ภาวะเป็นพิษคาร์บอนมอนอกไซด์

ภาวะพิษคาร์บอนมอนอกไซด์ (อังกฤษ: Carbon monoxide poisoning) โดยทั่วไปแล้วเกิดจากการหายใจเอาคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) เข้าไปในปริมาณที่มากเกิน[3] อาการที่แสดงออกมักอธิบายว่า "คล้ายหวัด" และโดยทั่วไปมักประกอบด้วยปวดหัว, วิงเวียน, อ่อนแรง, อาเจียน, เจ็บแน่นหน้าอก และ มึนงง[1] หากได้รับคาร์บอนมอนอกไซด์ในจำนวนมากอาจทำให้เสียการรับรู้, หัวใจเต้นผิดจังหวะ, ชัก, จนถึงเสียชีวิต[1][2] ลักษณะ "ผิวแดงเป็นผลเชอรี่" (cherry red skin) ที่นิยมใช้อธิบายภาวะนี้ที่จริงพบได้ยาก[2] ภาวะแทรกซ้อนในระยะยาวอาจมีอาการเหนื่อย, ความทรงจำมีปัญหา, และการเคลื่อนไหวผิดปกติ[5] ในกรณีที่พบว่าได้รับควันบุหรี่นั้น ควรต้องพิจารณากรณีการเป็นพิษจากไซยาไนด์ไปด้วย[2]

ภาวะคาร์บอนมอนอกไซด์พิษ (Carbon monoxide poisoning)
ชื่ออื่นภาวะพิษจากคาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon monoxide intoxication), ความเป็นพิษจากคาร์บอนมอนอกไซด์ (carbon monoxide toxicity), การได้รับคาร์บอนมอนอกไซด์เกินขนาด (carbon monoxide overdose)
A carbon atom (shown as a grey ball) tripled bonded to an oxygen atom (shown as a red ball).
โมเลกุลของคาร์บอนมอนอกไซด์
สาขาวิชาพิษวิทยา, การแพทย์ฉุกเฉิน
อาการปวดหัว, วิงเวียน, อ่อนแรง, อาเจียน, เจ็บแน่นหน้าอก, สับสน[1]
ภาวะแทรกซ้อนขาดการรับรู้, หัวใจเต้นผิดจังหวะ, ชัก[1][2]
สาเหตุการหายใจคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าไป[3]
วิธีวินิจฉัยระดับคาร์บอกซิล-เฮโมโกลบิน:
3% (ผู้ที่ไม่สูบบุหรี่)
10% (ผู้ที่สูบบุหรี่)[2]
โรคอื่นที่คล้ายกันการเป็นพิษจากไซยาไนด์, คีโตเอซิดอซิสจากแอลกอฮอล์, ภาวะพิษแอสไพริน, ติดเชื้อที่ท่อหายใจตอนบน[2][4]
การป้องกันตัวตรวจจับคาร์บอนมอนอกไซด์, ช่องระบายอากาศของอุปกรณ์แก๊ส, การดูแลรักษาระบบถ่ายเวียนอากาศ[1]
การรักษารักษาตามอาการ, บำบัดด้วยออกซิเจน 100%, บำบัดด้วยไฮเปอร์บาริกออกซิเจน[2]
พยากรณ์โรคโอกาสเสี่ยงเสียชีวิต 1–31%.[2]
ความชุกเข้าห้องฉุกเฉิน >20,000 กรณี ซึ่งไม่เกี่ยวกับเพลิงไหม้ต่อปี (สหรัฐอเมริกา)[1]
การเสียชีวิต>400 ต่อปี ซึ่งไม่เกี่ยวกับเพลิงไหม้ (สหรัฐอเมริกา)[1]

ภาวะพิษคาร์บอนมอนอกไซด์อาจเกิดได้โดยบังเอิญ ทั้งในกรณีของความพยายามฆ่าตัวตายหรือความพยายามฆ่าผู้อื่น[6][7] คาร์บอนมอนอกไซด์เป็นก๊าซที่ไม่มีสีและไม่มีกลิ่นซึ่งไม่ก่อให้เกิดความระคายเคืองในระยะแรก[5] คาร์บอนมอนอกไซด์นั้นเกิดจากการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ของสารอินทรีย์[5] อาจพบในทั้งยานยนต์, เครื่องทำความร้อน ไปจนถึงอุปกรณ์ทำครัวที่ใช้เชื้อเพลิงกลุ่มคาร์บอน[1] นอกจากคาร์บอนมอนอกไซด์แล้ว ภาวะพิษนี้ยังเกิดจากการได้รับเมธิลีนคลอไรด์เช่นกัน[8] คาร์บอนมอนอกไซด์ หลัก ๆ ทำให้เกิดผลกระทบในทางอันตราย (adverse effects) ผ่านการจับกับเฮโมโกลบิน เป็นคาร์บอกซีเฮโมโกลบิน (HbCO) ซึ่งกันไม่ให้เลือดขนส่งออกซิเจนได้[5] นอกจากนี้ไมโยโกลบิน และ ไซโทโครมออกซิเดสในไมโทคอนเดรีย ล้วนได้รับผลกระทบ[2] การวินิจฉัยโรคใช้ผลจากการตรวจระดับ HbCO ซึ่งจะอยู่ที่สูงกว่า 3% ในผู้ที่ไม่ได้สูบบุหรี่ และสูงกว่า 10% ในผู้ที่สูบบุหรี่[2]

ความพยายามในการป้องกันภาวะพิษนี้ประกอบด้วยเครื่องตรวจจับคาร์บอนมอนอกไซด์, ระบบการถ่ายเทอากาศที่เหมาะสมของอุปกรณ์แก๊ส, การทำความสะอาดปล่องไฟอย่างสม่ำเสมอ และการตรวจสอบการทำงานของระบบถ่ายเทอากาศในยานพาหนะให้ปลอดภัยอยู่เสมอ[1] การดูแลรักษาอาการภาวะพิษนั้นทำได้โดยการใช้ออกซิเจน 100% บำบัด ควบคู่ไปกับการรักษาตามอาการ[2][5] โดยทั่วไปจะรักษาต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าไม่แสดงอาการและระดับ HbCO ลดต่ำลงกว่า 10%[2] ในขณะที่อาจมีการใช้การบำบัดด้วยไฮเปอร์บาริกออกซิเจนในกรณีที่ร้ายแรง[2][6] โอกาสเสี่ยงเสียชีวิตของผู้ที่ประสบภาวะพิษนี้อยู่ที่ 1 ถึง 30%[2]

อ้างอิง แก้

  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 1.5 1.6 1.7 1.8 Health, National Center for Environmental (30 December 2015). "Carbon Monoxide Poisoning – Frequently Asked Questions". www.cdc.gov (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 July 2017. สืบค้นเมื่อ 2 July 2017.
  2. 2.00 2.01 2.02 2.03 2.04 2.05 2.06 2.07 2.08 2.09 2.10 2.11 2.12 2.13 Guzman, JA (October 2012). "Carbon monoxide poisoning". Critical Care Clinics. 28 (4): 537–48. doi:10.1016/j.ccc.2012.07.007. PMID 22998990.
  3. 3.0 3.1 Schottke, David (2016). Emergency Medical Responder: Your First Response in Emergency Care (ภาษาอังกฤษ). Jones & Bartlett Learning. p. 224. ISBN 978-1284107272. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 September 2017. สืบค้นเมื่อ 2 July 2017.
  4. Caterino, Jeffrey M.; Kahan, Scott (2003). In a Page: Emergency medicine (ภาษาอังกฤษ). Lippincott Williams & Wilkins. p. 309. ISBN 978-1405103572. สืบค้นเมื่อ 2 July 2017.
  5. 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 Bleecker, ML (2015). "Carbon monoxide intoxication". Occupational Neurology. Handbook of Clinical Neurology. Vol. 131. pp. 191–203. doi:10.1016/B978-0-444-62627-1.00024-X. ISBN 978-0444626271. PMID 26563790.
  6. 6.0 6.1 Buckley, NA; Juurlink, DN; Isbister, G; Bennett, MH; Lavonas, EJ (13 April 2011). "Hyperbaric oxygen for carbon monoxide poisoning". The Cochrane Database of Systematic Reviews (4): CD002041. doi:10.1002/14651858.CD002041.pub3. PMC 7066484. PMID 21491385.
  7. Farrell, Michael (2017). Criminology of Homicidal Poisoning: Offenders, Victims and Detection (ภาษาอังกฤษ). Springer. p. 89. ISBN 978-3-319-59117-9.
  8. Ferri, Fred F. (2016). Ferri's Clinical Advisor 2017 E-Book: 5 Books in 1 (ภาษาอังกฤษ). Elsevier Health Sciences. pp. 227–28. ISBN 978-0323448383. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 September 2017. สืบค้นเมื่อ 2 July 2017.

แหล่งข้อมูลอื่น แก้

การจำแนกโรค
ทรัพยากรภายนอก

แม่แบบ:Underwater diving