เกีย ริโอ (อังกฤษ: Kia Rio) เป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กมาก (Subcompact Car) ที่ผลิตโดยเกีย ผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 2 ของเกาหลีใต้ เริ่มผลิตในปี พ.ศ. 2543 เพื่อมาทดแทนรุ่นเก่า ซึ่งก็คือ เกีย ไพรด์ และเกีย อเวลลา ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้เป็นรถที่ใช้แพลตฟอร์มร่วมกับ ฟอร์ด เฟสติวา ปัจจุบันมีวิวัฒนาการตามช่วงเวลาได้ 3 Generation (รุ่น) ดังนี้

เกีย ริโอ
ภาพรวม
บริษัทผู้ผลิตเกีย
เริ่มผลิตเมื่อพ.ศ. 2543 - ปัจจุบัน
ตัวถังและช่วงล่าง
รูปแบบตัวถังแฮทช์แบค 3 ประตู
ซีดาน 4 ประตู
แฮทช์แบค 5 ประตู
รุ่นที่คล้ายกันโตโยต้า สตาร์เล็ต/เทอร์เซล/ยาริส/วีออส
ฮอนด้า แจ๊ซ/ซิตี้
นิสสัน มาร์ช/อัลเมร่า
มิตซูบิชิ โคลท์/มิราจ
มาสด้า 2
ซูซูกิ คัลตัส/สวิฟท์
ไดฮัทสุ ชาเรด
ฮุนได โพนี่/เอ็กเซล/แอคเซนท์
แดวู เลแมนส์/ลาโนส
เชฟโรเลต อาวีโอ
ฟอร์ด เฟสติวา/เฟียสตา
เปอโยต์ 207/208
ซีตรอง AX/C3/DS3
โฟล์กสวาเกน โปโล
โปรตอน เซฟวี่/ซากา
เซียท คอร์โดบา
เฟียต พุนโต
เฌอรี่ A1
ระยะเหตุการณ์
รุ่นก่อนหน้าเกีย ไพรด์
เกีย อเวลลา

รุ่นที่ 1 (พ.ศ. 2543-2548) แก้

 
เกีย ริโอ รุ่นที่ 1

เกีย ริโอ รุ่นที่ 1 เริ่มผลิตเมื่อปี พ.ศ. 2543 ใช้รหัสว่า DC รุ่นนี้มีตัวถัง 2 แบบคือซีดาน 4 ประตูและแฮทช์แบค 5 ประตู ออกแบบโดยสถาบัน I.DE.A Institute รุ่นนี้เป็นรุ่นแรกและรุ่นเดียวที่ใช้เครื่องยนต์ร่วมกับมาสด้า โดยมีเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ,1.5 และ 1.6 ลิตร ใช้เกียร์ธรรมดา 5 สปีดและเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ระยะฐานล้อ 2,410 มม. ความยาว 4,215-4,240 มม. ความกว้าง 1,675-1,680 ความสูง 1,440 มม. มีฐานการประกอบอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ ,เอกวาดอร์และอิหร่าน มีชื่อในการส่งออกในแต่ละประเทศแตกต่างกัน เช่น Rio Cinco Rio RX-V Rio SF และ Rio Stylus เป็นต้น แต่รุ่นนี้ยังไม่มีการส่งออกมายังประเทศไทย

รุ่นที่ 2 (พ.ศ. 2548-2554) แก้

 
เกีย ริโอ รุ่นที่ 2

เกีย ริโอ รุ่นที่ 2 เริ่มผลิตเมื่อปี พ.ศ. 2548 ใช้รหัส JB ไรโอรุ่นนี้เป็นรุ่นแรกที่ใช้แพลตฟอร์มร่วมกับฮุนได แอคเซนท์ มีตัวถังเช่นเดียวกับรุ่นที่ 1 คือซีดาน 4 ประตูและแฮทช์แบค 5 ประตู ใช้เครื่องยนต์แบบเดียวกับฮุนได มีเครื่องยนต์เบนซิน 1.4 และ 1.6 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ลิตร ระบบเกียร์เป็นเกียร์ธรรมดา 5 สปีดและเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ระยะฐานล้อ 2,500 มม. ความยาว 3,990-4,250 มม. ความกว้าง 1,695 มม. ความสูง 1,470 มม. มีฐานการประกอบอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ ,จีน ,เอกวาดอร์ ,อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์

ในประเทศไทย ยนตรกิจเคยนำริโอรุ่นที่ 2 มาเผยโฉมในปี พ.ศ. 2549 แต่ไม่มีการนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยแต่อย่างใด

รุ่นที่ 3 (พ.ศ. 2554-2560) แก้

 
เกีย ริโอ รุ่นที่ 3

เกีย ริโอ รุ่นที่ 3 เริ่มผลิตเมื่อปี พ.ศ. 2554 ใช้รหัส UB ยังคงใช้แพลตฟอร์มร่วมกับฮุนได แอคเซนท์ ในบางประเทศจะใช้ชื่อริโอรุ่นนี้ว่า K2 มีตัวถังแฮทช์แบค 3 ประตู ซีดาน 4 ประตู และแฮทช์แบค 5 ประตู มีเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ,1.4 และ 1.6 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล 1.1 และ 1.4 ลิตร ระบบเกียร์เป็นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 และ 6 สปีด ระยะฐานล้อ 2,570 มม. ความยาว 4,046-4,366 มม. ความกว้าง 1,720 มม. ความสูง 1,455 มม. น้ำหนัก 1,093-1,141 กก. มีฐานการประกอบอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ ,จีน ,เอกวาดอร์ ,อินโดนีเซีย ,ฟิลิปปินส์ ,รัสเซียและไทย

ในประเทศไทย เกีย ริโอ เปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2555 โดยบริษัท ยนตรกิจ คอร์เปอเรชั่น จำกัด เป็นรถประกอบในประเทศ ใช้เครื่องยนต์ 1.4 ลิตร 4 สูบ 107 แรงม้า DOHC 16 วาล์ว มีตัวถัง 2 แบบคือซีดาน 4 ประตูและแฮทช์แบค 5 ประตู โดยเปิดตัวรุ่นแฮทช์แบค 5 ประตูก่อน รุ่นซีดาน 4 ประตูจึงเปิดตัวตามหลัง โดยรุ่นซีดานนั้นเปิดตัวในปี พ.ศ. 2556 และจากการที่มีเครื่องยนต์ไม่เกิน 1.5 ลิตร และประกอบในประเทศ ทำให้สามารถเข้าร่วมโครงการรถคันแรกของรัฐบาลไทยได้

รุ่นที่ 4 (พ.ศ. 2560-ปัจจุบัน) แก้

 
เกีย ริโอ รุ่นที่ 4

เกีย ริโอ รุ่นที่ 4 เริ่มผลิตเมื่อปี พ.ศ. 2560 ใช้รหัส YB

ปลายเดือนกันยายนนี้ เกียเตรียมเปิดตัวรถซับ-คอมแพคท์รุ่นสำคัญ KIA Rio เจนเนอเรชั่นที่ 4 ในงาน 2016 Paris Motor Show โดยมีการเผยภาพสเกทช์ชุดแรกออกมาให้ดูกันก่อน ซึ่งทำให้เราเห็นความเปลี่ยนแปลงจาก รุ่นปรับโฉม ในช่วงกลางปีที่ผ่านมาได้ชัดเจนพอสมควร งานออกแบบหลักๆ เป็นผลงานของทีมออกแบบในเยอรมัน/แคลิฟอร์เนีย และไปสิ้นสุดกระบวนการที่ศูนย์ออกแบบนัมยางในเกาหลีใต้ รุ่นที่จะเผยโฉมในปารีสฯ เป็นรุ่นตัวถังแฮทช์แบค 5 ประตูเหมือนภาพประกอบ จากนั้นเกียน่าเปิดรุ่นตัวถังแฮทช์แบค 3 ประตู และซีดาน 4 ประตูตามออกมาในอนาคต แม้เกียจะมีข่าวออกมาก่อนล่วงหน้าก่อนฮุนได แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าแพลทฟอร์มและไลน์อัพรุ่นเครื่องยนต์น่าจะต้องนำมาจาก Hyundai i20 เจนเนอเรชั่นใหม่ ซึ่งมีคิวเปิดตัวในเร็ววันนี้ นั่นทำให้มีการคาดหมายกันว่ารุ่นเครื่องยนต์อาจประกอบด้วย เบนซิน 3 สูบ 1.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ, 1.1, 1.2, 1.4 และ 1.6 แยกเป็นเบนซินและดีเซลคละกันไปเช่นเดียวกับฮุนได โดยยุโรปจะเริ่มจำหน่ายในช่วงปีหน้า Rio นับเป็นหนึ่งในรุ่นรถที่สำคัญของเกีย ปี 2015 ที่ผ่านมายอดจำหน่ายรวมของ Rio ทั่วโลกสูงถึงกว่า 4.7 แสนคัน คู่แข่งในยุโรปมีอาทิ Ford Fiesta, Peugeot 208, Renault Clio หรือ Volkswagen Polo เป็นต้น รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดรออัพเดทอีกครั้ง โดยหลังจากการจำหน่ายในตลาดโลก บ้านเราก็น่าจะได้เห็นรุ่นแฮทช์แบค 5 ประตูกันเช่นเคย