ค่ายผู้ลี้ภัยแม่ลา

ค่ายผู้ลี้ภัยแม่ลา ก่อตั้งขึ้นในปี 2527 อยู่ในอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ในเขตทิวเขาดอยมอนกุจู ปัจจุบันให้ที่อยู่แก่ผู้ลี้ภัย 50,000 คน[1] ซึ่งมีเพิ่มทุกสัปดาห์จากประเทศพม่า ค่ายผู้ลี้ภัยแม่ลาเป็นค่ายผู้ลี้ภัยสำหรับชาวพม่าแห่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ผู้ลี้ภัยกว่า 90% มีเชื้อสายกะเหรี่ยง[2]

แม่ลา
แม่ลาตั้งอยู่ในจังหวัดตาก
แม่ลา
แม่ลา
แม่ลาตั้งอยู่ในประเทศไทย
แม่ลา
แม่ลา
พิกัด: 17°07′44″N 98°22′50″E / 17.12889°N 98.38056°E / 17.12889; 98.38056พิกัดภูมิศาสตร์: 17°07′44″N 98°22′50″E / 17.12889°N 98.38056°E / 17.12889; 98.38056
ประเทศ ไทย
จังหวัดตาก
อำเภอท่าสองยาง
พื้นที่
 • ทั้งหมด4 ตร.กม. (2 ตร.ไมล์)
ประชากร
30,000 คน
เขตเวลาUTC+7 (UTC+7)

เดิมค่ายตั้งขึ้นหลังฐานทัพสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) แตก ที่หมู่บ้านแม่ลาของไทยตรงพรมแดนในปี 2527 โดยมีประชากร 1,100 คน ไม่นานหลังจากนั้น ค่ายถูกย้ายไปยังจุดอันเป็นที่ตั้งของโซนซีในปัจจุบัน เนื่องจากความกังวลด้านความมั่นคง หลังมาเนอปลอว์แตกในเดือนมกราคม 2538 ค่ายจำนวนหนึ่งถูกโจมตีในการตีโฉบฉวยข้ามพรมแดน และทางการไทยเริ่มรวบรวมค่ายเพื่อเพิ่มความมั่นคง ค่ายผู้ลี้ภัยแม่ลาถูกกำหนดเป็นค่ายหลักในพื้นที่

ในเดือนเมษายน 2538 ค่ายผู้ลี้ภัยแม่ลาเพิ่มขนาดจากที่รองรับได้ 6,969 คน เป็น 13,195 คน ในปีต่อมา ค่ายเพิ่มขนาดเป็นสองเท่าอีก เป็น 26,629 คน เนื่องจากผู้ลี้ภัยที่สูญหายไปในการย้ายค่ายกลับมายังค่าย

ค่ายแม่ลาถูกมองว่าเป็นศูนย์กลางการศึกษาสำหรับผู้ลี้ภัย ฉะนั้น ประชากรปัจจุบันจึงมีนักเรียนหลายพันคนที่มาศึกษาในค่ายด้วย บ้างมาจากค่ายผู้ลี้ภัยอื่น แต่ส่วนใหญ่มาจากพม่า นักเรียนเหล่านี้ได้รับการลงทะเบียนเป็นผู้อยู่อาศัยชั่วคราว

ค่ายถูกโจมตีในปี 2540 โดยกำลังกองกำลังกะเหรี่ยงประชาธิปไตยฝ่ายพุทธ (DKBA) ที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยกองทัพพม่า ไม่มีการรุกล้ำอีกหลังจากนั้น แต่กระสุนปืนครกตกในส่วน เอ5 ในเดือนมีนาคม 2541 ทุกฤดูแล้ง พื้นที่นี้ค่อนข้างตึงเครียดกับความมั่นคงของค่าย มีการขู่จะโจมตีด้วยอาวุธ และ/หรือ ความพยายามเผาค่าย

พื้นที่รัฐกะเหรี่ยงที่ตั้งอยู่ตรงข้ามค่ายแม่ลานั้นอยู่ห่างไกล โดยไม่มีนิคมขนาดใหญ่หรือโครงสร้างพื้นฐาน กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) ยังมีกองบัญชาการกองพลน้อยที่ 7 อยู่ใกล้เคียง และมีกองรักษาด่านจำนวนมากของกองทัพพม่าและกองกำลังกะเหรี่ยงประชาธิปไตยฝ่ายพุทธอยู่ในพื้นที่[3]

อ้างอิง แก้

  1. "TBBC, Camps - Populations". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-08-09. สืบค้นเมื่อ 2013-03-02.
  2. UNHCR Thailand and Japan’s Pilot Resettlement Program เก็บถาวร 2012-03-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน 25 August 2010
  3. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-09-03. สืบค้นเมื่อ 2013-03-02.