จักรพรรดิจิ่งไท่

ฮ่องเต้จิ่งไท่ (จีน: 景泰) หรือ ฮ่องเต้หมิงไต้จง (จีน: 明代宗) เป็นจักรพรรดิจีนราชวงศ์หมิง ในคราวที่บ้านเมืองกำลังวิกฤต ทรงยึดบัลลังก์จากพระเชษฐา ฮ่องเต้เจิ้งถง และขึ้นครองบัลลังก์เป็นฮ่องเต้จิ่งไถ่ แต่ภายหลังก็ทรงถูกฮ่องเต้เจิ้งถงยึดอำนาจคืน

จักรพรรดิจิ่งไท่
จักรพรรดิจีน
จักรพรรดิจิ่งไท่
จักรพรรดิองค์ที่ 7 แห่ง ราชวงศ์หมิง
ครองราชย์22 September 1449 - 11 February 1457
ก่อนหน้าจักรพรรดิหมิงอิงจง
ถัดไปจักรพรรดิหมิงอิงจง
ChancellorsSee list
ประสูติ21 กันยายน ค.ศ. 1428(1428-09-21)
สวรรคต14 มีนาคม ค.ศ. 1457(1457-03-14) (28 ปี)
จักรพรรดินีEmpress Xiao Yuan Jing
Empress Shu Xiao
พระราชบุตรZhu Juanje
and 2 daughters
รัชศก
จิ่งไท่ (景泰) 14 January 1450 - 14 February 1457
พระนามหลังสวรรคต
Emperor Gongren Kangding Jing
恭仁康定景皇帝
วัดประจำรัชกาล
Ming Daizong
明代宗
ราชวงศ์ราชวงศ์หมิง
พระราชบิดาจักรพรรดิซวนเต๋อ
พระราชมารดาเซี่ยวอี้ฮองไทเฮา

จูฉีอี้ (朱祁钰) เกิดเมื่อ พ.ศ. 1971 เป็นพระโอรสของ ฮ่องเต้ซวนเต๋อ กับสนมอู๋แต่ต้องอาศัยอยู่นอกวังเพราะสนมอู๋มีอดีตนางรับใช้เก่าของฮั่นอ๋อง ที่เคยก่อกบฏจะแย่งราชบัลลังก์จากฮ่องเต้ซวนเต๋อ จนฮ่องซวนเต๋อจวนจะสิ้นพระชนม์ มีพระราชโองการเรียกตัวสนมอู๋กับจูฉีอี้ยู่เข้าพระราชวังต้องห้าม และฝากฝังให้พระราชวงศ์ทุกพระองค์ยอมรับแม่ลูกคู่นี้ ว่าเป็นสนมและพระโอรสอย่างถูกต้อง

เมื่อพระโอรสของพระเจ้าซวนเต๋อ คือ จูฉีเจิน ขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้เจิ้งถงในพ.ศ. 1978 จูฉีอี้จึงได้รับแต่งตั้งเป็นอ๋องเฉิง (郕王) และอาศัยอยู่กับสนมอู๋ในวัง จนฮ่องเต้เจิ้งถงนำทัพออกไปรบกับมองโกลตามคำแนะนำของขันทีหวังเจิ้นในพ.ศ. 1992 เนื่องจากพระโอรสของฮ่องเต้เจิ้งถงยังพระเยาว์ ไม่มีองค์ชายองค์อื่นที่อาวุโสกว่า อ๋องเฉิงจึงได้เป็นผู้สำเร็จราขการแทน ภายใต้การสนับสนุนของยู่ฉวน จนฮ่องเต้เจิ้งถงถูกจับเป็นองค์ประกันในวิกฤตการตูมู่ และถูกพวกมองโกลเรียกร้องค่าไถ่มหาศาล ซุ่นไทเฮาจึงให้อ๋องเฉิงขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้จิ้งไถ่ มียู่เฉียนสนับสนุนอยู่ แต่ไทเฮาก็ให้ตั้งพระโอรสของฮ่องเต้เจิ้งถง คือ จูเจี้ยนเซิน เป็นหว่างไท่จื่อ (องค์ชายรัชทายาท) ฮ่องเต้เจิ้งถงจึงกลายเป็น ไท่ซ่างหวง (ฮ่องเต้สละราชย์)

รัชสมัย แก้

ต้านทัพมองโกล แก้

ฮ่องเต้จิ่งไถ่ทรงปลดขุนนางกลุ่มของหวังเฉินออกจากราชการและลงพระอาญาถึงขึ้นประหารในข้อหาล่วงละเมิดพระราชอำนาจ กลุ่มขุนนางที่เคยถูกหวังเฉินกีดกันจากราชการก็สามารถกลับเข้าดำรงตำแหน่งได้ นับเป็นการฟื้นฟูระเบียบราชสำนักหลังจากที่ถูกขันทีหวังเฉินครอบงำ และภายใต้คำแนะนำของยู่เฉียน ฮ่องเต้จิ่งไถ่มีพระราชโองการให้ระดมไพร่พลมาสู้กับพวกมองโกล

พวกมองโกลเห็นว่าต้าหมิงได้ฮ่องเต้องค์ใหม่แล้ว แผนการจับฮ่องเต้เจิ้งถงเป็นองค์ประกันไม่สำเร็จ จึงยกทัพมาปักกิ่ง แต่ยูเฉียนก็สามารถนำทัพต้าหมิงเข้าปราบทัพมองโกลได้ราบคาบและถอยร่นไป เมื่อพวกมองโกลพ่ายแพ้จึงปล่อยองค์ไท่ซ่างหว่างกลับปักกิ่งในพ.ศ. 1993 แต่ฮ่องเต้จิ่งไถ่ทรงไม่กล้าเสด็จออกไปต้อนรับพระเชษฐาธิราชกลับมาเพราะเกรงว่าจะกระทบต่อความชอบธรรมในการครองราชย์ แต่ยู่เฉียนก็แนะนำว่า ฮ่องเต้จิ่งไถ่สามารถยอมรับฮ่องเต้เจิ้งถงในฐานะไท่ซ่างหว่างได้โดยไม่มีเหตุวุ่นวายและสถานภาพของพระองค์ก็ยังคงอยู่

ตั้งรัชทายาท แก้

เมื่อไท่ซ่างหว่างเสด็จนิวัติพระนครแล้วฮ่องเต้จิ่งไถ่ก็พระราชทานพระราชวังทักษิณให้ฮ่องเต้เจิ้งถงประทับ และส่งองค์รักษ์คอยคุ้มกันแน่นหนามิให้ไท่ซ่างหว่างทรงติดต่อกับผู้ใดเว้นแต่จะมีพระบรมราชานุญาต ด้วยเหตุที่ฮ่องเต้จิ่งไถ่เกรงว่าฮ่องเต้เจิ้งถงจะก่อการยึดบัลลังก์คืน

นอกจากนี้ฮ่องเต้จิ่งไถ่ยังมีพระราชประสงค์จะแต่งตั้งพระโอรสของพระองค์เองเป็นไท่จื่อ ฮองเฮาเว่ย ฮองเฮาของฮ่องเต้จิ่งไถ่ไม่อาจจะมีพระโอรสได้ แต่สนมหังกลับสามารถมีพระโอรส คือ จู เจี้ยนจี๋ ในพ.ศ. 1994 และจะตั้งพระโอรสองค์นี้เป็นหว่างไท่จื่อแทนพระโอรสของฮ่องเต้เจิ้งถง จูเจี้ยนเซิน แต่เว่ยฮองเฮาไม่ยอม ฮ่องเต้จิ่งไถ่ทรงพระพิโรธมากปลดฮองเฮาเว่ยและตั้งสนมหังขึ้นเป็นฮองเฮาแทน

ในพ.ศ. 2000 ฮ่องเต้จิ่งไถ่ประชวรหนัก บรรดาขุนนางพากันหารือว่าจะตั้งจูเจี้นเซินหรือจูเจี้ยนจี๋ขึ้นเป็นฮ่องเต้ดี แต่แล้วในวันนั้นทหารของไท่ซ่างหว่างก็เข้ายึดประตูวัง ยึดอำนาจตั้งตนเองกลับเป็นฮ่องเต้เสียใหม่ ฮ่องเต้จิ่งไถ่สิ้นพระชนม์ในวันนั้น ขุนนางฝ่ายของยูเฉียนจึงถูกประหารชีวิตไปมาก ข้อหาขบถทรยศต่อฮ่องเต้เจิ้งถง ฮ่องเต้เจิ้งถงทรงใช้รัชศกใหม่คือเทียนซุ่น ฮ่องเต้เทียนซุ่นทรงปลดฮ่องเต้จิ่งไถ่ลงเป็นเฉิงอ๋อง และไม่ให้ฝังรวมกับพระสุสานราชวงศ์หมิง จนฮ่องเต้ราชวงศ์หมิงใต้ตั้งเฉิงอ๋องกลับขึ้นเป็นฮ่องเต้ใหม่ในที่สุด

ก่อนหน้า จักรพรรดิจิ่งไท่ ถัดไป
จักรพรรดิเจิ้งถง   จักรพรรดิจีน
(ค.ศ. 1449 - 1457)
  จักรพรรดิเจิ้งถง|}