ปลาทูน่า
ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: อิเปรเซียน-ปัจจุบัน, 56.0–0Ma [1]
ทูน่า (จากบน): อัลบาคอร์, ครีบน้ำเงินแอตแลนติก, ท้องแถบ, ครีบเหลือง, ตาโต
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร: Animalia
ไฟลัม: Chordata
ชั้น: Actinopterygii
อันดับ: Perciformes
วงศ์: Scombridae
วงศ์ย่อย: Scombrinae
เผ่า: Thunnini
Starks, 1910
สกุล

ทูน่า หรือ ปลาโอ[2] เป็นปลาทะเลในเผ่า Thunnini ซึ่งเป็นกลุ่มย่อยของวงศ์ปลาอินทรี (แมคเคอเรล) Thunnini ประกอบด้วย 15 สปีชีส์ใน 5 สกุล[3] โดยแต่ละชนิดมีขนาดและความยาวแตกต่างกันมาก ตั้งแต่ ปลาทูน่าหัวกระสุน (ความยาวสูงสุด 50 ซม., น้ำหนัก 1.8 กก.) จนถึง ปลาทูน่าครีบน้ำเงินแอตแลนติก (ความยาวสูงสุด 4.6 ม., น้ำหนัก 684 กก.) ครีบน้ำเงินแอตแลนติกมีความยาวเฉลี่ย 2 เมตร และเชื่อกันว่ามีอายุยืนยาวถึง 50 ปี ทูน่าจัดเป็นปลาเศรษฐกิจที่มีความสำคัญ เพราะเนื้อของปลาทูน่ามีสีชมพูหรือแดงเข้ม ต่างจากปลาทั่วไปที่มักจะมีเนื้อสีขาว โดยนิยมนำมาทำเป็นปลากระป๋อง หรือปรุงสดต่าง ๆ เช่น ซาซิมิ

ปลาทูน่า มีลักษณะรวม คือ อาศัยอยู่เป็นฝูงในทะเลหรือมหาสมุทรห่างจากชายฝั่ง มีรูปร่างเพรียวคล้ายกระสวย บริเวณฐานครีบหูมีกลุ่มเกล็ดเล็ก ๆ ครีบหางเว้าลึก[4] เป็นปลาที่ว่ายน้ำได้รวดเร็วว่องไวมาก[5]

ศัพทมูลวิทยา แก้

คำว่า "ทูน่า" มาจากคำว่า Thunnus ซึ่งเป็นภาษาละติน จากภาษากรีกโบราณ: θύννος, อักษรโรมัน: (thýnnos), แปลตรงตัว'tunny-ปลา' – ซึ่งแปลงมาจากคำว่า θύνω (thynō) หมายถึง "ที่พุ่ง; ที่โผ"[6]

ส่วนคำว่า "ปลาโอ" ซึ่งเป็นชื่อในภาษาไทย [4]จะหมายถึง ปลาทูน่าขนาดเล็ก ขนาดโดยเฉลี่ยประมาณ 40-100 เซนติเมตร[2]

การจำแนก แก้

  • วงศ์ Scombridae
    • เผ่า Thunnini: ปลาทูน่า
      • สกุล Allothunnus:
      • สกุล Auxis:
      • สกุล Euthynnus:
      • สกุล Katsuwonus: ปลาทูน่าท้องแถบ
      • สกุล Thunnus: ปลาอัลบาคอร์, ปลาทูน่าแท้
        • สกุลย่อย Thunnus (Thunnus): กลุ่มปลาทูน่าครีบน้ำเงิน
        • สกุลย่อย Thunnus (Neothunnus): กลุ่มปลาทูน่าครีบเหลือง[3]

ปลาทูน่า ชนิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ ปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือ มีความยาวตั้งแต่ปลายหัวจรดหาง 458 เซนติเมตร น้ำหนัก 684 กิโลกรัม โดยปลาทูน่าจัดเป็นปลาที่ว่ายน้ำได้รวดเร็วมาก เพราะมีรูปร่างเหมือนตอร์ปิโด สามารถว่ายน้ำได้เร็ว 70-74 กิโลเมตร/ชั่วโมง เป็นรองเพียงปลากระโทงแทง ซึ่งเป็นปลาที่ว่ายน้ำได้เร็วที่สุดในโลกเท่านั้น[5]

อ้างอิง แก้

  1. "Tribe Thunnini Starks 1910". PBDB. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 มกราคม 2019. สืบค้นเมื่อ 20 มกราคม 2019.
  2. 2.0 2.1 "คู่มือการจำแนกปลาโอและปลาทูน่าในภาคสนาม" (PDF). กรมประมง.
  3. 3.0 3.1 Graham, Jeffrey B. (2004). "Tuna Comparative Physiology". The Journal of Experimental Biology. 207: 4015–4024. doi:10.1242/jeb.01267. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2015-09-04. สืบค้นเมื่อ 20 September 2012. {{cite journal}}: ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |coauthors= ถูกละเว้น แนะนำ (|author=) (help)
  4. 4.0 4.1 ราชบัณฑิตยสถาน. พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525. กรุงเทพฯ : อักษรเจริญทัศน์, 2539. 972 หน้า. หน้า 966. ISBN 974-8122-79-4
  5. 5.0 5.1 หน้า 125-126, เดินเที่ยว Tokyo Sea Life Park คอลัมน์ Blue Planet โดย ดร.วรเทพ มุธุวรรณ. นิตยสาร Aquarium Biz ฉบับที่ 25 ปีที่ 2: กรกฎาคม ค.ศ. 2012
  6. Liddell, H.G.; Scott, R.; Whiton, J.M. (1887). A lexicon abridged from Liddell and Scott's Greek-English lexicon (17th ed.). Ginn & Co.