นกแคสโซแวรีใต้

นกขนาดใหญ่
นกแคสโซแวรีใต้
สถานะการอนุรักษ์
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร: Animalia
ไฟลัม: Chordata
ชั้น: Aves
อันดับ: Casuariiformes[2]
วงศ์: Casuariidae
สกุล: Casuarius
สปีชีส์: C.  casuarius
ชื่อทวินาม
Casuarius casuarius
(Linnaeus, 1758)[3]
แผนที่กระจายพันธุ์ของนกแคสโซแวรีใต้
egg of Casuarius casuarius

นกแคสโซแวรีใต้ (อังกฤษ: southern cassowary, double-wattled cassowary, two-wattled cassowary[3]; ชื่อวิทยาศาสตร์: Casuarius casuarius) เป็นนกที่บินไม่ได้ขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง เหมือนนกกระจอกเทศ และนกอีมู[3]

เป็นนกแคสโซแวรีชนิดหนึ่ง เป็นนกแคสโซแวรีชนิดที่ใหญ่ที่สุด มีความสูงประมาณ 100 เซนติเมตร มีน้ำหนักประมาณ 85 กิโลกรัม มีลักษณะคล้ายกับเวโลซีแรปเตอร์ ไดโนเสาร์กินเนื้อที่สูญพันธุ์ไปแล้ว [4]

นกแคสโซแวรีใต้มีขาที่สั้นและแข็งแรง ที่เล็บนิ้วตีนมี 3 นิ้ว ที่กรงเล็บที่แหลมคม โดยเฉพาะนิ้วกลางที่ยาวที่สุด อาจจะได้ยาวได้ถึง 5 นิ้ว ซึ่งใช้เป็นอาวุธป้องกันตัว ไม่มีหาง มีขนอ่อนนุ่มปกคลุมทั้งตัว ซึ่งขนของนกแคสโซแวรีใต้ไม่เหมือนขนนกทั่วไป แต่มีลักษณะคล้ายเส้นผม โดยขนเส้นเดียวแต่จะแตกออกเป็น 2 เส้น[4] ช่วยป้องกันเนื้อตัวของนกเมื่อบุกฝ่าดงหนามหรือไม้พุ่มต่าง ๆ และยังช่วยให้แลดูตัวใหญ่ขึ้น สำหรับข่มขู่ผู้รุกราน[5][4]

มีปีกที่สั้นมาก ปลายปีกแตกแขนงออกเป็นขน 5 เส้น และมีเดือยแหลมที่ตอนปลายเหมือนกับเวโลซีแรปเตอร์ ลำคอยาวไม่มีหนังเหมือนนกกระจอกเทศ มีจุดเด่น คือ ส่วนหัวที่มีสีสันสดใสทั้งสีแดง ฟ้า ม่วง และเหลือง โดยเฉพาะหงอนที่ส่วนหัว ที่เป็นสารประกอบเคอราทินที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการมี แต่นักวิทยาศาสตร์บางคนสันนิษฐานว่าเป็นส่วนที่ใช้ในการเปล่งเสียงแบบเดียวกับไดโนเสาร์บางชนิด ซึ่งจะได้เสียงที่ทุ้มต่ำ ซึ่งนกแคสโซแวรีใต้นับเป็นนกที่มีเสียงร้องที่ต่ำที่สุดในโลก เมื่ออายุมากขึ้นหงอนบนหัวนี้ก็จะใหญ่ยาวขึ้นตามอายุด้วย[4]

นกแคสโซแวรีใต้เป็นนกที่มีขนสีดำปกคลุมลำตัวทั้งหมด ตัวผู้และตัวเมียมีลักษณะเหมือนกัน แต่ตัวเมียจะมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้เล็กน้อย หลังจากผสมพันธุ์แล้ว นกตัวเมียจะวางไข่ที่พื้นดินประมาณ 5-6 ฟอง จากนั้นจะปล่อยให้ตัวผู้เป็นฝ่ายกกและเลี้ยงดูลูกนก ตัวผู้จะเลี้ยงดูลูกจนกระทั่งอายุได้ 9 เดือน นกแคสโซแวรีใต้มีอายุขัยประมาณ 50 ปี หรือมากกว่านั้น[4]

กรงเล็บนิ้วที่แหลมคม

กระจายพันธุ์ในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย ปกติจะอาศัยอยู่ในป่าดิบชื้น แต่ก็สามารถออกมาหากินบริเวณชายฝั่งทะเลหรือชุมชนเมืองที่อยู่อาศัยของมนุษย์ด้วย กินอาหารได้หลากหลาย ทั้ง ผลไม้ ลูกไม้ สัตว์ขนาดเล็กต่าง ๆ เช่น จิ้งจก ตุ๊กแก สัตว์มีกระเป๋าหน้าท้องขนาดเล็ก ปลา ปู รวมถึงซากสัตว์ เช่น ซากวาฬหรือโลมาที่มาเกยตื้น[5][4]

นกแคสโซแวรีใต้ได้ชื่อว่าเป็นนกที่มีอันตรายที่สุดในโลก ด้วยสามารถที่จะกระโดดถีบได้ด้วยกรงเล็บที่แหลมคมอย่างรุนแรง ด้วยความแรง 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเคยทำร้ายมนุษย์ได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ชีวิตมาแล้ว วิ่งได้เร็ว 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถว่ายน้ำได้อีกด้วย[5][4]

อ้างอิง แก้

  1. BirdLife International (2012). "Casuarius casuarius". IUCN Red List of Threatened Species. Version 2012.1. สืบค้นเมื่อ 5 July 2012.
  2. จาก itis.gov
  3. 3.0 3.1 3.2 Davies, S. J. J. F. (2003)
  4. 4.0 4.1 4.2 4.3 4.4 4.5 4.6 Cassowary Bird: Feathered Velociraptor, "Biggest & Baddest" สารคดีทางอนิมอลพลาเน็ต. ทางทรูวิชั่นส์: อังคารที่ 15 มกราคม 2556
  5. 5.0 5.1 5.2 นกแคสโซแวรี[ลิงก์เสีย]

แหล่งข้อมูลอื่น แก้

  ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ Casuarius casuarius ที่วิกิสปีชีส์