ดอนหอยหลอด เป็นสันดอนตั้งอยู่ปากแม่น้ำแม่กลอง มีอาณาบริเวณกว้างประมาณ 3 กิโลเมตร ยาว 5 กิโลเมตร ในตำบลบางจะเกร็ง ตำบลแหลมใหญ่ และตำบลบางแก้ว อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม เกิดจากการตกตะกอนของดินปนทราย (ชาวบ้านเรียกว่า "ทรายขี้เป็ด") เป็นสถานที่ที่พบหอยหลอดจำนวนมาก

การขึ้นทะเบียน
ขึ้นเมื่อ5 กรกฎาคม พ.ศ. 2544
เลขอ้างอิง1099[1]
บริเวณดอนใน ดอนหอยหลอดตอนน้ำขึ้น

ลักษณะทางกายภาพ แก้

ดอนหอยหลอดเป็นสถานที่ที่มีลักษณะเด่นที่หาพบได้ยากในประเทศไทย โดยเกิดจากการทับถมของตะกอนจากแม่น้ำและตะกอนจากทะเลบริเวณปากแม่น้ำแม่กลอง เกิดเป็นสันดอนยื่นออกไปในทะเลราว 8 กิโลเมตร ลักษณะของพื้นที่เป็นชายฝั่งราบเรียบที่พื้นเป็นทรายและตะกอน เวลาน้ำลงจะปรากฏพื้นโคลนเลนกว้างราว 4 กิโลเมตร ซึ่งมีพื้นเป็นตะกอนนุ่มและอุดมไปด้วยแร่ธาตุ ในพื้นที่จะเกิดน้ำขึ้นวันละ 2 ครั้ง เวลาน้ำขึ้นกระแสน้ำจะไหลขึ้นทางทิศเหนือ แต่เวลาน้ำลงจะไหลลงทิศใต้ อย่างไรก็ตาม บางเวลาทิศทางของกระแสน้ำอาจเปลี่ยนแปลงได้เล็กน้อยโดยกระแสลม

ความหลากหลายทางชีวภาพ แก้

พื้นโคลนเลนในบริเวณดอนหอยหลอดเป็นแหล่งอาศัยของหอยหลอดจำนวนมาก จัดว่าเป็นพื้นที่ที่พบหอยหลอดได้มากที่สุดในบริเวณชายฝั่งอ่าวไทยทั้งหมด

บริเวณดอนหอยหลอดและป่าชายเลนที่อยู่ใกล้เคียงเป็นแหล่งอาศัยของนกทะเลและนกชายฝั่งอย่างน้อย 18 ชนิด ในจำนวนนี้มีอยู่ชนิดหนึ่งที่จัดเป็นนกที่อยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์ไปจากประเทศไทย คือ นกกระสานวล (Ardea cinerea) และมีอีก 3 ชนิดที่จัดอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการถูกคุกคาม ได้แก่ เหยี่ยวแดง (Haliastur indus) นกนางนวลแกลบเล็ก (Sternula albifrons) และนกนางแอ่นกินรัง (Aerodramus fuciphagus) ส่วนนกอื่น ๆ ที่เป็นจุดเด่นของพื้นที่คือ นกยางกรอกชวา (Ardeola speciosa) และนกนางนวลแกลบเคราขาว (Chlidonias hybrida)

จากการสำรวจบริเวณดอนหอยหลอด พบสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอย่างน้อย 42 ชนิด เช่น แมงกะพรุนไฟ หนอนริบบิ้น แม่เพรียงทะเล (Alitta virens) ในจำนวนนี้เป็นสัตว์จำพวกมอลลัสก์ประมาณ 10 ชนิด เช่น หอยมวนพลู (Screw turritella) หอยกะพง (Arcuatula senhousia) หอยเสียบ หอยปากเป็ด (Lingula anatina) หอยแครง หอยหลอด เป็นต้น

ส่วนพืชที่ขึ้นในพื้นที่ของดอนหอยหลอดนั้น พรรณไม้ส่วนใหญ่บริเวณป่าชายเลนจะเป็นโกงกางใบเล็ก (Rhizophora apiculata) และโกงกางใบใหญ่ (Rhizophora mucronata) ตามลำต้นและรากของต้นโกงกางจะมีสาหร่ายสีแดงเกาะอยู่ บริเวณพื้นโคลนแถบชายฝั่งจะพบไซยาโนแบคทีเรีย (สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน) ได้ทั่วไป นอกจากนี้ในป่ายังพบพืชชนิดอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น โพทะเล (Thespesia populnea) แสมดำ (Avicennia officinalis) แสมขาว (Avicennia alba) พืชสกุลประสัก เป็นต้น

ประโยชน์และคุณค่าของพื้นที่ แก้

ดอนหอยหลอดเป็นกลไกทางธรรมชาติที่ช่วยกรองตะกอนจากแม่น้ำก่อนที่จะออกสู่ทะเล ในพื้นที่จัดว่าเป็นแหล่งของสัตว์น้ำทางการประมงที่มีความหลากหลายมาก เช่น หอยหลอด หอยแครง และหอยสองฝาอื่น ๆ โดยเฉพาะหอยหลอด ที่เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่มีชื่อเสียงมาก ซึ่งทำรายได้ให้แก่ชุมชนในท้องถิ่นอย่างมาก นอกจากนี้ ดอนหอยหลอดยังมีความสำคัญในแง่ของแหล่งศึกษาทางนิเวศวิทยาที่มีสภาพสมบูรณ์ ทั้งการค้นคว้าวิจัย ทดลอง และเก็บตัวอย่างเพื่อการศึกษาทางอนุกรมวิธาน นิเวศวิทยา และวิวัฒนาการ

มลภาวะและการจัดการสภาพแวดล้อม แก้

  • ในปี พ.ศ. 2536 สำนักงานป่าไม้จังหวัดสมุทรสงครามได้กำหนดพื้นที่หวงห้ามโดยปักหลักเขตครอบคลุมพื้นที่ของกิ่งอำเภอบางจะเกร็ง บางบ่อ และบางแคว เป็นเนื้อที่ 0.48 ตารางกิโลเมตร
  • วันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2543 พื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าดอนหอยหลอดได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับนานาชาติ (Ramsar Site) ลำดับที่ 1099
  • โครงการพัฒนาพื้นที่ อย่างเช่น โครงการระบบป้องกันลุ่มน้ำเค็ม และโครงการก่อสร้างถนนเลียบชายฝั่งระหว่างกิ่งอำเภอบางจะเกร็งและบางแคว อาจมีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมของพื้นที่ในระยะยาว
  • มลภาวะอื่น ๆ ในพื้นที่ได้แก่ มลพิษทางน้ำในแม่น้ำแม่กลองซึ่งมีสาเหตุต่าง ๆ มากมาย เช่น โรงงานอุตสาหกรรม แหล่งท่องเที่ยว ชุมชน พื้นที่เกษตรกรรม การรุกล้ำพื้นที่ป่าชายเลนเพื่อการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การก่อสร้างร้านอาหารยื่นออกไปในทะเล การก่อสร้างถนนและที่จอดรถเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว การจับหอยหลอดในปริมาณที่มากเกินไป การใช้วิธีการจับหอยหลอดอย่างไม่เหมาะสม (เช่นการใช้ปูนขาว) มลภาวะในทะเล การปล่อยน้ำเสียจากบ่อเลี้ยงกุ้ง รวมทั้งพฤติกรรมการทิ้งขยะไม่ถูกที่ของนักท่องเที่ยว

อ้างอิง แก้

แหล่งข้อมูลอื่น แก้

  1. "Don Hoi Lot". Ramsar Sites Information Service. สืบค้นเมื่อ 25 April 2018.