ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มาร์โก โปโล"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Rescuing 1 sources and tagging 0 as dead.) #IABot (v2.0.8.1 |
Phaisit16207 (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 22:
}}
'''มาร์โก โปโล''' ({{IPAc-en|ˈ|m|ɑr|k|oʊ|_|ˈ|p|oʊ|l|oʊ|audio=en-us-marco polo.ogg}}, {{IPA-vec|ˈmaɾko ˈpolo|lang}}, {{IPA-it|ˈmarko ˈpɔːlo|lang|MarcoPolo.flac}}; 15 กันยายน ค.ศ. 1254{{spaced ndash}}8 มกราคม ค.ศ. 1324){{sfn|Bergreen|2007|pp=340–42}} เป็นพ่อค้าวานิช นักสำรวจ และผู้เขียนชาว[[สาธารณรัฐเวนิส|เวนิส]] ซึ่งได้เดินทางผ่านเอเชียไปตาม[[เส้นทางสายไหม]]ระหว่างปี ค.ศ. 1271 และ ค.ศ. 1295 การเดินทางของเขาได้ถูกบันทึกเอาไว้ในหนังสือที่ชื่อว่า [[บันทึกการเดินทางของมาร์โค โปโล|การเดินทางของมาร์โก โปโล]](หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อหนังสือว่า ความมหัศจรรย์ของโลกและเรื่องฝอยล้านเรื่อง ค.ศ. 1300) เป็นหนังสือที่บรรยายให้แก่ชาวยุโรปได้รับรู้ถึงวัฒนธรรมอันลึกลับและการทำงานภายในของโลกตะวันออก รวมทั้งความมั่นคั่งและความยิ่งใหญ่ของ[[จักรวรรดิมองโกล]]และจีนในสมัย[[ราชวงศ์หยวน]] นับเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็น[[จีน]] [[เปอร์เซีย]] [[อินเดีย]] [[ญี่ปุ่น]] และเมืองและประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย<ref>{{cite news|last=Benedetto|first=Luigi Foscolo|date=1965|title=Marco Polo, Il Milione|language=it|newspaper=[[De Agostini|Istituto Geografico DeAgostini]]}}</ref>
เขาเกิดในเมืองเวนิส มาร์โกได้เรียนรู้การค้าขายจากพ่อและลุงของเขาคือ [[นิกโกโลและมาฟเฟโอ โปโล|นิกโกโลและมาฟเฟโอ]] ซึ่งได้เดินทางผ่านเอเชียและเข้าเฝ้า[[กุบไล ข่าน]] ในปี ค.ศ. 1269 พวกเขาเดินทางกลับมายังเวนิสเพื่อพบกับมาร์โกเป็นครั้งแรก ทั้งสามคนได้เริ่มออกเดินทางครั้งยิ่งใหญ่สู่เอเชีย สำรวจสถานที่ต่าง ๆ ตามเส้นทางสายไหมจนกระทั่งพวกเขาได้เดินทางมาถึง[[คาเธ่ย์]](จีน) พวกเขาได้รับการต้อนรับจากราชสำนักกุบไล ข่าน ซึ่งพระองค์ทรงประทับใจในสติปัญญาและความอ่อนน้อมถ่อมตนของมาร์โก มาร์โกได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่เป็นทูตต่างประเทศของข่าน และเขาถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจทางการทูตมากมายทั่วทั้งจักรวรรดิและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น [[พม่า]] [[อินเดีย]] [[อินโดนีเซีย]] [[ศรีลังกา]] และ[[เวียดนาม]]ในปัจจุบัน<ref name="Rongguang2">{{cite book|author=Rongguang Zhao, Gangliu Wang, Aimee Yiran Wang|title=A History Of Food Culture In China|page=94}}</ref><ref name="Kleinhenz2">{{cite book|author=Christopher Kleinhenz|title=Routledge Revivals: Medieval Italy (2004): An Encyclopedia – Volume II, Volume 2|page=923}}</ref> ในการได้รับการแต่งตั้งในครั้งนี้ มาร์โกยังได้เดินทางอย่างกว้างขวางในประเทศจีน ซึ่งอาศัยอยู่ในดินแดนของจักรพรรดิมาเป็น 17 ปี และได้พบเห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่ชาวยุโรปไม่เคยรู้จักมาก่อน<ref name="WorldAtlas2">{{cite web|title=Marco Polo|url=https://www.worldatlas.com/articles/marco-polo-great-explorers-of-the-world.html|website=Worldatlas.com|publisher=WorldAtlas.com|access-date=2021-08-09|archive-date=2020-06-09|archive-url=https://web.archive.org/web/20200609141055/https://www.worldatlas.com/articles/marco-polo-great-explorers-of-the-world.html|url-status=dead}}</ref> ราวปี ค.ศ. 1291 โปโลยังได้เสนอให้พาองค์หญิงมองโกลที่มีพระนามว่า Kököchin ไปยังเปอร์เซีย พวกเขาได้เดินทางมาถึงราวปี ค.ศ. 1293 ภายหลังได้จากลาองค์หญิงแล้ว พวกเขาได้เดินทางบกไปยัง[[กรุงคอนสแตนติโนเปิล]] และจากนั้นก็ไปยังเวนิส เป็นการเดินทางกลับบ้านหลังจากมาเป็นเวลา 24 ปี ในช่วงเวลานั้น เวนิสกำลังทำสงครามกับ[[สาธารณรัฐเจนัว|เจนัว]] มาร์โกได้ถูกจับกุมและคุมขังโดยพวกเจนัว ภายหลังจากเข้าร่วมในความพยายามทำสงครามและเล่าเรื่องราวของเขาให้แก่ Rustichello da Pisa เพื่อนร่วมห้องขังได้รับฟัง เขาได้รับการปล่อยตัวในปี ค.ศ. 1299 ต่อมาได้กลายเป็นพ่อค้าผู้มั่นคั่งร่ำรวย ได้แต่งงาน และมีบุตรสามคน เขาเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1324 และร่างของเขาถูกฝังไว้ในโบสถ์ซาน ลอเรนโซ่ในเมืองเวนิส
| |||