ราชอาณาจักรเนปาล

รัฐอธิปไตยในภูมิภาคเอเชียใต้ ดำรงอยู่ระหว่าง ค.ศ. 1768–2008

ราชอาณาจักรเนปาล (อังกฤษ: Kingdom of Nepal, เนปาล: नेपाल अधिराज्य) ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2311 โดยการก่อตั้งประเทศเนปาล โดย พระเจ้าปฤถวีนารายัณ ศาหะ (r. 1768-1775) กษัตริย์ของชาวกุรข่า ผู้รวบรวมดินแดนในหุบเขากาฐมาณฑุ ปาตาน และภักตปุรเข้าเป็นรัฐเดียวกัน และดำรงอยู่ 240 ปี ภายใต้การปกครองของราชวงศ์ศาหะ จนกระทั่งสิ้นสุดลงในปี พ.ศ. 2551

ราชอาณาจักรเนปาล

  • नेपाल अधिराज्य
  • เนปาล อธิราชยะ
2311–2551
ธงชาติเนปาล
ธงชาติเนปาล ก่อนปี พ.ศ. 2505
ด้านบน: ธงชาติ (พ.ศ. 2505–2551)
ด้านล่าง: ธงชาติ (ก่อนปี พ.ศ. 2505)
คำขวัญजननी जन्मभूमिश्च स्वर्गादपि गरीयसी (ภาษาสันสกฤต)
มารดาและมาตุภูมิยิ่งใหญ่กว่าสวรรค์
เพลงชาติพ.ศ. 2505–2549:
"ศรีมาน คัมภีระ เนปาลี" (เนปาล: श्रीमान् गम्भीर)
(ไทย: "ขอให้พระมหากษัตราธิราชผู้องอาจของเราจงทรงพระเจริญเถิด")

พ.ศ. 2550–2551:
"สเยาง์ ถุงคา ผูลกา หามี"
ดินแดนแห่งราชอาณาจักรเนปาลใน พ.ศ. 2351
ดินแดนแห่งราชอาณาจักรเนปาลใน พ.ศ. 2351
ดินแดนแห่งราชอาณาจักรเนปาลใน พ.ศ. 2551
ดินแดนแห่งราชอาณาจักรเนปาลใน พ.ศ. 2551
สถานะ
  • ราชาธิปไตย

อารักขาของสหราชอาณาจักร (2359–2466)[1][2][3]

เมืองหลวงกาฐมาณฑุ
ภาษาทั่วไปภาษาเนปาล (โกร์ขลี)
ศาสนา
ศาสนาฮินดู (ศาสนาประจำชาติ)
เดมะนิมชาวเนปาล
การปกครองรัฐเดี่ยวสมบูรณาญาสิทธิราชย์
(2311–2494; 2505-2533; 2545; 2548-2549)

ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญแบบรัฐสภา
(2494-2495; 2496-2498; 2499-2503; 2533–2545; 2545-2548; 2549-2551)

ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ
(2495-2496; 2498-2499; 2503-2505)
ศรีปัญจมหาราชธิราช (มหาราช) 
• 2311–2318
พระเจ้าปฤถวีนารายัณ ศาหะ (องค์แรก)
• 2544–2551
(หลังครองราชย์เป็นรัชทายาทที่ได้รับสมมุติในปี พ.ศ. 2551)
สมเด็จพระราชาธิบดีชญาเนนทระแห่งเนปาล (องค์สุดท้าย)
นายกรัฐมนตรี 
• 2342–2347
ทาโมทัร ปังเท (นายกรัฐมนตรีคนแรก)
• 2549–2551
คิริชา ประสาท โกอิราลา (นายกรัฐมนตรีคนสุดท้าย)
สภานิติบัญญัติ
วุฒิสภา
(2502-2505)
รัฐสภา
(2533-2545)
สภาผู้แทนราษฎร
(2502-2505; 2533-2545)
ประวัติศาสตร์ 
25 กันยายน 2311[4]
2349–2380 และ
2386–2388
2342–2347 และ
2380–2383
2389–2494
2503–2533
2533–2551
28 พฤษภาคม 2551
สกุลเงิน
ก่อนหน้า
ถัดไป
พ.ศ. 2311:
อาณาจักรโคร์ขา
พ.ศ. 2312:
ราชวงศ์มัลละ
คริสต์ทศวรรษ 1770—1780:
เจ้าพิสีรัชยา
พ.ศ. 2317:
อาณาจักรกีรัต
พ.ศ. 2319:
ราชอาณาจักรสิกขิม
คริสต์ทศวรรษ 1780:
ไพเสรัชยา
พ.ศ. 2334:
อาณาจักรโฑฏี
อาณาจักรกุมาอง
พ.ศ. 2347:
อาณาจักรครหะวาล
พ.ศ. 2359:
รัฐเจ้าชายแห่งเตหะรีครหะวาล
ราชอาณาจักรสิกขิม
พ.ศ. 2551:
สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเนปาล
ประเทศอินเดีย

ศตวรรษที่ 18 แก้

ศตวรรษที่ 19 แก้

หลังจากความสำเร็จในการก่อตั้งประเทศ โดยไม่รวมที่ไม่ประสบความสำเร็จในการรุกรานทิเบตและการอ้างสิทธิ์ดินแดนกับราชวงศ์ชิงของจีน ราชอาณาจักรเนปาลกลายเป็นรัฐในอารักขาของอังกฤษ และบริษัทอินเดียตะวันออกของอังกฤษในสงครามกุรข่า (พ.ศ. 2357 -2359) ราชอาณาจักรเนปาลได้รับเอกราชตามสนธิสัญญาสุเคาลี ความไร้เสถียรภาพทางการเมืองที่ตามมาเกิดจากการแทรกแซงของราชวงศ์ราณา เริ่มต้นด้วย ชังค์ บะหะดุร์ ราณา เข้ามาเป็นอัครมหาเสนาบดีโดยการสืบสายโลหิตระหว่าง พ.ศ. 2386 - 2494 ซึ่งเป็นการลดบทบาทของกษัตริย์ราชวงศ์ศาหะให้เป็นเสมือนเจว็ดเท่านั้น

ศตวรรษที่ 20 แก้

ในปี พ.ศ. 2490 ผู้นำราชวงศ์ราณา โมฮัน ชัมเชอร์ ชังค์ บะหะดุร์ ราณา ได้ถอดถอดพระเจ้าตริภูวัน พีระ พิกรม ศาหะ เทวะ ออกจากราชสมบัติ และยกเอาพระเจ้าชญาเนนทระผู้เป็นพระนัดดาขึ้นครองราชสมบัติ อินเดียซึ่งขณะนั้นได้รับเอกราชแล้ว ได้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนให้พระเจ้าตริภูวันได้ครองราชสมบัติอีกครั้ง และสนับสนุนรัฐบาลใหม่ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยสมาชิกพรรคคองเกรสเนปาล ยังผลให้บทบาททางการเมืองของราชวงศ์ราณาสิ้นสุดลง

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 - 2549 ได้เกิดสงครามกลางเมืองเนปาล ซึ่งเป็นความขัดแย้งระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับพรรคคอมมิวนิสต์เนปาล จนนำไปสู่การยกเลิกการปกครองระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์และเปลี่ยนเป็นการปกครองระบบสาธารณรัฐเมื่อ 28 พ.ค. 2551 ในช่วงที่เป็นราชอาณาจักรนี้ เนปาลเป็นประเทศเดียวในโลกที่เป็นรัฐศาสนาโดยใช้ศาสนาฮินดูเป็นศาสนาประจำชาติ [5] ส่วนสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาลเป็นรัฐทางโลก[6]

อ้างอิง แก้

  1. "History of Kingdom of Nepal". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 March 2012. สืบค้นเมื่อ 29 April 2017.
  2. "History of Nepal: A Sovereign Kingdom". Official website of Nepal Army. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 December 2017. สืบค้นเมื่อ 29 April 2017.
  3. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ nepalarmythree
  4. Subba, Sanghamitra (20 December 2019). "A future written in the stars". Nepali Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 31 January 2021. สืบค้นเมื่อ 31 January 2021.
  5. http://www.theindiapost.com/2009/10/28/why-monarchy-is-necessary-in-nepal/
  6. "Religious Intelligence - News - Nepal moves to become a secular republic". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-01-30. สืบค้นเมื่อ 2011-05-01.

แหล่งข้อมูลอื่น แก้