แม่แบบ:Indian art ศิลปะเมารยะเป็นคำใช้เรียกงานศิลปะที่ผลิตขึ้นในยุคของจักรวรรดิเมารยะ อาณาจักรแรกที่สามารถปกครองอนุทวีปอินเดียตอนเหนือตั้งแต่ปี 322 ถึง 185 ปีก่อนคริสต์กาล ศิลปะเมารยะที่หลงเหลือมาถึงปัจจุบันเป็นผลงานภายใต้พระราชูปถัมภ์ของกษัตริย์เมารยะ โดยเฉพาะพระเจ้าอโศกมหาราช หลักฐานชิ้นสำคัญที่หลงเหลือมาถึงปัจจุบันมีทั้งเสา, สถูป และถ้ำเจาะหิน

ศิลปะเมารยะ
สิงหสตมภศีรษะของเสาอโศก สัญลักษณ์ประจำชาติอินเดีย ตัวอย่างชิ้นสำคัญของศิลปะเมารยะ

ศิลปะเมารยะขนาดใหญ่ที่หลงเหลือมาจนปัจจุบันเช่นซากของพระราชวังหลวงที่ปาฏลีบุตร, ราวมอนอลิธที่สารนาถ, โพธิมณฑล หรือแท่นทั้งสี่ที่โพธคยา, โถงเจดีย์ที่สลักเข้าไปในหินของถ้ำบาราบาร์ใกล้กับอำเภอคยา, งานแกะสลักแสดงสัตว์และพืชบนหินที่ธาวลี เป็นต้น[1]

อานันทะ โคมารัสวามีได้บันทึกไว้เมื่อปี 1923 ว่าศิลปะเมารยะมีอยู่สามระยะหลัก[2] ระยะแรกสุดจะพบร่อยรอยของเทพเจ้าจากความเชื่อแบบพระเวท (เช่นภาพแกะสลักนูนต่ำแสดง พระสูรยะ และ พระอินทร์ ในถ้ำภชา)[2] อย่างไรก็ตาม ถ้ำภชาในปัจจุบันถือกันว่าสร้างขึ้นภายหลังสมัยเมารยะ ราว 200-100 ปีก่อนคริสต์กาล[3] ยุคที่สองเป็นราชศิลปะในพระเจ้าอโศกมหาราช พบในงานแกะสลักเสาจากหินก้อนเดียวที่มีจารึกพระราชโองการบนนั้น และยุคที่สามเป็นยุคเริ่มแรกของสถาปัตยกรรมอิฐและหิน เช่นในสถูปองค์เดิมที่สาญจี และถ้ำโลมัสฤษี ใสหมู่ถ้ำบาราบาร์[2]

นักวิชาการส่วนมากเห็นตรงกันว่าศิลปะเมารยะได้รับอิทธิพลจากศิลปะกรีกและศิลปะเปอร์เซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่พบในสถาปัตยกรรมและประติมากรรมของหลวง[4]

อ้างอิง แก้

  1. Mahajan V.D. (1960, reprint 2007). Ancient India, New Delhi: S.Chand, New Delhi, ISBN 81-219-0887-6, p.348
  2. 2.0 2.1 2.2 Introduction To Indian Art. 1923. p. 15.
  3. Kumar, Raj (2003). Essays on Indian Art and Architecture (ภาษาอังกฤษ). Discovery Publishing House. p. 12. ISBN 978-81-7141-715-5.
  4. V.D, Mahajan (2016). Ancient India (ภาษาอังกฤษ). S. Chand Publishing. pp. 270–271. ISBN 9789352531325.