สปีกนาว (เพลง)

เพลงโดยเทย์เลอร์ สวิฟต์

"สปีกนาว" (อังกฤษ: Speak Now) เป็นเพลงของนักร้อง นักแต่งเพลงชาวอเมริกัน เทย์เลอร์ สวิฟต์ เพลงเขียนและผลิตโดยสวิฟต์ และนาธาน แชปแมน ออกเป็นซิงเกิลวิทยุในวันที่ 5 ตุลาคม ค.ศ. 2010 โดยสังกัดบิกแมชีนเรเคิดส์ จากอัลบั้ม สปีกนาว (2010) สวิฟต์เขียนเพลงเกี่ยวกับการขัดจังหวะในงานแต่งงาน หลังจากพูดคุยกับเพื่อนของเธอซึ่งคนรักเก่ากำลังจะสมรสกับอีกคนหนึ่ง และฝันว่าหนึ่งในคนรักเก่าของเธอสมรสกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง เพลงบรรเลงด้วยกีตาร์โปร่ง และบรรยายในมุมมองของคนที่ร่วมงานสมรสของคนรักเก่าเพื่อจะได้เขากลับคืนมาอีกครั้ง

"สปีกนาว"
A young blonde woman, clothed by a pink cocktail dress, standing in the middle of the walkway of a church with people seated beside her, many of them with awed faces. She has her hand extended towards the front as a woman near her points in outrage.
ซิงเกิลประชาสัมพันธ์โดยเทย์เลอร์ สวิฟต์
จากอัลบั้มสปีกนาว
วางจำหน่าย5 ตุลาคม ค.ศ. 2010 (2010-10-05)[1]
แนวเพลงคันทรีป็อป
ความยาว4:02
ค่ายเพลงบิกแมชีน
ผู้ประพันธ์เพลงเทย์เลอร์ สวิฟต์
โปรดิวเซอร์

เพลงเปิดรับคำยกย่องจากนักวิจารณ์ในเรื่องรายละเอียดในเนื้อเพลง "สปีกนาว" ประสบความสำเร็จเชิงพาณิชย์ในประเทศแคนาดาและสหรัฐอเมริกา เปิดตัวที่อันดับที่ 8 บนชาร์ตแคนาเดียนฮอต 100 และบิลบอร์ดฮอต 100 การปรากฏตัวบนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 ทำให้เพลงกลายเป็นเพลงที่หกที่เปิดตัวที่สิบอันดับแรก ทำให้สวิฟต์เป็นนักร้องที่มีเพลงเปิดตัวที่สิบอันดับแรกมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาร์ตเพลง "สปีกนาว" ถูกเปิดบ่อยครั้งจนสามารถติดชาร์ตฮอตเพลงคันทรี

เบื้องหลัง แก้

"สปีกนาว" แต่งโดยสวิฟต์ เช่นเดียวกับทุกเพลงในอัลบั้ม[2] เพลงได้แรงบันดาลใจจากเรื่องราวของเพื่อนและคนรักของเพื่อนเธอในไฮสกูล คู่รักเลิกรากันหลังจบไฮสกูล แต่มีความคิดว่าจะกลับมาคืนดีกันในภายหลัง วันหนึ่ง เพื่อนของสวิฟต์บอกสวิฟต์ว่าคนรักสมัยไฮสกูลกำลังจะแต่งงานในไม่ช้า "เขาเจอผู้หญิงคนนี้ที่ดูใจร้ายและแย่ที่ทำให้เขาเลิกพูดถึงเพื่อนคนอื่น ๆ ตัดขาดจากครอบครัว เธอแยกตัวเขาออกมาจากคนพวกนั้น" สวิฟต์กล่าว[3] เธอถามเพื่อนว่าเธอจะ "พูดตอนนี้" หรือไม่ เพื่อนของเธอซึ่งกำลังงุนงงต้องการคำอธิบาย และเธอตอบว่า "ก็แบบว่า พังโบสถ์ จะพูดตอนนี้เลยหรือจะนิ่งเงียบอยู่ตลอดไป ฉันจะไปกับเธอ ฉันจะเล่นกีตาร์ให้ มันต้องดีเยี่ยมแน่ ๆ"[3] เพื่อนของสวิฟต์มองว่าเรื่องนี้น่าขัน และหัวเราะกับความคิดนี้[3]

หลังจากพูดคุยกับเพื่อนเธอ สวิฟต์รู้สึกแน่วแน่ในความคิดเกี่ยวกับความเศร้าโศกเพียงใดสำหรับคนคนหนึ่งที่คนรักต้องไปแต่งงานกับอีกคน ในคืนนั้น สวิฟต์ฝันว่าคนรักเก่าของเธอคนหนึ่งแต่งงานกับผู้หญิงอีกคน นี่เป็นสัญญาณที่บอกว่าเธอต้องแต่งเพลงเกี่ยวกับการขัดขวางงานแต่งงาน หลังจากย้อนคิด เธอสรุปว่า "สำหรับฉันแล้ว ฉันชอบคิดว่ามันคือความดีต่อสู้กับความชั่ว และผู้หญิงคนนี้ก็เป็นแค่คนชั่วคนหนึ่ง"[3] สวิฟต์ตั้งชื่ออัลบั้มตามเพลง "สปีกนาว" เพราะว่ามันตรงกับมโนทัศน์ของอัลบั้ม โดยแต่ละเพลงจะเป็นการสารภาพบางอย่างต่อคนคนหนึ่ง ซึ่งจะแตกต่างกันไป[2] "มันชื่อว่า สปีกนาว และมันเป็นมโนทัศน์และเป็นเนื้อหาหลักของทั้งอัลบั้มมากกว่าที่ฉันจะบอกคุณได้" เธอกล่าว[4] เพลงออกจำหน่ายเป็นซิงเกิลวิทยุในวันที่ 5 ตุลาคม ค.ศ. 2010 เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเคาต์ดาวน์ทูสปีกนาว ที่จัดโดยร้านไอทูนส์[5][6] ในระหว่างสัปดาห์ที่จำหน่ายอัลบั้มสปีกนาว สวิฟต์แสดงเพลง "สปีกนาว" ในรายการเลตโชว์วิดเดวิด เลตเทอร์แมน [7]

การจัดวางองค์ประกอบเพลง แก้

"สปีกนาว" เป็นเพลงแนวคันทรีป็อป ความยาว 4 นาที 2 วินาที[8] ดนตรีมีลักษณะป็อปอย่างโดดเด่น ผสมผสานกับองค์ ประกอบที่เป็นคันทรีอีกหลายอย่าง[9] เพลงกำหนดด้วยอัตราจังหวะ 4 4 (common time) และมีความเร็ว (tempo) ปานกลางที่ 120 จังหวะต่อนาที เพลงเขียนด้วยคีย์จีเมเจอร์ และเสียงของสวิฟต์อยู่ในสองช่วงอ็อกเทฟ ตั้งแต่ A3 ถึง D5[10] เสียงร้องของสวิฟต์เริ่มที่ระดับเสียงเบา แล้วค่อย ๆ ดังขึ้น และ ณ จุดหนึ่ง เธอร้องคำที่เป็นชื่อเพลงด้วยเสียงแบบเบลทิง (belting)[11] เพลงมีท่อนสร้อยที่เป็นเสียงอู้อี้ขึ้นลงแตกต่างกัน คล้าย ๆ กับเพลง "ยูบีลองวิดมี"[9] เพลงบรรเลงด้วยลำดับคอร์ด G–D–Am–C[10] เครื่องดนตรีใช้กีตาร์โปร่ง ทำให้เพลงมีท่อนบรรเลงเดี่ยว (solo) ที่นุ่มนวล[11]

ในเนื้อเพลง "สปีกนาว" สวิฟต์เล่าเรื่องเกี่ยวกับการร่วมงานแต่งงานของคนรักเก่าเพื่อพยายามทำให้ได้เขาคืนมา[11] ท่อนแรกของเพลงทำให้รู้ว่า สวิฟต์ยังคงรักคนรักเก่าของเธอ และยังต้องการมั่นใจว่าเขาไม่ได้สมรสผิดคน ตลอดท่อนเวิร์สในเพลง สวิฟต์แอบเข้าไปในงานแต่งงานและเล่าสิ่งที่เธอสังเกตเห็น เช่น ว่าที่เจ้าสาวสวมใส่ชุดเจ้าสาวพอง ๆ ครอบครัวของเขา และวงดนตรีเครื่องเป่ากำลังเล่นเพลง "ไบรดัลคอรัส"[9][12] ในท่อนที่ร้องซ้ำหรือท่อนรีเฟรน (refrain) สวิฟต์อ้อนวอนคนรักเก่าไม่ให้กล่าวคำปฏิญาณเพื่อจะได้หนีไปกับเธอ[11][12] ท่อนบริดจ์เป็นสวิฟต์ตอบรับคำกล่าวของบาทหลวงที่ว่า "พูดตอนนี้เลยหรือจะนิ่งเงียบอยู่ตลอดไป" (Speak now or forever hold your peace) ก่อนจะร้องท่อนแรกซ้ำอีกครั้ง ท่อนร้องซ้ำท่อนสุดท้ายเปลี่ยนไป โดยสวิฟต์บรรยายจากมุมมองของเจ้าบ่าว และบอกสวิฟต์ว่าพวกเขาจะหนีไปด้วยกัน[12]

การตอบรับ แก้

เพลงได้รับคำยกย่องจากนักวิจารณ์เพลง ไซมอน โวซิก-เลวินสัน จากนิตยสารเอ็นเตอร์เทนเมนต์วีกลี มองว่า "สปีกนาว" เป็นหนึ่งในเพลงที่ดีที่สุดของสวิฟต์ เขายังกล่าวอีกว่า "การสื่อสารผ่านเนื้อเพลงของเธอชดเชยจุดอ่อนทุกจุดได้ดั่งนักร้องที่มีหลักการ" และเพลง "ฟังติดหูอย่างผู้เชี่ยวชาญ" เขาปิดท้ายว่า เมื่อเขาได้ยินเพลงนี้ เขาหยุดเล่นเพลงไม่ได้เลย[9] บิล แลมบ์ จากอะเบาต์ดอตคอม กล่าวว่าเพลงนี้ "งดงาม" (brilliant) เขากล่าวต่อว่า "เพลงฟังดูหวาน ตลก อึกทึก คม ในเวลาเดียวกัน เทย์เลอร์ สวิฟต์ยังคงเป็นหนึ่งในนักแต่งเพลงสาวที่มีพรสวรรค์มากที่สุดคนหนึ่ง"[13] โจนาธาน คีฟ จากนิตยสารสแลนต์แมกกาซีน คิดว่า "สปีกนาว" เป็นตัวอย่างให้เห็นว่าสวิฟต์ไม่สามารถ "แต่งเพลงเกี่ยวกับสิ่งอื่นใดนอกจากประเด็นที่ว่าผู้ชายที่ดีเป็นอย่างไร หรือผู้ชายน่าเบื่อเพียงใด หรือความฝันเกี่ยวกับผู้ชายจะพาเธอไปที่ที่ดีกว่าที่ที่เธออยู่อย่างไร" ได้[14]

ในชาร์ตเพลง แก้

"สปีกนาว" เข้าชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 ที่อันดับที่ 8 เนื่องจากทำยอดดาวน์โหลดได้ 217,000 หน่วย ด้วยเหตุนี้ "สปีกนาว" จึงเป็นเพลงลำดับที่หกของสวิฟต์ที่เปิดตัวที่สิบอันดับแรก ดังนั้นจึงทำให้สวิฟต์เป็นนักร้องที่มีเพลงเปิดตัวที่สิบมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของบิลบอร์ดฮอต 100 นำหน้ามารายห์ แครี ที่มีเพียง 5 เพลง นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1995-1998[15] ในชาร์ตอื่นของแถบอเมริกาเหนือ เพลงเปิดตัวตัวที่อันดับที่ 8 ในชาร์ตแคนาเดียนฮอต 100[16] ในประเทศออสเตรเลีย "สปีกนาว" เปิดตัวที่อันดับที่ 20[17]

การแสดงสด แก้

เพลงถูกนำไปแสดงสดในทัวร์คอนเสิร์ตสปีกนาวเวิลด์ทัวร์[18][19][20] คลิปวิดีโอการแสดงมีให้ชมในมิวสิกวิดีโอเพลง "สปากส์ฟลาย" ในคลิปจะเห็นเจ้าสาวคนหนึ่งสวม "ชุดคลุมยาวรูปร่างเหมือนขนมอบ" ขณะที่เธอเดินขึ้นบันไดมาที่เจ้าบ่าวและบาทหลวง สวิฟต์อยู่ในฉากหลังกำลังตีโพยตีพายอยู่ในคลิป อีกคลิปหนึ่งแสดงเพื่อนเจ้าสาวกำลังโบกมือ เจ้าสาวพูดคุยกับพวกเขาขณะที่เจ้าบ่าวกำลังปรบมือ และเจ้าบ่าววิ่งหนีไปกับสวิฟต์[21] โจเซลิน วีนา จากเอ็มทีวีดอตคอม กล่าวว่า การแสดงดังกล่าวเป็น "ช่วงเวลาที่เหมือนละครอย่างมาก" เนื่องจาก "สวิฟต์แสดงออกว่าทำลายงานแต่งงาน ในที่สุดเธอก็ขโมยเจ้าบ่าวไปได้ ขณะที่เธอร้องเพลงนี้ และทั้งคู่ก็วิ่งฝ่าฝูงชนไปด้วยกัน" [22]

การนำมาร้องใหม่ แก้

ซอฮย็อน จากวงเกิลส์เจเนอเรชันนำเพลงจากอัลบั้มสปีกนาวไปร้องใหม่การแสดงเดี่ยวในคอนเสิร์ตโรแมนติกแฟนตาซีในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2013 ก่อนหน้านั้น เธอเล่นส่วนหนึ่งของเพลงนี้ในรายการโทรทัศน์ บิกบราเธอร์ ตอนที่ออกอากาศวันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 2011 เป็นตัวอย่างเพลงที่เธอเคยใช้ฝึกเล่นกีตาร์และภาษาอังกฤษอย่างสนุกสนาน

รายชื่อเพลง แก้

  • ดิจิทัลดาวน์โหลด[23]
  1. "สปีกนาว" – 4:02

ชาร์ตเพลง แก้

ชาร์ต (2010) ตำแหน่ง
สูงสุด
ออสเตรเลีย (ARIA)[24] 20
Canada (Canadian Hot 100)[25] 8
New Zealand (Recorded Music NZ)[26] 34
US Billboard Hot 100[27] 8
US Hot Country Songs (Billboard)[28] 58

การรับรอง แก้

ประเทศ การรับรอง จำนวนหน่วยที่รับรอง/ยอดขาย
United States (RIAA)[29] Gold 500,000*

*ตัวเลขยอดขายขึ้นกับการรับรองอย่างเดียว

ประวัติการจำหน่าย แก้

ประเทศ วันที่ รูปแบบ สังกัด
สหรัฐ 5 ตุลาคม 2010[1] ดิจิทัลดาวน์โหลด บิกแมชีน

อ้างอิง แก้

  1. 1.0 1.1 "Speak Now - Single by Taylor Swift - Download Speak Now - Single on iTunes". iTunes Store. Apple Inc. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-10-10. สืบค้นเมื่อ 2020-02-02.
  2. 2.0 2.1 Kreps, Daniel (July 21, 2010). "Taylor Swift Announces Third Album, 'Speak Now'". Rolling Stone. Jann Wenner. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-12-03. สืบค้นเมื่อ October 14, 2010.
  3. 3.0 3.1 3.2 3.3 "Songs of Speak Now: Speak Now". Xfnitytv.com. Comcast. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-11-05. สืบค้นเมื่อ October 15, 2010.
  4. Dinh, James (July 20, 2010). "Taylor Swift Reveals Next Album, Speak Now, Is Due October 25". MTV News. Viacom. สืบค้นเมื่อ October 14, 2010.
  5. "Speak Now – Single by Taylor Swift". iTunes Store. Apple, Inc. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-10-12. สืบค้นเมื่อ October 14, 2010.
  6. "Countdown to Speak Now". iTunes Store. Apple, Inc. สืบค้นเมื่อ October 14, 2010.
  7. "Late Show with David Letterman". Late Show with David Letterman. October 26, 2010. CBS.
  8. "allmusic - Speak Now Overview". Allmusic. สืบค้นเมื่อ October 15, 2010.
  9. 9.0 9.1 9.2 9.3 Vozick-Levinson, Simon (October 5, 2010). "Taylor Swift releases 'Speak Now' single: Like it?". Entertainment Weekly. Time Warner. สืบค้นเมื่อ October 15, 2010.
  10. 10.0 10.1 "Digital sheet music – Taylor Swift – Speak Now". Musicnotes.com. Alfred Publishing.
  11. 11.0 11.1 11.2 11.3 Lipshutz, Jason (October 5, 2010). "Taylor Swift Releases 'Speak Now' Title Track". Billboard. Nielsen Business Media, Inc. สืบค้นเมื่อ October 14, 2010.
  12. 12.0 12.1 12.2 Vena, Jocelyn (October 5, 2010). "Taylor Swift Previews 'Speak Now'". MTV News. Nielsen Business Media, Inc. สืบค้นเมื่อ October 14, 2010.
  13. Lamb, Bill (October 5, 2010). "Taylor Swift Drops Brilliant "Speak Now" Title Song From Upcoming Album and Storms the Charts". About.com. The New York Times Company. สืบค้นเมื่อ October 10, 2010.
  14. Keefe, Jonathan (October 25, 2010). "Taylor Swift – Speak Now". Slant Magazine. สืบค้นเมื่อ July 29, 2011.
  15. Caulfield, Keith; Pietroluongo, Silvio (October 14, 2010). "Chart Moves: 'Glee,' Mavis Staples, Stephen Colbert, 'Social Network,' Pink". Billboard. Nielsen Business Media, Inc. สืบค้นเมื่อ October 14, 2010.
  16. "Speak Now – Taylor Swift". Billboard. Nielsen Business Media, Inc. สืบค้นเมื่อ October 15, 2010.
  17. "Taylor Swift – Speak Now (Song)". Australian-charts.com. Australian Recording Industry Association. October 18, 2010. สืบค้นเมื่อ October 17, 2010.
  18. "Taylor Swift shimmers in Omaha". Coffey, Kevin. Omaha World-Herald. May 28, 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-11-05. สืบค้นเมื่อ August 19, 2011.
  19. Herrero, Javier (March 19, 2011). "Taylor Swift encandila a unos 4.000 madrileños con su country edulcorado" [Taylor Swift dazzle some 4,000 locals sweetened country]. La Rioja (ภาษาสเปน). Grupo Vocento. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-03-28. สืบค้นเมื่อ August 19, 2011.
  20. Sträter, Andreas (March 13, 2011). "Blaue Augen, süße Songs: Taylor Swift in Oberhausen" [Blues, sweet songs: Taylor Swift in Overhausen]. Soester Anzeiger (ภาษาเยอรมัน). สืบค้นเมื่อ August 19, 2011.
  21. "Taylor Swift – Sparks Fly". Youtube. August 11, 2011. สืบค้นเมื่อ August 19, 2011.
  22. "Taylor Swift's Speak Now Tour Brings Honky Tonk to NJ". MTV. July 20, 2011. สืบค้นเมื่อ August 19, 2011.
  23. "Speak Now – Single". iTunes Store. Apple, Inc. สืบค้นเมื่อ October 6, 2010.
  24. "Taylor Swift – Speak Now". ARIA Top 50 Singles. สืบค้นเมื่อ December 6, 2021.
  25. "Taylor Swift Chart History (Canadian Hot 100)". Billboard. สืบค้นเมื่อ December 6, 2021.
  26. "Taylor Swift – Speak Now". Top 40 Singles. สืบค้นเมื่อ December 6, 2021.
  27. "Taylor Swift Chart History (Hot 100)". Billboard. สืบค้นเมื่อ December 6, 2021.
  28. "Taylor Swift Chart History (Hot Country Songs)". Billboard. สืบค้นเมื่อ December 6, 2021.
  29. "American single certifications – Taylor Swift – Speak Now". Recording Industry Association of America. สืบค้นเมื่อ July 15, 2020.

แหล่งข้อมูลอื่น แก้