เส้นเวลาของเรือโดยสารที่ใหญ่ที่สุดในโลก

การวัดขนาดเรือโดยสารใช้หน่วยวัดแบบตันกรอส โดยมีการรวบรวมทำเป็นสถิติของเรือเดินสมุทรทั่วโลกที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งเริ่มบันทึกใน ค.ศ. 1819 หรือ พ.ศ. 2362 จนถึงปัจจุบัน โดยแต่ละช่วงเวลามีเรือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดดังต่อไปนี้

ปีที่ประจำการ (ค.ศ.) ปีที่ประจำการ (พ.ศ.) ชื่อเรือ สายการเดินเรือ ขนาด (ตันกรอส) สัญชาติ รูปเรือ
1819–1831 2362–2374 เอสเอส ซาวานนาห์ บริษัท ซาวานนาห์สตีมชิป 320 สหรัฐ
1831–1838 2374–2381 เอสเอส รอยัล วิลเลียม บริษัท เซนต์จอห์น & แฮลิแฟกซ์สตีมเนวิเกชัน 1,370[1] แคนาดา
1838–1839 2381–2382 เอสเอส เกรต เวสเทิร์น บริษัท เกรตเวสเทิร์นสตีมชิป 1,700[2] สหราชอาณาจักร
1839–1840 2382–2383 เอสเอส บริติช ควีน บริษัท บริติช & อเมริกันสตีมเนวิเกชัน 1,850[3] สหราชอาณาจักร
1840–1845 2383–2388 เอสเอส เพรซิเดนต์ บริษัท บริติช & อเมริกันสตีมเนวิเกชัน 2,366[4] สหราชอาณาจักร
1845–1853 2388–2396 เอสเอส เกรต บริเตน บริษัท เกรตเวสเทิร์นสตีมชิป 3,270[5] สหราชอาณาจักร
1853–1853 2396–2396 เอสเอส หิมาลายา บริษัท พี & โอสตีมเนวิเกชัน 3,438 สหราชอาณาจักร
1853–1857 2396–2400 เอสเอส เอตราโต บริษัท รอยัลเมล์ไลน์ 3,466[6] สหราชอาณาจักร
1857–1858 2400–2401 เอสเอส เอเดรียติก บริษัท นิวยอร์ก & ลิเวอร์พูลยูไนเต็ดสเตตส์เมล์ เอส. เอส. (คอลลินส์) 3,670[7] สหรัฐ
1858–1867 2401–2410 เอสเอส เกรตอีสเทิร์น บริษัท อีสเทิร์นสตีมเนวิเกชัน 18,915[8] สหราชอาณาจักร
1867–1871 2410–2414 อาร์เอ็มเอส รีพับลิก บริษัท แปซิฟิกเมล์สตีมชิป 4,352 สหรัฐ
1871–1873 2414–2416 อาร์เอ็มเอส อียิปต์ บริษัท เนชันแนลไลน์ 4,670 สหราชอาณาจักร
1873–1874 2416–2417 อาร์เอ็มเอส ซิตีออฟเชสเตอร์ บริษัท อินแมนไลน์ 4,770 สหราชอาณาจักร
1874–1875 2417–2418 อาร์เอ็มเอส บริแทนนิก บริษัท ไวต์สตาร์ไลน์ 5,008 สหราชอาณาจักร
1875–1881 2418–2424 เอสเอส ซิตีออฟเบอร์ลิน บริษัท อินแมนไลน์ 5,526 สหราชอาณาจักร
1881–1881 2424–2424 เอสเอส เซอร์เวีย บริษัท คูนาร์ดไลน์ 7,391 สหราชอาณาจักร
1881–1888 2424–2431 เอสเอส ซิตีออฟโรม บริษัท อินแมนไลน์ 8,415 สหราชอาณาจักร
1888–1893 2431–2436 เอสเอส ซิตีออฟนิวยอร์ก บริษัท อินแมนไลน์ 10,499[9] สหราชอาณาจักร
1893–1897 2436–2440 อาร์เอ็มเอส คัมปาเนีย บริษัท คูนาร์ดไลน์ 12,950[10] สหราชอาณาจักร
1893–1897 2436–2440 อาร์เอ็มเอส ลูคาเนีย บริษัท คูนาร์ดไลน์ 12,950[10] สหราชอาณาจักร
1897–1899 2440–2442 เอ็สเอ็ส ไคเซอร์วิลเฮ็ล์มแดร์โกรส บริษัท นอร์ทด็อยท์เชอร์ล็อยท์ 14,349[11] เยอรมนี
1899–1901 2442–2444 อาร์เอ็มเอส โอเชียนิก บริษัท ไวต์สตาร์ไลน์ 17,272[12] สหราชอาณาจักร
1901–1905 2444–2448 อาร์เอ็มเอส เซลติก บริษัท ไวต์สตาร์ไลน์ 21,035 สหราชอาณาจักร
1905–1905 2448–2448 เอ็สเอ็ส อาเมอรีคา บริษัท ฮาพาค 22,225 เยอรมนี
1905–1906 2448–2449 อาร์เอ็มเอส บอลติก บริษัท ไวต์สตาร์ไลน์ 23,876[13] สหราชอาณาจักร
1906–1907 2449–2450 เอ็สเอ็ส ไคเซอรีนเอากุสเทอวิคโทรีอา บริษัท ฮาพาค 24,581[14] เยอรมนี
1907–1907 2450–2450 อาร์เอ็มเอส ลูซิเทเนีย บริษัท คูนาร์ดไลน์ 31,550[15] สหราชอาณาจักร
1907–1911 2450–2454 อาร์เอ็มเอส มอริเทเนีย บริษัท คูนาร์ดไลน์ 31,938[15] สหราชอาณาจักร
1911–1912 2454–2455 อาร์เอ็มเอส โอลิมปิก บริษัท ไวต์สตาร์ไลน์ 45,234[16] สหราชอาณาจักร
1912–1912 2455–2455 อาร์เอ็มเอส ไททานิก บริษัท ไวต์สตาร์ไลน์ 46,328[17] สหราชอาณาจักร
1912–1913 2455–2456 อาร์เอ็มเอส โอลิมปิก (ซ่อมแซมต่อเติมเรือ) บริษัท ไวต์สตาร์ไลน์ 46,439 สหราชอาณาจักร
1913–1914 2456–2457 เอ็สเอ็ส อิมเพอราทอร์ บริษัท ฮาพาค 52,117[18] เยอรมนี
1914–1914 2457–2457 เอ็สเอ็ส ฟาเทอร์ลันท์ บริษัท ฮาพาค 54,282[19][20] เยอรมนี
1914–1922 2457–2465 เอ็สเอ็ส บิสมาร์ค บริษัท ฮาพาค 56,551 สหรัฐ
1922–1935 2465–2478 อาร์เอ็มเอส มาเจสติก (เอ็สเอ็ส บิสมาร์ค ที่ถูกซื้อและเปลี่ยนชื่อ) บริษัท ไวต์สตาร์ไลน์ 56,551 สหราชอาณาจักร
1935–1940 2478–2483 แอ็สแอ็ส นอร์ม็องดี บริษัท กงเปญีเฌเนราลทร็องซัตล็องติก 79,280 ฝรั่งเศส
1935–1940 2478–2483 แอ็สแอ็ส นอร์ม็องดี (หลังต่อเติม) บริษัท กงเปญีเฌเนราลทร็องซัตล็องติก 83,423[21] ฝรั่งเศส
1940–1971 2483–2514 อาร์เอ็มเอส ควีน เอลิซาเบธ บริษัท คูนาร์ด-ไวต์สตาร์ 83,673[22] สหราชอาณาจักร
1971–1972 2514–2515 เอสเอส ซีไวซ์ ยูนิเวอร์ซิตี (อาร์เอ็มเอส ควีน เอลิซาเบธ ที่ถูกซื้อและเปลี่ยนชื่อ) บริษัท โอเรียนต์โอเวอร์ซีส์คอนเทนเนอร์ไลน์ 83,673 ฮ่องกง
1972–1984 2515–2527 แอ็สแอ็ส ฟร็องส์ บริษัท กงเปญีเฌเนราลทร็องซัตล็องติก 66,343[23] ฝรั่งเศส
1984–1988 2527–2531 เอสเอส นอร์เวย์ (แอ็สแอ็ส ฟร็องส์ ที่ถูกซื้อ เปลี่ยนชื่อ ซ่อมแซม ต่อเติม) บริษัท นอร์วีเจียนครูซไลน์ 70,202 นอร์เวย์และสหรัฐ
1988–1990 2531–2533 เอ็มเอส โซเวอเรน ออฟ เดอะ ซีส์ บริษัท รอยัลแคริบเบียนอินเตอร์เนชันแนล 73,192[24] นอร์เวย์และสหรัฐ
1990–1996 2533–2539 เอสเอส นอร์เวย์ (ซ่อมแซมต่อเติมอีกครั้ง) บริษัท นอร์วีเจียนครูซไลน์ 76,049 นอร์เวย์และสหรัฐ
1996–1997 2539–2540 เอ็มเอส คาร์นิวัล เดสตินี บริษัท คาร์นิวัลครูซไลน์ 101,509 สหรัฐ
1997–1999 2540–2542 เอ็มเอส แกรนด์ พรินเซส บริษัท พี & โอ พรินเซสครูเซส 108,865 สหรัฐและสหราชอาณาจักร
1999–2000 2542–2543 เอ็มเอส วอยเอเจอร์ ออฟ เดอะ ซีส์ บริษัท รอยัลแคริบเบียนอินเตอร์เนชันแนล 137,276 นอร์เวย์และสหรัฐ
2000–2004 2543–2547 เอ็มเอส เอกซ์พลอเรอร์ ออฟ เดอะ ซีส์ บริษัท รอยัลแคริบเบียนอินเตอร์เนชันแนล 137,308 นอร์เวย์และสหรัฐ
2004–2006 2547–2549 อาร์เอ็มเอส ควีน แมรี 2 บริษัท คูนาร์ดไลน์ 148,528[25] สหราชอาณาจักร
2006–2009 2549–2552 เอ็มเอส ฟรีดอม ออฟ เดอะ ซีส์ บริษัท รอยัลแคริบเบียนอินเตอร์เนชันแนล 154,407[26] นอร์เวย์และสหรัฐ
2007–2009 2550–2552 เอ็มเอส ลิเบอร์ตี ออฟ เดอะ ซีส์ (เรือแฝด) บริษัท รอยัลแคริบเบียนอินเตอร์เนชันแนล 154,407 นอร์เวย์และสหรัฐ
2008–2009 2551–2552 เอ็มเอส อินดิเพนเดนซ์ ออฟ เดอะ ซีส์ (เรือแฝดอีกลำ) บริษัท รอยัลแคริบเบียนอินเตอร์เนชันแนล 154,407 นอร์เวย์และสหรัฐ
2009–2010 2552–2553 เอ็มเอส โอเอซิส ออฟ เดอะ ซีส์ บริษัท รอยัลแคริบเบียนอินเตอร์เนชันแนล 225,282[27] นอร์เวย์และสหรัฐ
2010–2016 2553–2559 เอ็มเอส อัลเลอร์ ออฟ เดอะ ซีส์ (เรือแฝด) บริษัท รอยัลแคริบเบียนอินเตอร์เนชันแนล 225,282 นอร์เวย์และสหรัฐ
2016–2017 2559–2560 เอ็มเอส ฮาร์มอนี ออฟ เดอะ ซีส์ บริษัท รอยัลแคริบเบียนอินเตอร์เนชันแนล 226,953 นอร์เวย์และสหรัฐ
2018–2022 2561–2565 เอ็มเอส ซิมโฟนี ออฟ เดอะ ซีส์ บริษัท รอยัลแคริบเบียนอินเตอร์เนชันแนล 228,081 นอร์เวย์และสหรัฐ
2022–2022 2565–2565 เอ็มเอส วันเดอร์ ออฟ เดอะ ซีส์ บริษัท รอยัลแคริบเบียนอินเตอร์เนชันแนล 236,857[28] นอร์เวย์และสหรัฐ
2022–ปัจจุบัน 2565–ปัจจุบัน เอ็มเอส ไอคอน ออฟ เดอะ ซีส์ บริษัท รอยัลแคริบเบียนอินเตอร์เนชันแนล 250,800[29] นอร์เวย์และสหรัฐ
  • เอสเอส เกรตอีสเทิร์น เป็นเรือลำที่มีขนาดก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับยุคนั้น หลังการปลดระวางการใช้เรือ เกรดอีสเทิร์น ก็ไม่มีเรือโดยสารลำใดในโลกที่ใหญ่กว่านานถึง 34 ปี
  • เช่นเดียวกับเรือ อาร์เอ็มเอส ควีน เอลิซาเบธ หลังเรือประสบอุบัติเหตุไฟไหม้จนต้องปลดระวาง ก็ไม่มีเรือโดยสารลำใดใหญ่กว่าเป็นเวลานานถึง 24 ปี
  • ภายหลังการอับปางของเรืออาร์เอ็มเอสไททานิก เรือโอลิมปิก ได้รับการปรับปรุงอีกครั้งเพื่อเพิ่มความปลอดภัย โอลิมปิก จึงขึ้นตำแหน่งเป็นเรือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอีกครั้งก่อนที่เรือ เอสเอส อิมเพอเรเตอร์ ที่ออกบริการในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1913 ได้รับตำแหน่งนี้
  • เป็นที่น่าสังเกตว่าไม่มีเรือควีนแมรี ติดอันดับ เนื่องจาก ควีนแมรี ได้รับการออกแบบให้มีขนาดใหญ่กว่าเรือนอร์ม็องดี ซึ่งมีขนาดดั้งเดิม 79,280 ตัน แต่ก่อนหน้าที่เรือ ควีนแมรี ออกบริการ เรือ นอร์ม็องดี ก็ได้รับการต่อเติมอีก จึงมีขนาด 83,423 ตัน ซึ่งถึงแม้ว่า ควีนแมรี ต่อเติมส่วนอื่น ๆ แต่ก็ได้แค่ 81,235 ตัน
  • เรือโดยสาร ไอคอนออฟเดอะซีส์ ของรอยัลแคริบเบียนอินเตอร์เนชันแนล สัญชาตินอร์เวย์และสหรัฐเป็นเรือโดยสารที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีกำหนดแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2024 ขนาด 250,800 ตัน ใหญ่กว่าเรือ อาร์เอ็มเอสไททานิก ถึง 5.4 เท่า และเป็นเรือโดยสารลำแรกของโลกที่ใช้พลังงานจากแก๊สธรรมชาติ จุผู้คนได้มากที่สุด 9,950 คน ความยาวเรือ 365 เมตร จำนวน 20 ชั้น

ดูเพิ่ม แก้

อ้างอิง แก้

  1. Boileau, John (2006). Samuel Cunard: Nova Scotia's Master of the North Atlantic. Formac Publishing Company Limited. p. 44. ISBN 978-0-88780-712-1.
  2. Freeman Hunt (1844). Merchants' Magazine and Commercial Review, Volume 10. New York City: 142 Fulton Street. p. 383.
  3. Corlett, Ewan (1975). The Iron Ship: the Story of Brunel's ss Great Britain. Conway.
  4. Gerhard Falk (2013). Twelve Inventions which Changed America: The Influence of Technology on American Culture. Rowman & Littlefield. p. 8. ISBN 978-0-7618-6080-8.
  5. William L. Garrison; David M. Levinson (2005). The Transportation Experience: Policy, Planning, and Deployment. Oxford University Press. p. 210. ISBN 978-0-19-534673-2.
  6. "Atrato". clydeships.co.uk. สืบค้นเมื่อ 17 กันยายน 2019.
  7. "Thing - SS Adriatic 12 Cent Stamp - 1869 - Historic photos, documents, and people". Archive Project (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 13 ตุลาคม 2023.
  8. Dawson, Philip S. (2005). The Liner. Chrysalis Books. p. 37. ISBN 978-0-85177-938-6.
  9. "City of New York". clydeships.co.uk. สืบค้นเมื่อ 18 กันยายน 2019.
  10. 10.0 10.1 Mark Chirnside (2015). RMS Olympic: Titanic's Sister. The History Press. p. 9. ISBN 978-0-7509-6348-0.
  11. Congressional Edition, Volume 5796. U.S. Government Printing Office. 1909. p. 114.
  12. William H. Miller (2001). Picture History of British Ocean Liners, 1900 to the Present. Courier Corporation. p. 8. ISBN 978-0-486-41532-1.
  13. Paul Oldfield (2017). Victoria Crosses on the Western Front: Third Ypres 1917: 31 July 1917 – 6 November 1917. Pen and Sword. ISBN 978-1-4738-8485-4.
  14. Anne Sinkler Whaley LeClercq (2012). Elizabeth Sinkler Coxe's Tales from the Grand Tour, 1890-1910. Univ of South Carolina Press. ISBN 978-1-61117-210-2.
  15. 15.0 15.1   Watts, Philip (1911). "Ship" . ใน Chisholm, Hugh (บ.ก.). สารานุกรมบริตานิกา ค.ศ. 1911. Vol. 24 (11 ed.). สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์. pp. 880–970, see page 970.
  16. Chirnside, Mark (2011). The 'Olympic' Class Ships. The History Press. p. 142. ISBN 978-0-7524-5895-3.
  17. Proceedings - Institution of Mechanical Engineers. Institution of Mechanical Engineers. 1912. p. 553.
  18. J. Kent Layton (2009). "Imperator". AtlanticLiners.com. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2020.
  19. "Vaterland/Leviathan". The Great Ocean Liners. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 มิถุนายน 2017. สืบค้นเมื่อ 9 ตุลาคม 2011.
  20. Merchant Vessels of the United States 1924-1925. Washington, D.C.: Department of Commerce, Bureau of Navigation. 1925. p. 132. hdl:2027/osu.32435066707100. สืบค้นเมื่อ 2 ตุลาคม 2021.
  21. Super Liners. Vol. 103. Life magazine. 1936. p. 13. By August, the Normandie, having increased her tonnage, was again the World's Largest Liner
  22. William H. Miller (2021). A New Age-A New Queen. Queen Elizabeth 2: Ship of Legend. Fonthill Media.
  23. Ships Monthly. Vol. 35. Waterway Productions Limited. 2000. p. 12. ISBN 978-1-86176-117-0.
  24. Shipowners/Managers/Operators: Norway. Lloyd's Maritime Directory. Vol. 2. Lloyd's of London Press. 2006. p. 731.
  25. The Motor Ship, Volume 85. IPC Industrial Press Limited. 2004. p. 9.
  26. "2016-2017 Royal Caribbean Fleet Guide" (PDF). Royal Caribbean International. 26 กุมภาพันธ์ 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 7 มีนาคม 2016. สืบค้นเมื่อ 4 มีนาคม 2016.
  27. Sam Dodge; Ana Franca; Mark Oliver (5 กุมภาพันธ์ 2016). "Oasis of the Seas, the world's largest cruise ship, in numbers". The Daily Telegraph. สืบค้นเมื่อ 12 มีนาคม 2020.
  28. "Wonder of the Seas Fact Sheet". Royal Caribbean Press Center. Royal Caribbean Group. สืบค้นเมื่อ 27 มกราคม 2022.
  29. "Icon of the Seas Ship Details Revealed - Cruise Critic". www.cruisecritic.com.

แหล่งข้อมูลอื่น แก้