ฝัน เป็นลำดับภาพ ความคิด อารมณ์ และการรับรู้ที่เกิดขึ้นนอกเหนืออำนาจจิตใจในจิตระหว่างช่วงที่แน่นอนของการหลับ[1]

ภาพของฝันในงานศิลปะ

ฝันเกิดขึ้นในการหลับระยะ REM เป็นหลัก เมื่อกิจกรรมของสมองเพิ่มสูงขึ้นเสมือนว่ากำลังตื่นอยู่ การหลับระยะ REM สามารถบอกได้จากการกลอกไปมาของลูกตาขณะหลับ ทั้งนี้ ฝันสามารถเกิดได้ในการหลับขั้นอื่น แต่ฝันเหล่านั้นมีแนวโน้มสมจริงหรือผู้ฝันจำได้น้อยกว่ามาก[2]

ฝันกินระยะเวลาตั้งแต่ไม่กี่วินาทีไปจนถึงยี่สิบนาที บุคคลมักจำฝันได้มากกว่าเมื่อตื่นขึ้นหากฝันในระยะ REM โดยเฉลี่ย บุคคลมีฝัน 3 ถึง 5 ฝันต่อคืน ฝันมีแนวโน้มนานขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ระหว่างการหลับ 8 ชั่วโมง บุคคลจะใช้เวลากับการฝันสองชั่วโมง[3]

มีผู้มองว่า ฝันเชื่อมโยงกับจิตไร้สำนึก โดยมีตั้งแต่ปกติและสามัญไปจนถึงเหนือจริงหรือแปลกประหลาดเกิน ฝันสามารถมีได้หลายอารมณ์ เช่น กลัว ตื่นเต้น สนุกสนาน เศร้าโศก ผจญภัยหรือเกี่ยวกับเพศ เหตุการณ์ในฝันโดยทั่วไปอยู่นอกเหนือการควบคุมของผู้ฝัน ยกเว้น lucid dream ที่ผู้ฝันรู้สึกตัว ฝันบางครั้งได้สร้างความคิดริเริ่มแก่บุคคลหรือให้ความรู้สึกถึงแรงบันดาลใจ[4]

ฝันในสิ่งมีชีวิตอื่น แก้

จากการวิจัยพบว่าสัตว์ก็มีฝันเช่นเดียวกับมนุษย์ โดยเมื่อสัตว์หลับอยู่ในสถานะ REM สัตว์จะมีฝันเกิดขึ้น สัตว์ที่มีระยะของสถานะ REM นานที่สุดคือตัว อาร์มาดิลโล ที่มีลักษณะคล้ายตัวตุ่น สัตว์ที่มีฝันบ่อยที่สุดคือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและสัตว์ประเภทนกจากการทดสอบฝันของแมวพบว่ามันมักจะฝันถึงการล่าเหยื่อโดยอ้างอิงจากลักษณะการเคลื่อนไหวของขาและร่างกาย ในขณะที่สุนัขได้มีการเคลื่อนไหวของช่วงขาในลักษณะของการวิ่งรวมถึงการเห่าในขณะหลับ

ฝันกับความเชื่อ แก้

ชาวกรีกและโรมันโบราณเชื่อกันว่า ฝันคือสารจากพระเจ้า ชาวอียิปต์โบราณ เชื่อว่าผู้ที่เข้าใจฝัน คือบุคคลพิเศษ ในประเทศจีน เชื่อกันว่าฝัน คือการผละวิญญาณจากร่างหนึ่ง ไปสู่อีกร่างในโลกแห่งฝัน ที่ซึ่งร่างนั้นเพิ่งตื่น ชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกันบางชนเผ่า และชาวเม็กซิกันที่เจริญแล้ว เชื่อว่า ฝันคืออีกโลกหนึ่ง ที่เราไปเยือนในยามหลับ และในยุโรป ผู้คนเชื่อกันว่า ฝันคือสิ่งชั่วร้าย และอาจชักนำให้คนหันไปทำสิ่งเลวร้ายได้

อ้างอิง แก้

  1. "Dream". The American Heritage Dictionary of the English Language, Fourth Edition. 2000. สืบค้นเมื่อ 2009-05-07.
  2. Ann, Lee (2005-01-27). "HowStuffWorks "Dreams and REM Sleep"". Science.howstuffworks.com. สืบค้นเมื่อ 2012-08-11.
  3. Ann, Lee (2005-01-27). "HowStuffWorks "Dreams: Stages of Sleep"". Science.howstuffworks.com. สืบค้นเมื่อ 2012-08-11.
  4. "The Scientific Study of Dreams: Sample Chapter". .ucsc.edu. สืบค้นเมื่อ 2012-08-11.

ดูเพิ่ม แก้