ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ไรน์ฮาร์ท ไฮดริช"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Matable (คุย | ส่วนร่วม)
Matable (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 152:
เมื่อวันที่ 27 กันยายน ค.ศ. 1941 ไฮดริชได้รับการแต่งตั้งเป็นรองผู้ว่าการรัฐไรช์แห่ง[[รัฐในอารักขาโบฮีเมียและมอเรเวีย]] (ส่วนหนึ่งของ[[เชโกสโลวาเกีย]]ซึ่งถูกรวมเข้ามาอยู่ในไรช์ เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 1939) และได้เข้าควบคุมดินแดน ผู้ว่าการรัฐไรช์ [[ค็อนสตันทีน ฟ็อน น็อยราท]] ยังคงเป็นผู้ปกครองดินแดนเพียงแต่ในนาม แต่ถูกส่งให้"ออกไป" เพราะฮิตเลอร์ ฮิมเลอร์ และไฮดริชต่างรู้สึกว่า "วิธีการที่ดูนุ่มนวล" ของเขาต่อชาวเช็กได้ส่งเสริมความรู้สึกต่อต้านเยอรมันและสนับสนุนฝ่ายต่อต้านเยอรมันโดยการนัดหยุดงานและก่อวินาศกรรม{{sfn|Williams|2003|p=82}} เมื่อเขาได้รับการแต่งตั้ง ไฮดริชได้บอกกับผู้ช่วยของเขาว่า: "เราจะทำให้กลายเป็นเยอรมันแก่ชาวเช็กที่น่ารังเกียจ"{{sfn|Horvitz|Catherwood|2006|p=200}}
 
ไฮดริชได้มาถึง[[ปราก|กรุงปราก]]เพื่อบังคับใช้นโยบาย ต่อสู้กับฝ่ายต่อต้านระบอบนาซี และรักษาโควตาการผลิตยานยนต์และอาวุธของเช็กซึ่ง "มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความพยายามในการทำสงครามของเยอรมัน"{{sfn|Williams|2003|p=82}} เขาได้มองว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นป้อมปราการของชนชาติเยอรมัน และประณาม"การแทงข้างหลัง" ของฝ่ายต่อต้านชาวเช็ก เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ไฮดริชได้เรียกร้องการจำแนกประเภททางเชื้อชาติของผู้ที่สามารถและไม่สามารถพูดเป็นภาษาเยอรมันได้ เขาได้อธิบายว่า "การทำให้ชาวเช็กที่เป็นดั่งขยะนี้กลายเป็นชาวเยอรมันต้องยอมทำตามวิธีการที่ขึ้นอยู่กับความคิดแบ่งแยกทางเชื้อชาติ"{{sfn|Bryant|2007|p=140}}
 
ไฮดริชได้เริ่มต้นการปกครองด้วยการข่มขู่ประชาชน: เขาได้การประกาศใช้[[กฎอัยการศึก]] และมีผู้คน 142 คนล้วนถูกประหารชีวิตภายในห้าวันหลังจากการเดินทางมาถึงกรุงปราก<ref name="1.heydrichiada">{{cite web|last1=Šír|first1=Vojtěch|date=3 April 2011|title=První stanné právo v protektorátu|trans-title=The First Martial Law in Protectorate|url=https://www.fronta.cz/dotaz/prvni-stanne-pravo-v-protektoratu|access-date=24 June 2018|website=Fronta.cz|language=cs}}</ref> ชื่อของพวกเขาปรากฏบนแผ่นโปสเตอร์ทั่วประเทศที่ถูกยึดครอง{{sfn|Bryant|2007|p=143}} ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกของฝ่ายต่อต้านที่เคยถูกจับกุมมาก่อนและกำลังรอการพิจารณาคดี
บรรทัด 160:
ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1942 การกวาดล้างที่เพิ่มมากขึ้นต่อองค์กรวัฒนธรรมและความรักชาติ การทหาร และปัญชาชนของชาวเช็ก ซึ่งส่งผลทำให้เกิดอัมพาตในทางปฏิบัติของฝ่ายต่อต้านชาวเช็กที่อยู่ในกรุงลอนดอน ช่องทางเกือบทั้งหมดที่ชาวเช็กจะสามารถแสดงวัฒนธรรมเช็กในที่สาธารณะได้ปิดตัวลง{{sfn|Bryant|2007|p=140}} แม้ว่าหน่วยลับคอมมิวนิสต์ขนาดเล็กที่ไม่เป็นระเบียบของผู้นำกลางแห่งฝ่ายต่อต้านบ้านเกิด (Ústřední vedení odboje domácího, ÚVOD) จะรอดพ้นมาได้ มีเพียงฝ่ายต่อต้านของพวกคอมมิวนิสต์เท่านั้นที่สามารถทำงานในลักษณะคอยประสานงานร่วมกันได้(แม้ว่าจะถูกจับกุมก็ตาม){{sfn|Bryant|2007|p=143}} ความสะพรึงกลัวยังทำให้การต่อต้านกลายเป็นง่อยในสังคม ด้วยการตอบโต้อย่างเปิดเผยและแพร่หลายโดยนาซีต่อการกระทำใด ๆ ที่ลุกฮือต่อต้านต่อการปกครองของเยอรมัน{{sfn|Bryant|2007|p=143}} นโยบายที่โหดเหี้ยมของไฮดริชในช่วงเวลานั้นทำให้เขาได้รับฉายาว่า "จอมเชือดแห่งปราก"{{sfn|Paces|2009|p=167}} อย่างรวดเร็ว การตอบโต้ได้ถูกเรียกโดยชาวเช็กว่า "ไฮดริชเคียอานา"(Heydrichiáda){{sfn|Roberts|2005|p=56}}
 
ในฐานะผู้รักษาการณ์ในตำแหน่งผู้ว่าการรัฐไรช์แห่งรัฐในอารักขาโบฮีเมียและมอเรเวีย ไฮดริชได้ใช้วิธีการแบบ[[แครอทและกิ่งไม้]]{{sfn|Williams|2003|p=100}} แรงงานได้ถูกปรับปรุงขึ้นมาใหม่บนรากฐานของแนวร่วมแรงงานเยอรมัน ไฮดริชได้ใช้อุปกรณ์เครื่องมือที่ยึดมาได้จากองค์กรยิมนาสติกของเช็กที่มีชื่อว่า Sokol เพื่อจัดกิจกรรมสำหรับคนงาน{{sfn|Bryant|2007|p=144}} มีการแจกจ่ายด้วยส่วนแบ่งปันอาหารและรองเท้าแบบฟรี ๆ เพิ่มเงินบำนาญ และแนะนำเสนอให้มีอิสระในวันเสาร์(แบบชั่วขณะหนึ่ง) [[การประกันคุ้มครองการว่างงาน]]ได้ถูกก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรก{{sfn|Williams|2003|p=100}} [[ตลาดมืด|การค้าตลาดมืด]]ได้ถูกปราบปราม ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรืออยู่ในขบวนการฝ่ายต่อต้านจะถูกนำตัวไปทรมานหรือประหารชีวิต ไฮดริชได้เรียกพวกเขาว่า "อาชญากรทางเศรษฐกิจ" และ "ศัตรูของประชาชน" ซึ่งช่วยให้เขาได้รับการสนับสนุน สภาพในกรุงปรากและส่วนที่เหลือของดินแดนเช็กดูค่อนข้างสงบภายใต้ไฮดริช และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มมากขึ้น ถึงกระนั้น มาตรการเหล่านั้นก็ไม่สามารถหลบซ่อนภาวะการขาดแคลนและอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มมากขึ้นได้{{sfn|Williams|2003|p=100}} การรายงานความไม่พอใจที่เกิดขึ้นได้เพิ่มขึ้นเท่าทวีคูณ{{sfn|Bryant|2007|p=144}}
 
แม้ว่าจะมีการเปิดเผยต่อสาธารณะถึงความปราถนาดีต่อประชาชน แต่โดยส่วนตัวแล้ว ไฮดริชมีความชัดเจนอย่างมากเกี่ยวกับเป้าหมายสุดท้ายของเขา: "พื้นที่ทั้งหมดนี้ในวันหนึ่งจะกลายเป็นของเยอรมันอย่างแน่นอน และชาวเช็กก็ไม่มีอะไรที่จะคาดหวังที่นี่อีก" ในท้ายที่สุด จำนวนมากถึงสองในสามของประชากรจะต้องถูกเคลื่อนย้ายไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ของรัสเซีย หรือถูกกำจัดทิ้งภายหลังจากนาซีเยอรมนีชนะสงคราม ดินแดนโบฮีเมียและมอเรเวียจะต้องถูกผนวกรวมเข้ากับไรช์เยอรมันโดยตรง{{sfn|Garrett|1996|p=60}}
บรรทัด 191:
 
{{side box
| text ="...&nbsp;มาตราการทั้งหมดที่ได้วางแผนเอาไว้จะถูกเก็บเอาไว้เป็นความลับอย่างเคร่งครัด&nbsp;... สิ่งหนึ่งที่ต้องทำก่อนเพื่อเป้าหมายสุดท้าย ("Endziel") คือการรวมกระจุกตัวของชาวยิวจากชนบทสู่เมืองขนาดใหญ่."<br><center>– ไฮดริช, กันยายน ค.ศ. 1939{{efn|name=telegram}}</center>
| text ="...&nbsp;the planned total measures are to be kept strictly secret&nbsp;... the first prerequisite for the final aim ("Endziel") is the concentration of the Jews from the countryside into the larger cities."<br><center>– Heydrich, September 1939{{efn|name=telegram}}</center>
}}
{{side box
| text = "ในคำสั่งของท่านไรชส์ฟือเรอร์-เอ็สเอ็ส, ถิ่นที่อยู่อาศัยโดยปราศจากเอกสารประจำตัวที่เป็นการยืนยันถึงความเป็นเจ้าของจะมีโทษถึงประหารชีวิต."<br><center>– ไฮดริช, พฤศจิกายน ค.ศ. 1939<ref name="Götz, Roth et al. 2004"/></center>
| text = "By order of the Reichsführer-SS, residency without possession of an identification card is punishable by death."<br><center>– Heydrich, November 1939<ref name="Götz, Roth et al. 2004"/></center>
}}