ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ไรน์ฮาร์ท ไฮดริช"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Matable (คุย | ส่วนร่วม)
Matable (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 118:
 
=== การกวาดล้างกองทัพแดง ===
ในช่วงปลายปี ค.ศ. 1936 ไฮดริชได้รับรู้ว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของโซเวียตกำลังวางแผนในการโค่นล้ม[[โจเซฟ สตาลิน]] เมื่อสัมผัสได้ถึงโอกาสที่จะเข้าโจมตีทำลายล้างได้ทั้งกองทัพบกโซเวียตและ[[วิลเฮ็ล์ม คานาริส|พลเรือเอกคานาริส]] จาก[[อัพแวร์|หน่วยอัพแวร์]](หน่วยข่าวกรอง) ของเยอรมนี ไฮดริชจึงตัดสินใจว่า เหล่าเจ้าหน้าที่นายทหารของโซเวียตพวกนี้สมควรที่จะถูก"เปิดโปง" เขาได้หารือเรื่องนี้กับฮิมเลอร์ และทั้งสองก็ได้นำเรื่องนี้ไปให้ฮิตเลอร์สนใจ ฮิตเลอร์ได้อนุมัติแผนการของไฮดริชในปฏิบัติการทันที แต่"ข้อมูล" ที่ไฮดริชได้รับมานั้น แท้จริงแล้วเป็นข้อมูลเท็จซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยสตาลินตัวเขาเอง ในความพยายามที่จะดำเนินแผนการการกวาดล้างกองบัญชาการระดับสูงของ[[กองทัพแดง]]เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฏหมาย สตาลินได้ออกคำสั่งให้หนึ่งในเจ้าหน้าที่หน่วยเอ็นเควีดีที่ดีที่สุดของเขาคือ นายพล [[นิโคไล สโกบลิน]] ในการส่งข้อมูลเท็จไปยังไฮดริชที่ได้ระบุว่า จอมพล [[มีคาอิล ตูคาเชฟสกี]] และนายพลโซเวียตคนอื่น ๆ กำลังวางแผนต่อต้านสตาลิน{{sfn|Blandford|2001|p=112}}
 
เอกสารและจดหมายปลอมแปลงจากหน่วยเอ็สเดของไฮดริช ที่เกี่ยวข้องกับตูคาเชฟสกีและผู้บัญชาการแห่งกองทัพแดงคนอื่น ๆ พัสดุได้ถูกส่งไปยังหน่วยเอ็นเควีดี{{sfn|Williams|2001|p=85}} [[การกวาดล้างใหญ่|การกวาดล้างครั้งใหญ่]]ต่อกองทัพแดงเป็นไปตามคำสั่งของสตาลิน ในขณะที่ไฮดริชหลงเชื่อว่าพวกเขาสามารถหลอกสตาลินได้สำเร็จในการประหารชีวิตหรือทำการปลดออกจากตำแหน่งแก่เหล่าเจ้าหน้าที่นายทหารของเขาจำนวน 35,000 นาย การให้ความสำคัญถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องการคาดเดาของไฮดริช{{sfn|Williams|2001|p=88}} ฝ่ายอัยการทางทหารของโซเวียตไม่ได้ใช้เอกสารปลอมแปลงจากหน่วยเอ็สเดในการพิจารณาคดีอย่างลับ ๆ พวกเขากลับพึ่งพาคำรับสารภาพที่เป็นเท็จจากการถูกบีบบังคับหรือเฆี่ยนตีจากจำเลยแทน{{sfn|Conquest|2008|pp=200–202}}
 
=== กฤษฏีกาค่ำคืนและสายหมอก ===
ในช่วงปลาย 1940 กองทัพเยอรมันได้เข้ารุกรานพื้นที่ส่วนใหญ่ของยุโรปตะวันตก ในปีต่อมา หน่วยเอ็สเดของไฮดริชได้รับมอบหมายหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฤษฏีกากฤษฏีกา[[ค่ำคืนและสายหมอก]] ('''นัคท์ อุนท์ เนเบิล'''){{sfn|Bracher|1970|p=418}} ตามที่กฤษฏีกาได้ระบุไว้ว่า "บุคคลที่ภัยต่อความมั่นคงของเยอรมัน" จะต้องถูกจับกุมด้วยวิธีที่รอบคอบสุขุมมากที่สุด: "ภายใต้ค่ำคืนอันมืดมิดและสายหมอก" ผู้คนได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยโดยไม่มีใครสามารถรับรู้ถึงที่อยู่หรือชะตากรรมของพวกเขา สำหรับนักโทษแต่ละคน หน่วยเอ็สเดจะต้องกรอกแบบสอบถามที่ระบุถึงข้อมูลส่วนตัว ประเทศต้นกำเนิด และข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการก่ออาชญากรรมต่อไรช์ แบบสอบถามฉบับนี้จะถูกใส่ไว้ในซองที่ถูกประทับตราที่เขียนว่า "นัคท์ อุนท์ เนเบิล" และส่งไปยังกรมการใหญ่ความมั่นคงไรช์(RSHA) ใน[[SS Main Economic and Administrative Office|กรมการใหญ่เศรษฐการและอำนวยการ]](WVHA) "แฟ้มผู้ต้องขังส่วนกลาง" ซึ่งเป็นแฟ้มข้อมูลค่ายกักกันหลายแห่ง ผู้ต้องขังเหล่านี้จะได้รับรหัส "นักโทษลับ" เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งจะแตกต่างจากรหัสสำหรับเชลยศึก อาชญากร ชาวยิว ยิปซี เป็นต้น กฤษฏีกาฉบับนี้ยังคงมีผลบังคับใช้ ภายหลังจากการเสียชีวิตของไฮดริช จำนวนที่แน่นอนของผู้คนที่สูญหายภายใต้ที่ไคยมีการจัดตั้งขึ้นในเชิงบวก แต่คาดการณ์ว่ามีจำนวนประมาณ 7,000 คน<ref name="ushmm Night And Fog Decree" />
 
=== นโยบายต่อต้านชาวโปแลนด์ ===
ไฮดริชได้ก่อตั้งหน่วย "Zentralstelle IIP Polen" ของเกสตาโพในคำสั่งเพื่อประสานงานร่วมกันในการกวาดล้างชาติพันธ์ชาวโปแลนด์ใน "[[ปฏิบัติการทันเนนแบร์ก]]" และ[[อินเทลลิเกนซักติออน]] (Intelligenzaktion)<ref>{{cite journal|author=Piotr Semków, [[IPN Gdańsk]]|date=September 2006|title=Kolebka (Cradle)|url=http://www.sierpien1980.pl/download/10/15909/biuletyn8-967-68.pdf|journal=IPN Bulletin No. 8–9 (67–68), 152 Pages|location=Warsaw|publisher=[[Institute of National Remembrance]]|at=42–50 (44–51/152 in PDF)|issn=1641-9561|access-date=8 November 2015|via=direct download: 3.44 MB}}</ref> สองรหัสนามสำหรับปฏิบัติการในการกำจัดที่มุ่งเป้าหมายไปที่[[ชาวโปแลนด์]]ในช่วงการยึดครองโปแลนด์ของเยอรมัน<ref>{{cite book|last1=Levene|first1=Mark|title=Annihilation: Volume II: The European Rimlands 1939-1953|date=2013|publisher=OUP Oxford|isbn=978-0191505553|page=28}}</ref><ref>{{cite book|last1=Pakulski|first1=Jan|title=Violence and the state|date=2015|publisher=Oxford University Press|isbn=978-1784996543}}</ref> ท่ามกลางผู้คน 100,000 คนล้วนถูกสังหารในปฏิบัติการอินเทลลิเกนซักติออนใน ค.ศ. 1939-1940 มีจำนวนประมาณ 61,000 คนซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มปัญญาชนชาวโปแลนด์: นักวิชาการ นักบวช อดีตเจ้าหน้าที่ และอื่น ๆ ที่ถูกระบุโดยเยอรมันว่าเป็นเป้าหมายทางการเมืองใน[[หนังสือดำเนินคดีพิเศษ-โปแลนด์]] ซึ่งได้ถูกรวบรวมไว้ในช่วงก่อนสงครามจะเริ่มต้นขึ้นในเดือนกันยายน ค.ศ. 1939<ref>Dr. Jan Moor-Jankowski, [http://www.pacwashmetrodiv.org/events/holoc04/moor-jankowski.htm Holocaust of Non-Jewish Poles During WWII.] {{Webarchive|url=https://web.archive.org/web/20160516004415/http://www.pacwashmetrodiv.org/events/holoc04/moor-jankowski.htm|date=16 May 2016}} Polish American Congress, Washington.</ref>
 
=== การเข้ามารักษาการณ์ในตำแหน่งผู้ว่าการรัฐไรช์แห่งรัฐในอารักขาโบฮีเมียและมอเรเวีย ===