รัตนเรือง โดยได้ความร่วมมือระหว่าง Documentary Club และ House RCA ในโปรเจ็ก “Cinema Journey 20 ปี ภาพยนตร์เป็นเอก” จัดฉายผลงานของเป็นเอกตั้งแต่ พ.ศ. 2540-2560[1]

เป็นเอก รัตนเรือง
สารนิเทศภูมิหลัง
เกิด8 มีนาคม พ.ศ. 2505 (62 ปี)
ผลงานเด่นเรื่องรัก น้อยนิด มหาศาล (2546)

ประวัติ แก้

เมื่อจบการศึกษาจาก Pratt Institute เมืองนิวยอร์กใน พ.ศ. 2528 แล้ว เป็นเอกได้ทำงานเป็นนักวาดภาพประกอบอิสระ และเป็นนักออกแบบให้กับ Designframe

ต่อมาในปี พ.ศ. 2536 เป็นเอกเข้าทำงานที่ ฟิล์มแฟ็กตอรี่ ซึ่งเป็นที่ทำงานของ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ด้วยเช่นกัน เป็นเอกกำกับภาพยนตร์โฆษณาเอาไว้หลายชิ้น และได้รับรางวัลมากมายเช่นกัน หนึ่งในนั้นมีรางวัลเหรียญทองแดงของงาน Cannes Lion Awards ในปี พ.ศ. 2540 จากโฆษณาแชมพูขจัดรังแคยี่ห้อหนึ่งด้วย

ในปี พ.ศ. 2547 เป็นเอกได้รับรางวัลศิลปาธร สาขาภาพยนตร์

ผลงานภาพยนตร์ช่วงแรก แก้

ภาพยนตร์เรื่องแรกของเป็นเอกคือ ฝัน บ้า คาราโอเกะ ที่สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2540 โดยเล่าเรื่องของ ปู หญิงสาวผู้ซึ่งมีพ่อที่ไปตกหลุมรักกับหญิงขายบริการคนหนึ่ง แต่หญิงขายบริการคนนั้นมีคู่รักเป็นนักเลงรายใหญ่อยู่แล้ว มือปืนชื่อ น้อย จึงได้รับคำสั่งจากนักเลงให้ฆ่าพ่อของปู โดยที่ในขณะเดียวกันปูกับน้อยก็มีความรักต่อกันอีกด้วย หลังจาก ฝัน บ้า คาราโอเกะ ได้ฉายรอบปฐมทัศน์ที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน ยังถูกนำไปฉายตามเทศกาลภาพยนตร์อีกมากมายต่อไปด้วย

เรื่องตลก 69 เป็นภาพยนตร์ลำดับที่สอง แนวของภาพยนตร์คืออาชญากรรมผสมผสานกับอารมณ์ตลกร้าย โดยเล่าเรื่องเกี่ยวกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ได้รับกล่องบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปริศนาซึ่งมีเงินจำนวนมากอยู่ข้างใน และกล่องปริศนานี้ก็ทำให้เกิดเรื่องซับซ้อนมากมายตามมา เรื่องตลก 69 เป็นภาพยนตร์ที่ประเทศไทยส่งไปชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 73 ในสาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมเมื่อปี พ.ศ. 2542 นอกจากนี้ได้ฉายที่เทศกาลภาพยนตร์รอตเทอร์ดาม และเทศกาลอื่นๆ อีกด้วย

ภาพยนตร์เรื่องที่สามคือ มนต์รักทรานซิสเตอร์ เป็นภาพยนตร์ความรักขมขื่นโดยมีเพลงลูกทุ่งประกอบเรื่อง โดยเล่าเรื่องของชายคนหนึ่งที่ต้องจากคนรักไปเป็นทหารเกณฑ์ แต่ก็หนีออกมาทำตามฝันที่จะเป็นนักร้องลูกทุ่งชื่อดังในเวลาต่อมา เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ พ.ศ. 2545 คือรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ และเป็นภาพยนตร์ที่ประเทศไทยส่งไปชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 75 อีกด้วย

นอกจากนี้เป็นเอกยังตัดต่อให้ภาพยนตร์เรื่อง โอเค เบตง กำกับโดย นนทรีย์ นิมิบุตร รวมทั้งพากย์เสียงบรรยายให้กับภาพยนตร์เรื่อง หมานคร กำกับโดย วิศิษฐ์ ศาสนเที่ยง

การร่วมงานกับนานาชาติ แก้

สำหรับภาพยนตร์เรื่องที่สี่ หรือ เรื่องรัก น้อยนิด มหาศาล เป็นเอกได้ร่วมงานกับปราบดา หยุ่น คริสโตเฟอร์ ดอยล์ และอาซาโน่ ทาดาโนบุรวมทั้งได้ทากาชิ มิอิเกะมารับบทเล็กๆ ในเรื่องด้วย ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคัดเลือกให้เข้าแข่งชิงรางวัลที่เทศกาลภาพยนตร์รอตเทอร์ดาม ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิส และเป็นภาพยนตร์ที่ประเทศไทยส่งไปชิงรางวัลออสการ์ใน พ.ศ. 2546

จากนั้นเป็นเอกได้ร่วมงานกับปราบดา หยุ่น คริสโตเฟอร์ ดอยล์ และอาซาโน่ ทาดาโนบุอีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง คำพิพากษาของมหาสมุทร เป็นเรื่องเกี่ยวกับพ่อครัวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่ก่อเหตุฆาตกรรมในมาเก๊าและหนีมายังประเทศไทย ภาพยนตร์เรื่องได้ดาราจากฮ่องกงและเกาหลีมาร่วมเล่นด้วย นอกจากนี้ยังได้รับเลือกให้เข้าแข่งขันที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลินในปี พ.ศ. 2549 พร้อมๆ กับฉายรอบปฐมทัศน์ที่นั่นด้วย นอกจากนี้ยังเป็นภาพยนตร์ฉายเปิดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯในปี พ.ศ. 2549 รวมถึงได้รับคัดเลือกให้เข้าแข่งขันอีกเช่นกัน

ภาพยนตร์สั้น แก้

เป็นเอกได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งในงาน Digital Short Films by Three Directors ที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติจอนจูในปี พ.ศ. 2549 โดยกำกับภาพยนตร์สั้นชื่อ Twelve Twenty เกี่ยวกับผู้ชายที่ตกหลุมรักผู้หญิงซึ่งพบเจอโดยบังเอิญที่สนามบิน และหวนคิดถึงผู้หญิงคนเดิมตลอดเวลาบนเครื่องบินของเขา คริสโตเฟอร์ ดอยล์กำกับภาพในภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้

ในปีเดียวกันนี้ เป็นเอกกำกับภาพยนตร์สารคดีขนาดสั้นเรื่อง Total Bangkok เกี่ยวกับกลุ่มผู้เล่นฟุตบอลใต้ทางด่วนกรุงเทพฯ มีความยาว 21 นาที สนับสนุนโดย ไนกี้ เป็นเอกนั้นชอบกีฬาประเภทดังกล่าวมากๆ เช่นกัน

พ.ศ. 2550 เป็นเอกได้รับเลือกให้กำกับภาพยนตร์สั้นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ แด่พระผู้ทรงธรรม เป็นเอกกำกับเรื่อง เสียงสว่าง ซึ่งเขาเลือกที่จะสัมภาษณ์นักเล่นเปียโนซึ่งตาบอดคนหนึ่งเกี่ยวกับแรงบันดาลใจและการใช้ชีวิต ประกอบกับให้นักเล่นเปียโนเล่นเพลงพระราชนิพนธ์

ผลงาน แก้

 
มนต์รักทรานซิสเตอร์

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ แก้

อ้างอิง แก้

  1. "ฉลอง 20 ปี "เป็นเอก รัตนเรือง" กับ "Cinema Journey 20 ปี ภาพยนตร์เป็นเอก" พร้อมโปรเจกต์ล่าสุด Samui song ไม่มีสมุยสำหรับเธอ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-28. สืบค้นเมื่อ 2017-12-28.
  2. 'เรื่องของอัศวินภาพยนตร์' : เป็นเอก รัตนเรือง

บรรณานุกรม แก้

แหล่งข้อมูลอื่น แก้