ระบบมณฑลเทศาภิบาล คือระบบแบ่งเขตการปกครองส่วนภูมิภาคในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่มีการใช้มาจนถึงสมัยช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สองประมาณ 7 ปี เป็นการเลียนแบบการปกครองของอังกฤษในพม่าและมาเลเซีย เริ่มขึ้นใน พ.ศ. 2440 โดยพระดำริของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ มณฑลมีข้าหลวงเทศาภิบาลเป็นผู้ปกครอง เจ้าเมืองไม่มีอำนาจที่จะปกครอง หน่วยการปกครองเรียงจากใหญ่ไปเล็กได้ดังนี้

มณฑลภาคมณฑลเมือง (จังหวัด) → อำเภอตำบลบ้าน (หมู่บ้าน)

ใน พ.ศ. 2458 ดินแดนสยามมีมณฑลอยู่ 19 แห่งครอบคลุมพื้นที่ 72 เมือง (เปลี่ยนเป็น จังหวัด ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว) อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจตกต่ำจึงทำให้หลายมณฑลถูกยุบรวมกันตั้งแต่ พ.ศ. 2468 (มณฑลเพชรบูรณ์ถูกยุบลงไปก่อนหน้านั้นแล้ว) ภายหลังจึงคงเหลืออยู่เพียง 14 มณฑล ได้แก่ กรุงเทพพระมหานคร มณฑลจันทบุรี มณฑลนครชัยศรี มณฑลนครสวรรค์ มณฑลนครศรีธรรมราช มณฑลนครราชสีมา มณฑลปราจีนบุรี มณฑลปัตตานี มณฑลพายัพ มณฑลพิษณุโลก มณฑลภูเก็ต มณฑลราชบุรี มณฑลอยุธยา และมณฑลอุดร ทั้งหมดถูกล้มเลิกไปในปี พ.ศ. 2476 ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เมื่อมีการตราพระราชบัญญัติการบริหารราชการส่วนภูมิภาค พุทธศักราช 2476 ขึ้น และนับจากนั้น จังหวัดก็ได้กลายเป็นเขตการปกครองย่อยของประเทศไทยที่มีระดับสูงที่สุด

รายชื่อมณฑลเทศาภิบาล แก้

 
แผนที่ราชอาณาจักรสยาม ราวปี พ.ศ. 2443
 
แผนที่มณฑลเทศาภิบาล ราวปี พ.ศ. 2458

ภาคเหนือ แก้

  1. มณฑลพายัพ หรือ มณฑลลาวเฉียง หรือ มณฑลลาวพุงดำ ในปี พ.ศ. 2442 มณฑลนี้ได้ถูกเรียกว่า "มณฑลฝ่ายตะวันตกเฉียงเหนือ" ต่อมาในปี พ.ศ. 2443 จึงได้เปลี่ยนชื่อให้สั้นลงเป็นมณฑลพายัพซึ่งเป็นภาษาสันสกฤตแปลว่าตะวันตกเฉียงเหนือ[1] ครอบคลุมพื้นที่อาณาเขตของอดีตอาณาจักรล้านนา ประกอบด้วย 6 หัวเมือง ได้แก่ (1.) เมืองนครเชียงใหม่ (ครอบคลุมพื้นที่ เมืองแม่ฮ่องสอน และเมืองเชียงราย) (2.) เมืองนครลำปาง (ครอบคลุมพื้นที่เมืองพะเยา และเมืองงาว (3.) เมืองนครลำพูน (4.) เมืองนครน่าน (ครอบคลุมพื้นที่เมืองเชียงของ เมืองเทิง เมืองเชียงคำ และเมืองปง (5.) เมืองนครแพร่ (6.) เมืองเถิน (ต่อมาในปี พ.ศ. 2446 ยุบลงรวมเข้ากับเมืองนครลำปาง)
  2. มณฑลมหาราษฎร์ เป็นมณฑลที่แยกออกมาจากมณฑลพายัพในปี พ.ศ. 2459[2] ครอบคลุมพื้นที่ทางตะวันออกของมณฑลพายัพเดิม ประกอบด้วย 3 หัวเมือง เมืองนครลำปาง เมืองนครแพร่ และเมืองนครน่าน ต่อมาในปี พ.ศ. 2469 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้ยุบมณฑลมหาราษฎร์ แล้วให้เข้ารวมกับมณฑลพายัพตามเดิม
  3. มณฑลนครสวรรค์ ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2438 ซึ่งเป็นมณฑลแรก ๆ ที่จัดตั้งขึ้นมา มีพื้นที่ครอบคลุมเมืองนครสวรรค์ เมืองชัยนาท เมืองกำแพงเพชร เมืองมโนรมย์ เมืองพยุหะคีรี เมืองสรรคบุรี เมืองตาก และเมืองอุทัยธานี
  4. มณฑลพิษณุโลก ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2437 มีพื้นที่ครอบคลุมเมืองพิษณุโลก เมืองพิจิตร เมืองสุโขทัย เมืองพิชัย (จังหวัดอุตรดิตถ์) และเมืองสวรรคโลก
  5. มณฑลเพชรบูรณ์ เป็นมณฑลที่แยกออกมาจากมณฑลนครราชสีมาเมื่อปี พ.ศ. 2442 ตอนแรกประกอบด้วย 2 เมือง คือเมืองหล่มสักและเมืองเพชรบูรณ์ ภายหลังเมืองหล่มสักได้ถูกยุบลงเป็นอำเภอหนึ่งขึ้นกับเมืองเพชรบูรณ์ จึงทำให้มณฑลนี้มีอยู่เมือง (จังหวัด) เดียว ซึ่งต่อมามณฑลเพชรบูรณ์ก็ได้ถูกรวมเข้ากับมณฑลพิษณุโลกในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2446-2450 ก่อนที่จะถูกยุบลงเป็นหัวเมืองในมณฑลพิษณุโลกอย่างถาวรในปี พ.ศ. 2459[2]

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แก้

  1. มณฑลนครราชสีมา หรือ มณฑลลาวกลาง ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2436 เป็นมณฑลแรกของประเทศสยาม มีพื้นที่ครอบคลุมเมืองนครราชสีมา เมืองชัยภูมิ เมืองบุรีรัมย์และบริเวณตอนใต้ของจังหวัดขอนแก่นคือเมืองชลบถวิบูลย์ ในช่วงแรกมีเมืองเพชรบูรณ์และเมืองหล่มสักรวมอยู่ด้วย แต่ได้แยกออกไปเป็นมณฑลเพชรบูรณ์ในปี พ.ศ. 2442
  2. มณฑลอีสาน หรือ มณฑลลาวกาว ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2443 โดยตั้งกองบัญชาการมณฑล ณ เมืองอุบลราชธานี ภายหลังได้แยกออกเป็น 2 มณฑล ได้แก่ มณฑลร้อยเอ็ดและมณฑลอุบล เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2455 ซึ่งตรงกับรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
  3. มณฑลร้อยเอ็ด แยกออกมาจากมณฑลอีสานเมื่อปี พ.ศ. 2455 ประกอบด้วยเมืองร้อยเอ็ด เมืองมหาสารคาม เมืองสุวรรณภูมิ เมืองกมลาไสย และเมืองกาฬสินธุ์
  4. มณฑลอุบล แยกออกมาจากมณฑลอีสานเมื่อปี พ.ศ. 2455 ประกอบด้วยเมืองอุบลราชธานี เมืองขุขันธ์ เมืองศรีสะเกษ และเมืองสุรินทร์
  5. มณฑลอุดร หรือ มณฑลลาวพวน ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2442 เมืองที่ขึ้นกับมณฑลนี้ประกอบด้วยเมืองอุดรธานี เมืองขอนแก่น เมืองเลย เมืองนครพนม เมืองหนองคาย และเมืองสกลนคร

ภาคใต้ แก้

  1. มณฑลภูเก็ต ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2441 เมืองในมณฑลนี้ประกอบด้วยเมืองภูเก็ต เมืองถลาง เมืองระนอง เมืองพังงา เมืองตะกั่วป่า เมืองกระบี่ เมืองตรัง และเมืองสตูล ซึ่งเมืองสตูลเดิมเป็นส่วนหนึ่งของมณฑลไทรบุรีทางทิศใต้ ได้มารวมอยู่กับมณฑลนี้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2451 หลังจากที่ยกพื้นที่ส่วนใหญ่ของมณฑลไทรบุรีให้อังกฤษ
  2. มณฑลชุมพร ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2439 เมืองในมณฑลนี้ได้แก่ เมืองชุมพร เมืองไชยา เมืองกาญจนดิษฐ์ เมืองหลังสวน และเมืองบ้านดอน ภายหลังเมืองไชยาและเมืองกาญจนดิษฐ์ ถูกรวมเข้าเป็นเมืองไชยา ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2448 เมืองไชยากับเมืองบ้านดอนถูกรวมเข้าเป็นเมืองสุราษฎร์ธานี จากนั้นได้เปลี่ยนชื่อเป็นมณฑลสุราษฎร์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2468 จึงได้ถูกยุบรวมกับมณฑลนครศรีธรรมราช
  3. มณฑลนครศรีธรรมราช ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2439 ประกอบด้วย เมืองนครศรีธรรมราช เมืองพัทลุง เมืองสงขลา
  4. มณฑลปัตตานี ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2449 มีอาณาเขตครอบคลุมบริเวณ มลายูเจ็ดหัวเมืองได้แก่ เมืองปัตตานี (ตานี) เมืองยะลา เมืองสายบุรี เมืองยะหริ่ง เมืองหนองจิก เมืองรามัน เมืองระแงะ (จังหวัดนราธิวาส)
  5. มณฑลไทรบุรี หรือ มณฑลเกอดะฮ์ ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2440 มีพื้นที่ครอบคลุมเมืองไทรบุรี เมืองปลิศ และเมืองสตูล แต่ภายหลังเสียดินแดนส่วนนี้ไปเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐมลายูในเครือจักรภพอังกฤษเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2451 จึงเหลือเมืองสตูลซึ่งเป็นส่วนที่เหลือของมณฑลไทรบุรีในอาณาเขตสยาม และเมืองนี้จึงถูกรวมเข้ากับมณฑลภูเก็ต

ภาคกลาง แก้

  1. มณฑลกรุงเทพ ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2440 โดยตอนแรกเป็นส่วนหนึ่งของกระทรวงนครบาล ประกอบด้วยจังหวัดในเขตปริมณฑล ได้แก่ เมืองพระนคร เมืองธนบุรี เมืองมีนบุรี เมืองธัญญบุรี เมืองปทุมธานี เมืองนนทบุรี เมืองพระประแดง (เมืองนครเขื่อนขันธ์) และเมืองสมุทรปราการ โดยในปี พ.ศ. 2458 มณฑลนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "กรุงเทพพระมหานคร" และเมื่อมีการรวมกระทรวงนครบาลเข้ากับกระทรวงมหาดไทยในปี พ.ศ. 2465 กรุงเทพพระมหานครจึงมาอยู่ในความดูแลของกระทรวงมหาดไทยเหมือนกับมณฑลอื่น ๆ
  2. มณฑลอยุธยา หรือ มณฑลกรุงเก่า ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2436 เมืองในมณฑลนี้ได้แก่กรุงเก่า เมืองอ่างทอง เมืองสิงห์บุรี เมืองอินทร์บุรี เมืองพรหมบุรี เมืองลพบุรี และ เมืองสระบุรี

ภาคตะวันตก แก้

  1. มณฑลราชบุรี ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2438 เมืองในมณฑลนี้ได้แก่เมืองราชบุรี เมืองกาญจนบุรี เมืองสมุทรสงคราม เมืองเพชรบุรี และเมืองปราณบุรี[3](เมืองประจวบคีรีขันธ์)[4]
  2. มณฑลนครชัยศรี ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2438 เมืองในมณฑลนี้ได้แก่เมืองนครชัยศรี เมืองสุพรรณบุรี และเมืองสมุทรสาคร

ภาคตะวันออก แก้

  1. มณฑลปราจีนบุรี ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2436 เมืองในมณฑลนี้ได้แก่เมืองปราจีนบุรี เมืองชลบุรี เมืองนครนายก เมืองฉะเชิงเทรา เมืองบางละมุง เมืองพนัสนิคม และเมืองพนมสารคาม
  2. มณฑลบูรพา ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2446 มณฑลนี้ประกอบด้วยเมืองเสียมราฐ เมืองพระตะบอง เมืองพนมศก และเมืองศรีโสภณ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเทศกัมพูชาในปัจจุบัน ดินแดนส่วนนี้เสียไปเมื่อ 23 มีนาคม พ.ศ. 2449 เพื่อแลกกับเมืองตราดและเมืองด่านซ้าย
  3. มณฑลจันทบุรี ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2449 หลังจากที่สยามเสียมณฑลบูรพาไปให้กับฝรั่งเศส และฝรั่งเศสคืนดินแดนเมืองตราดและเกาะต่าง ๆ กลับมาสู่อำนาจอธิปไตยของสยาม เมืองในมณฑลนี้ได้แก่เมืองจันทบุรี เมืองระยอง เมืองตราด

บริเวณ แก้

มณฑลที่มีพื้นที่อาณาเขตกว้างขวาง ได่แก่ มณฑลพายัพ มณฑลอุดร และมณฑลอีสาน มีเขตการปกครองพิเศษที่มีระดับอยู่ระหว่างมณฑลกับเมือง (จังหวัด) เรียกว่า "บริเวณ" มีข้าหลวงประจำบริเวณเป็นผู้ปกครอง ได้แก่

  • มณฑลพายัพ (มณฑลลาวเฉียงหรือลาวพุงดำ)
  1. บริเวณเชียงใหม่เหนือ : ประกอบด้วย เมืองเชียงราย เมืองเชียงแสน เมืองป่าเป้า เมืองเชียงขวาง และเมืองฝาง
  2. บริเวณเชียงใหม่ตะวันตก : ประกอบด้วย เมืองแม่ฮ่องสอน เมืองยาว เมืองขุนยวม และเมืองปาย
  3. บริเวณน่านเหนือ : ประกอบด้วย เมืองเชียงของ เมืองเทิง เมืองเชียงคำ เมืองเชียงแลง เมืองเชียงลม และเมืองเชียงฮ่อน
  • มณฑลอุดร (มณฑลลาวพวน)
  1. บริเวณหมากแข้ง : ประกอบด้วย บ้านหมากแข้ง (อุดรธานี) เมืองหนองคาย เมืองหนองหาน เมืองกุมภวาปี เมืองกมุทธาไสย (หนองบัวลำภู) เมืองโพนพิสัย และเมืองรัตนวาปี
  2. บริเวณพาชี : ประกอบด้วย เมืองขอนแก่น เมืองชนบท และเมืองภูเวียง
  3. บริเวณธาตุพนม : ประกอบด้วย เมืองนครพนม เมืองไชยบุรี (เมืองบึงกาฬ) เมืองท่าอุเทน เมืองกุสุมาลย์มณฑล เมืองอากาศอำนวย เมืองเรณูนคร เมืองหนองสูงและเมืองมุกดาหาร
  4. บริเวณสกล : ประกอบด้วย เมืองสกลนคร เมืองพรรณานิคม และเมืองวาริชภูมิ
  5. บริเวณน้ำเหือง : ประกอบด้วย เมืองเลย เมืองแก่นท้าว (ประเทศลาว) และเมืองบ่อท่า
  • มณฑลอีสาน (มณฑลลาวกาว)
  1. บริเวณอุบล : ประกอบด้วย เมืองอุบลราชธานี เมืองเขมราฐ และเมืองยโสธร
  2. บริเวณจำปาศักดิ์ : ประกอบด้วย เมืองนครจำปาศักดิ์ (ประเทศลาว)
  3. บริเวณขุขันธ์ : ประกอบด้วย เมืองขุขันธ์ เมืองศรีสะเกษ เมืองกันทรลักษ์ เมืองอุทุมพรพิไสย และเมืองเดชอุดม
  4. บริเวณสุรินทร์ : ประกอบด้วย เมืองสุรินทร์ และเมืองสังขะ
  5. บริเวณร้อยเอ็ด : ประกอบด้วย เมืองร้อยเอ็ด เมืองมหาสารคาม เมืองกาฬสินธุ์ เมืองกมลาไสย และสุวรรณภูมิ

ลำดับเวลา แก้

พ.ศ. 2437 แก้

จัดตั้งมณฑลเทศาภิบาลขึ้น 3 มณฑล คือ มณฑลพิษณุโลก มณฑลปราจีนบุรี มณฑลนครราชสีมา และปลายปีตั้งมณฑลราชบุรีขึ้นอีกมณฑลหนึ่ง

พ.ศ. 2438 แก้

จัดตั้งมณฑลเทศาภิบาลขึ้น 3 มณฑล คือ มณฑลนครชัยศรี มณฑลนครสวรรค์ มณฑลกรุงเก่า และได้แก้ไขระเบียบการจัดมณฑลฝ่ายทะเลตะวันตก คือ ตั้งเป็นมณฑลภูเก็ตให้เข้ารูปลักษณะของมณฑลเทศาภิบาลอีกมณฑลหนึ่ง

พ.ศ. 2439 แก้

ได้รวมหัวเมืองเป็นมณฑลเทศาภิบาลขึ้นอีก 2 มณฑล คือ มณฑลนครศรีธรรมราช และมณฑลชุมพร

พ.ศ. 2440 แก้

ได้รวมหัวเมืองมะลายูตะวันออกเป็นมณฑลไทรบุรี และในปีเดียวกันได้ตั้งมณฑลเพชรบูรณ์ขึ้นอีกมณฑลหนึ่ง

พ.ศ. 2443 แก้

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2443[5] ได้มีการรวม เมืองนครเชียงใหม่ เมืองนครน่าน เมืองนครลำปาง เมืองนครลำพูน และเมืองนครแพร่ ขึ้นเป็น มณฑลตวันตกเฉียงเหนือ

พ.ศ. 2444 แก้

เมื่อวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2444 (พ.ศ. 2443 เดิม) ได้เปลี่ยนชื่อมณฑล 4 มณฑลดังต่อไปนี้[6]

พ.ศ. 2447 แก้

ยุบมณฑลเพชรบูรณ์ เพราะเห็นว่ามีแต่จะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย

พ.ศ. 2449 แก้

จัดตั้งมณฑลปัตตานีและมณฑลจันทบุรี มีเมืองจันทบุรี ระยอง และตราด

พ.ศ. 2450 แก้

ตั้งมณฑลเพชรบูรณ์ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

พ.ศ. 2451 แก้

ไทยต้องยอมยกมณฑลไทรบุรีให้แก่อังกฤษเพื่อแลกเปลี่ยนกับการแก้ไขสัญญาค้าขาย และเพื่อจะกู้ยืมเงินอังกฤษมาสร้างทางรถไฟสายใต้

พ.ศ. 2455 แก้

ได้แยกมณฑลอีสานออกเป็น 2 มณฑล มีชื่อใหม่ว่า มณฑลอุบลและมณฑลร้อยเอ็ด

พ.ศ. 2459 แก้

เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2459 ได้จัดตั้ง มณฑลมหาราษฎร์ ขึ้นโดยแยกออกจากมณฑลพายัพ

พ.ศ. 2469 แก้

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2469 (พ.ศ. 2468 เดิม):[7]

พ.ศ. 2475 แก้

เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2475:[8]

  • ยุบเลิกมณฑลปัตตานี รวมจังหวัดต่าง ๆ ของมณฑลปัตตานีเข้าไว้ในปกครองของมณฑลนครศรีธรรมราช
  • ยุบเลิกมณฑลจันทบุรี รวมจังหวัดต่าง ๆ ของมณฑลจันทบุรีเข้าไว้ในปกครองของมณฑลปราจีน
  • ยุบเลิกมณฑลนครชัยศรี รวมจังหวัดต่าง ๆ ของมณฑลนครชัยศรีเข้าไว้ในปกครองของมณฑลราชบุรี
  • ยุบเลิกมณฑลนครสวรรค์ รวมจังหวัดต่าง ๆ ของมณฑลนครสวรรค์เข้าไว้ในปกครองของมณฑลอยุธยา เว้นแต่จังหวัดตาก และจังหวัดกำแพงเพชรให้ยกไปขึ้นอยู่ในปกครองของมณฑลพิษณุโลก

พ.ศ. 2476 แก้

เมื่อได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติระเบียบราชการบริหารแห่งราชอาณาจักรสยาม พ.ศ. 2476 จึงได้ยกเลิกมณฑลเสียทั้งหมด

ลำดับพระนามและนามท่านผู้บัญชาการมณฑลเทศาภิบาล แก้

ลำดับ ชื่อ[9] เริ่มต้น สิ้นสุด รวมระยะเวลา
มณฑลกรุงเทพมหานคร
1
พระยาเพชรปาณี (ดั่น รักตะประจิตร) 2464 2467 3 ปี
2
พระยาเพชรลดา (สอาด ณ ป้อมเพชร) 2467 2468 1 ปี
3
เจ้าพระยาสุรบดินทร์สุรินทร์ฦาชัย (พร จารุจินดา) 2468 2471 3 ปี
4
เจ้าพระยามุขมนตรี (อวบ เปาโรหิตย์) 2471 2474 3 ปี
5
พระยาจ่าแสนยบดีศรีบริบาล (ชิต สุนทรวร) 2474 2476 2 ปี
มณฑลจันทบุรี
1
พระยาวิชยาธิบดี (แบน บุนนาค) 2449 2452 3 ปี
2
พระยารณชัยชาญยุทธ (ถนอม บุณยเกตุ) 2452 2457 5 ปี
3
หม่อมเจ้าธำรงศิริ ศรีธวัช 2457 2458 1 ปี
4
หม่อมเจ้าประดิพัทธเกษมศรี เกษมศรี 2458 2459 1 ปี
5
หม่อมเจ้าสฤษดิเดช ชยางกูร 2459 2466 7 ปี
6
พระยาไกรเพชรรัตนสงคราม (ชม โชติกะพุกกณะ) 2466 2471 5 ปี
7
พระยาอินทราธิบดีสีหราชรองเมือง (ทองย้อย เศวตศิลา) 2471 2472 1 ปี
8
พระยาศรีเสนา (ฮะ สมบัติศิริ) 2472 2473 1 ปี
9
พระยากัลยาณวัฒนวิศิษฐ์ (เชียร กัลยาณมิตร) 2473 2475 2 ปี
มณฑลไทรบุรี
1 เจ้าพระยาฤทธิสงครามภักดี (อับดุล ฮามิด) 2440 2450 10 ปี
มณฑลนครชัยศรี
1 พระยามหาเทพ (บุตร บุณยรัตพันธุ์) 2438 2441 3 ปี
2 เจ้าพระยาศรีวิไชยชนินทร์ (ชม สุนทรารชุน) 2441 2458 17 ปี
3 พระยามหาอำมาตยาธิบดี (เส็ง วิรยศิริ) 2458 2460 2 ปี
4 พระยามหินทรเดชานุวัตร (ใหญ่ สยามมานนท์) 2460 2466 6 ปี
5 พระยาสุนทรบุรีศรีพิชัยสงคราม (อี้ กรรณสูต) 2466 2468 2 ปี
6 หม่อมเจ้าธำรงศิริ ศรีธวัช 2468 2475 7 ปี
มณฑลนครราชสีมา
1 พระยาพิเรนทรเทพ (ทองคำ สีหอุไร) 2435 2436 1 ปี
2 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ 2436 2436
3 พระยาสิงหเสนี (สอาด สิงหเสนี) 2436 2444 8 ปี
4 พระยานครราชเสนี (กาจ สิงหเสนี) 2444 ปลาย พ.ศ. 2444
5 พระยากำแหงสงครามรามภักดี (จัน อินทรกำแหง) 2444 2450 6 ปี
6 เจ้าพระยามุขมนตรี (อวบ เปาโรหิตย์) 2450 2456 6 ปี
7 พระยาพหลโยธิน (นพ พหลโยธิน) 2456 2466 10 ปี
8 พระยาเพชรลดา (สอาด ณ ป้อมเพชร) 2466 2467 1 ปี
9 พระยาเพชรปาณี (ดั่น รักตะประจิตร) 2467 2468 1 ปี
(8) พระยาเพชรลดา (สอาด ณ ป้อมเพชร) 2468 2476 8 ปี
มณฑลนครศรีธรรมราช
1 เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) 2439 2449 10 ปี
2 พระยาศรีธรรมาโศกราช (เจริญ จารุจินดา) 2449 2453 4 ปี
3 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ 2453 2468 15 ปี
4 พระยาสุรินทรราชา (นกยูง วิเศษกุล) 2468 2469 1 ปี
5 พระยาศรีธรรมราช (ทองคำ กาญจนโชติ) 2469 2476 7 ปี
มณฑลนครสวรรค์
1 พระยาดัสกรปลาศ (ทองอยู่ โรหิตเสถียร) 2438 2439 1 ปี
2 พระยาไกรเพชรรัตนสงคราม (แฉ่ บุนนาค) 2439 2445 6 ปี
3 พระยาอมรินทรฦาชัย (จำรัส รัตนกุล) 2445 2453 8 ปี
4 พระยารณชัยชาญยุทธ (ศุข โชติกเสถียร) 2453 2459 6 ปี
5 พระยาไกรเพชรรัตนสงคราม (ชม โชติกพุกกณะ) 2459 2462 3 ปี
6 พระยาเทพหัสดิน (ผาด เทพหัสดิน ณ อยุธยา) 2462 2466 4 ปี
7 พระยามหินทรเดชานุวัตร (ใหญ่ สยามานนท์) 2466 2472 6 ปี
8 พระยาอรรถกระวีสุนทร (สงวน ศตะรัต) 2472 2475 3 ปี
มณฑลบูรพา
1 พระยามหาอำมาตยาธิบดี (หรุ่น ศรีเพ็ญ) 2434 2436 2 ปี
2 พระยาศักดาภิเดชวรฤทธิ์ (ดัน อามารานนท์) 2436 2446 10 ปี
3 เจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ (ชุ่ม อภัยวงศ์) 2446 2449 3 ปี
มณฑลปราจีน
1 พระยาฤทธิรงค์รณเฉท (ศุข ชูโต) 2436 2440 4 ปี
2 พระยาเทพอรชุน (เจ๊ก จารุจินดา) 2440 2442 2 ปี
3 พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอลังการ 2442 2446 4 ปี
4 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนมรุพงษ์ศิริพัฒน์ 2446 2458 12 ปี
5 หม่อมเจ้าธำรงศิริ ศรีธวัช 2458 2468 10 ปี
6 หม่อมเจ้าอุปพัทธพงศ์ ศรีธวัช 2468 2472 4 ปี
7 พระอินทราธิบดีสีหราชรองเมือง (ทองย้อย เศวตศิลา) 2472 2474 2 ปี
8 พระยากัลยาณวัฒนวิศิษฐ์ (เชียร กัลยาณมิตร) 2474 ปลาย พ.ศ. 2474
9 พระยาอรรถกระวีสุนทร (สงวน ศตะรัต) ปลาย พ.ศ. 2474 2476
มณฑลปัตตานี
1 พระยาเดชานุชิต (หนา บุนนาค) 2449 2466 17 ปี
2 หม่อมเจ้าสฤษดิเดช ชยางกูร 2466 2468 2 ปี
3 พระยาอุดมพงศ์เพ็ญสวัสดิ์ (หม่อมราชวงศ์ประยูร อิศรศักดิ์) 2469 2475 6 ปี
มณฑลพายัพ
1 เจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ (พุ่ม ศรีไชยันต์) ก่อน พ.ศ. 2435 ก่อน พ.ศ. 2435
2 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนพิทยลาภพฤฒิธาดา ก่อน พ.ศ. 2435 ก่อน พ.ศ. 2435
3 พระยาทรงสุรเดช (อั้น บุนนาค) ก่อน พ.ศ. 2435 2442
4 พระยาวิสูตรสาครดิฐ (สาย โชติกเสถียร) 2442 2445 3 ปี
5 เจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐศักดิ์ (เชย กัลยาณมิตร) 2445 2458 13 ปี
6 พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช 2458 2465 7 ปี
7 เจ้าพระยาสุรบดินทร์สุรินทรฦาชัย (พร จารุจินดา) 2465 2468 3 ปี
8 เจ้าพระยามุขมนตรี (อวบ เปาโรหิตย์) 2468 2471 3 ปี
9 พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าทศศิริวงศ์ 2471 2475 4 ปี
10 พระยากัลยาณวัฒนวิศิษฐ์ (เชียร กัลยาณมิตร) 2475 2476 1 ปี
มณฑลพิษณุโลก
1 เจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐศักดิ์ (เชย กัลยาณมิตร) 2437 2445 8 ปี
2 พระยาภักดีณรงค์ (สิน ไกรฤกษ์) 2445 2446 1 ปี
3 พระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร (โพ เนติโพธิ์) 2446 2449 3 ปี
4 พระยาชลบุรานุรักษ์ (เจริญ จารุจินดา) 2449 2449
5 พระยาเทพาธิบดี (อิ่ม เทพานนท์) 2449 2449
6 เจ้าพระยาสุรบดินทร์ฯ (เจริญ จารุจินดา) 2449 2465 16 ปี
7 พระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร (ศุข ดิษยบุตร) 2465 2468 3 ปี
8 พระยาเพชรปาณี (ดั่น รักตประจิตร) 2468 2471 3 ปี
9 พระยานครพระราม (สวัสดิ์ มหากายี) 2471 2476 5 ปี
มณฑลเพชรบูรณ์
1 พระยาเพชรรัตนสงคราม (เฟื่อง เฟื่องเพชร) 2442 2450 8 ปี
2 พระยาเทพธิบดี (อิ่ม เทพานนท์) 2450 2454 4 ปี
3 พระยาเพชรรัตนราชสงคราม (เลื่อง ภูมิรัตน์) 2454 2458 4 ปี
มณฑลภูเก็ต
1 พระยาทิพโกษา (โต โชติกเสถียร) ก่อน พ.ศ. 2435 2441
2 พระยาวิสูตรสาครดิฐ 2441 2442 1 ปี
3 พระยาวรสิทธิเสวีรัตน (ใต้ฮัก ภัทรนาวิก) 2442 2443 1 ปี
4 พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) 2443 2456 13 ปี
5 พระยาวิชิตวงศ์วุฒิไกร (หม่อมราชวงศ์สิทธิ์ สุทัศน์) 2456 2463 7 ปี
6 พระยาสุรินทรราชา (นกยูง วิเศษกุล) 2463 2468 5 ปี
7 หม่อมเจ้าสฤษดิเดช ชยางกูร 2468 2473 5 ปี
8 พระยาศรีเสนา (ฮะ สมบัติศิริ) 2473 2476 3 ปี
มณฑลมหาราษฎร์
1 พระยาเพชรรัตนราชสงคราม (เลื่อง ภูมิรัตน์) 2458 2465 7 ปี
2 พระยาไกรเพชรรัตนสงคราม (ชม โชติกระพุกกณะ) 2465 2466 1 ปี
3 พระยาเดชานุชิต (หนา บุนนาค) 2466 2468 2 ปี
มณฑลราชบุรี
1 เจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์ (เทศ บุนนาค) 2437 2442 5 ปี
2 พระยาเทพอรชุน (เจ๊ก จารุจินดา) 2442 2444 2 ปี
3 พระยารัตนกุล (จำรัส รัตนกุล) 2444 2457 13 ปี
4 พระยาไกรเพชรรัตนสงคราม 2457 2458 1 ปี
5 หม่อมเจ้าสฤษดิเดช ชยางกูร 2455 2459 4 ปี
6 หม่อมเจ้าประติพัทธ์เกษมศรี เกษมศรี 2459 2460 1 ปี
7 พระยามนตรีสุริยวงศ์ (ฉี่ บุนนาค) 2460 2465 5 ปี
8 พระยาคฑาธรบดี (เทียบ อัศวนนท์) 2465 2469 4 ปี
9 พระยาอรรถการยบดี (ชุ่ม อรรถจินดา) 2469 2472 3 ปี
10 พระยาสุรพันธ์เสนี (อิ้น บุนนาค) 2472 2476 4 ปี
มณฑลร้อยเอ็ด
1 หม่อมเจ้าธำรงศิริ ศรีธวัช 2455 245x
2 พระยารณชัยชาญยุทธ (ถนอม บุณยเกตุ) 245x 2468
มณฑลสุราษฎร์ธานี
1 พระยาดำรงสุจริตมหิศวรภักดี (คอซิมก๊อง ณ ระนอง) 2439 2444 5 ปี
2 พระยาวรสิทธิเสวีวัตร (ใต้ฮัก ภัทรนาวิก) 2444 2448 4 ปี
3 พระยามหิบาลบริรักษ์ (สวัสดิ์ ภูมิรัตน์) 2448 2456 8 ปี
4 พระยาคงคาทราธิบดี (พลอย ณ นคร) 2456 2468 12 ปี
มณฑลอยุธยา
1 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนมรุพงศ์ศิริพัฒน์ 2438 2446 8 ปี
2 พระยาโบราณราชธานินทร์ (พร เดชะคุปต์) 2446 2472 26 ปี
3 หม่อมเจ้าอุปพัทธพงศ์ ศรีธวัช 2472 2474 2 ปี
4 พระยากัลยาณวัฒนวิศิษฐ์ (เชียร กัลยาณมิตร) 2474 2476 2 ปี
มณฑลอุดร
1 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ก่อน พ.ศ. 2435 2442 7 ปี
2 พระวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวัฒนา 2442 2449 6 ปี
3 พระยาศรีสุริยาราชวรานุวัตร (โพ เนติโพธิ์) 244x 245x
4 พระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร (ศุข ดิษยบุตร) 245x 2465
5 เจ้าพระยามุขมนตรี (อวบ เปาโรหิตย์) 2465 2470 5 ปี
6 พระยาอดุลยเดชสยาเมศรภักดี (อุ้ย นาครธรรพ) 2470 2472 2 ปี
7 พระยาตรังคภูบาล (เจิม ปันยารชุน) 2472 2476 4 ปี
มณฑลอุบล
1 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร ก่อน พ.ศ. 2435 2453 18 ปี
2 พระยาศรีธรรมศกราช (เจริญ จารุจินดา) 2453 2456 3 ปี
3 พระยาศรีธรรมศกราช (ปิ๋ว บุนนาค) 2456 2468 12 ปี
มณฑลลาวกาว
1 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์

ดูเพิ่ม แก้

อ้างอิง แก้

  1. Glenn Slayden, บ.ก. (29 September 2013). "พายัพ" (Dictionary). Royal Institute Dictionary - 1982. Thai-language.com. สืบค้นเมื่อ 2013-09-29. Royal Institute - 1982 พายัพ /พา-ยับ/ {Sanskrit: วายวฺย ว่า ของวายุ} [นาม] ชื่อทิศตะวันตกเฉียงเหนือ.
  2. 2.0 2.1 "ประกาศเลิกมณฑลเพ็ชร์บูรณ์เข้าเปนเมืองในมณฑลพิศณุโลก แลแยกมณฑลพายัพเปนมณฑลมหาราษฎร์ แลมณฑลพายัพ รวมเรียกว่า มณฑลภาคพายัพ มีตำแหน่งอุปราชเปนผู้ตรวจตรากำกับราชการ" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 12 กันยายน พ.ศ. 2458. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2014-10-20. สืบค้นเมื่อ 7 มกราคม พ.ศ. 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  3. ประกาศ ตั้งเมืองปราณบุรี ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๒๓ ตอนที่ ๔๑ ประกาศ ณ วันที่ ๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๔๙ หน้าที่ ๑๐๖๒
  4. ประกาศ เปลี่ยนนามเมืองปราณบุรี เป็นเมืองประจวบคีรีขันธ์ เก็บถาวร 2011-11-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๓๒ ตอนที่ ๐ ก ประกาศ ณ วันที่ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๕๘ หน้าที่ ๑๗๖
  5. "ข้อบังคับสำหรับปกครองมณฑลตวันตกเฉียงเหนือ ร,ศ, ๑๑๙" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2443. สืบค้นเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  6. "กฎข้อบังคับ เรื่องเปลี่ยนชื่อมณฑล ๔ มณฑล" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 27 มกราคม ๑๑๙. สืบค้นเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  7. "ประกาศ เรื่องยุบแลรวมการปกครองมณฑลต่าง ๆ" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 31 มีนาคม พ.ศ. 2468. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2012-04-27. สืบค้นเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  8. "ประกาศ เรื่องยุบรวมท้องที่บางมณฑลและบางจังหวัด" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2474. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2008-04-09. สืบค้นเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  9. ขรรค์ชัย บุนปาน. (2545). เทศาภิบาล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ. กรุงเทพฯ: ศิลปวัฒนธรรม.

อ่านเพิ่ม แก้

แหล่งข้อมูลอื่น แก้