วัลเทอร์ ไรน์ฮาร์ท
พลเอกทหารราบ วัลเทอร์ กุสทัฟ ไรน์ฮาร์ท (เยอรมัน: Walther Gustav Reinhardt) เป็นนายทหารชาวเยอรมัน ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีการสงครามปรัสเซียคนสุดท้าย และได้ประเดิมเป็นอธิบดีกรมทหารบก สังกัดกระทรวงไรชส์แวร์ นายพลไรน์ฮาร์ทเป็นผู้ภักดีต่อรัฐบาลใหม่จากการเลือกตั้ง และเป็นหนึ่งในนายทหารระดับสูงไม่กี่คนที่กล้าออกคำสั่งให้กองทหารยิงกลุ่มก่อความไม่สงบ
วัลเทอร์ ไรน์ฮาร์ท | |
---|---|
รัฐมนตรีการสงครามปรัสเซีย | |
ดำรงตำแหน่ง 2 มกราคม 1919 – 13 กันยายน 1919 | |
ประธานาธิบดี | ฟรีดริช เอเบิร์ท |
หัวหน้ารัฐบาล | ฟิลลิพ ไชเดอมัน กุสทัฟ เบาเออร์ |
ก่อนหน้า | ไฮน์ริช ช็อยช์ |
ถัดไป | ยุบเลิกตำแหน่ง |
อธิบดีกรมทหารบก | |
ดำรงตำแหน่ง 13 กันยายน 1919 – 26 มีนาคม 1920 | |
ก่อนหน้า | สถาปนาตำแหน่ง |
ถัดไป | ฮันส์ ฟ็อน เซคท์ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 24 มีนาคม ค.ศ. 1872 ชตุทท์การ์ท จักรวรรดิเยอรมัน |
เสียชีวิต | 8 สิงหาคม ค.ศ. 1930 เบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี | (58 ปี)
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | เยอรมนี เยอรมนี |
สังกัด | กองทัพบกจักรวรรดิเยอรมัน ไรชส์แวร์ |
ประจำการ | 1892–1930 |
ยศ | พลเอกทหารราบ |
วัลเทอร์ ไรน์ฮาร์ท เกิดเมื่อ 24 มีนาคม ค.ศ. 1872 ในเมืองชตุทท์การ์ท เป็นบุตรของพลตรี เอากุสท์ ฟ็อน ไรน์ฮาร์ท (August von Reinhardt) แห่งกองทัพหลวงเวือร์ทเทิมแบร์ค กับนางเอมีเลีย ฟ็อน วีเดินมัน (Emilie von Wiedenmann)[1]
ในช่วงต้น ค.ศ. 1918 พันเอก วัลเทอร์ ไรน์ฮาร์ท ได้รับตำแหน่งผู้บังคับการปลดประจำการ (Leiter der Demobilmachung) ขึ้นกับกระทรวงการสงครามปรัสเซีย หลังเสร็จสิ้นสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เมื่อการปฏิวัติเริ่มขึ้นในเยอรมนี เขาเป็นผู้นำกำลังทหารเข้าปกป้องทำเนียบนายกรัฐมนตรีและได้รับความไว้วางใจจากฟรีดริช เอเบิร์ท นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ต่อมาในวันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 1919 ไรน์ฮาร์ทได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีการสงคราม และยังยอมรับตำแหน่งสมาชิกในคณะมนตรีผู้แทนราษฎร (Rat der Volksbeauftragten) อันเป็นคณะรัฐบาลชั่วคราวหลังสิ้นสุดระบอบจักรพรรดิ
เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1919 ภายหลังการเลือกตั้งและได้รัฐบาลใหม่ในระบอบสาธารณรัฐ พันเอกไรน์ฮาร์ทในฐานะรัฐมนตรีการสงคราม จึงเป็นสมาชิกคณะรัฐมนตรีใหม่ของฟิลลิพ ไชเดอมัน โดยอัตโนมัติ ต่อมาในเดือนกรกฎาคม ผู้นำกองทัพอย่างจอมพล เพาล์ ฟ็อน ฮินเดินบวร์ค และพลโท วิลเฮ็ล์ม เกรอเนอร์ ลาออกทั้งคู่ คณะเสนาธิการใหญ่จึงถูกยุบ รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ซึ่งบังคับใช้ในเดือนสิงหาคมกำหนดให้รัฐมนตรีกลาโหมกุสทัฟ น็อสเคอ ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสูงสุดแห่งไรชส์แวร์ กระทรวงการสงครามของสี่แคว้นในเยอรมนี (ไบเอิร์น, ซัคเซิน, เวือร์ทเทิมแบร์ค, ปรัสเซีย) จึงถูกยุบและผนวกรวมกันเข้าเป็นกระทรวงไรชส์แวร์ในวันที่ 13 กันยายน ค.ศ. 1919 พันเอกไรน์ฮาร์ทจึงมีตำแหน่งใหม่เป็นอธิบดีกรมทหารบก (Chef der Heeresleitung) ตำแหน่งสูงสุดในกองกำลังป้องกันตนเองทางบกของเยอรมนี และได้รับเลื่อนยศเป็นพลตรี ในช่วงนี้เขามีงานหลักในการลดขนาดเหล่าทัพบกให้เหลือกำลังพลไม่เกินหนึ่งแสนนายตามข้อกำหนดในสนธิสัญญาแวร์ซาย[1] พลตรีไรน์ฮาร์ทลาออกพร้อมกับฐมนตรีกลาโหมน็อสเคอในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1920 พลเอก ฮันส์ ฟ็อน เซคท์ เข้ารับช่วงต่อเป็นอธิบดีกรมทหารบก[2][3]: 54 หลังลาออกจากตำแหน่งอธิบดีกรมทหารบก ไรน์ฮาร์ทก็ยังคงทำงานในไรชส์แวร์ต่อไปในตำแหน่งผู้บังคับหน่วยทหารจนเสียชีวิตใน ค.ศ. 1930
อ้างอิง แก้
- ↑ 1.0 1.1 "Biografie Walther Reinhardt (German)". Bayerische Staatsbibliothek. สืบค้นเมื่อ 25 July 2013.
- ↑ Herzfeld, Hans (ed) (1963). Geschichte in Gestalten:3:L-O (German). Fischer, Frankfurt. pp. 231–232.
{{cite book}}
:|first=
มีชื่อเรียกทั่วไป (help) - ↑ Dederke, Karlheinz (1996). Reich und Republik, Deutschland 1917-1933 (German). Klett-Cotta. ISBN 3-608-91802-7.
แหล่งข้อมูลอื่น แก้
- Biography - Bundesarchiv
- Acta Borussica Bd.11/II เก็บถาวร 2014-08-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (PDF-Datei; 1,92 MB)