ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แดร์ริงเด็สนีเบอลุงเงิน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Setawut (คุย | ส่วนร่วม)
Setawut (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 2:
'''''แดร์ริงเด็สนีเบอลุงเงิน''''' ({{lang-de|Der Ring des Nibelungen}}) หรือ '''''แหวนของนีเบอลุง''''' เป็น[[ปกรณัมชุด]]ของ[[ริชชาร์ท วากเนอร์]] [[คีตกวี]]ชาวเยอรมันซึ่งใช้เวลาประพันธ์ยาวนาถึง 26 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 1848 จนถึง 1874 โดยมีเค้าโครงเรื่องมาจาก[[ตำนานเทพเจ้านอร์ส|เทวตำนานนอร์ส]]และมหากาพย์ ''[[นีเบอลุงเงินลีท]]''
 
วากเนอร์แต่งอุปรากรเรื่องนี้ขึ้นมาด้วยความมั่นหมายให้เป็น "สมบูรณศิลปกรรม" ({{lang|de|Gesamtkunstwerk}}) หมายถึงเป็นศิลปกรรมที่มีความสมบูรณ์แบบเบ็ดเสร็จในทุกด้าน ความมุ่งหมายของเขาประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม ''แหวนของนีเบอลุง'' ไม่เพียงเป็นอุปรากรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเยอรมัน แต่ยังเป็นอุปรากรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกจนได้รับยกย่องเป็น "มหาอุปรากร" ({{lang|de|Großoper}}) ซึ่งประกอบด้วยสี่ภาค

อุปรากรเรื่องนี้ต้องใช้ระยะเวลาแสดงกว่าสิบห้าชั่วโมง 15 ชั่วโมงประกอบด้วยสี่ภาค ผู้แต่งระบุว่าประกอบด้วยเป็นบุพภาคนำ และไตรภาค อันได้แก่:
* ''Das Rheingold'' (''ขุมทองแม่น้ำไรน์'')
เส้น 62 ⟶ 64:
 
==เนื้อเรื่อง==
===ภาคนำบุพภาค: ''ขุมทองแม่น้ำไรน์''===
[[ไฟล์:Bühnenbildentwurf Rheingold.JPG|300px|thumb|ฉากคนแคระอัลเบอริชบังเอิญเจอนางอัปสร]]
ณ โลกบาดาลก้นแม่น้ำไรน์ ธิดาอัปสรนามว่าโวคลินเดอ ({{lang|de|Woglinde}}), เว็ลกุนเดอ ({{lang|de|Wellgunde}}) และฟลอสฮิลเดอ ({{lang|de|Flosshilde}}) กำลังระบำร่ายรำอย่างสนุกสนาม คนแคระเผ่านีเบอลุงนามว่าอัลเบอริช ({{lang|de|Alberich}}) ปรากฏตัวและพยายามเกี้ยวพาราสีพวกหล่อน พวกธิดาอัปสรดูถูกรูปร่างหน้าตาของอัลเบอริช อัลเบอริชโกรธจึงวิ่งไล่ตาม ท้ายที่สุดพวกธิดาอัปสรก็หายตัวไป อัลเบอริชหยุดพักด้วยความเหนื่อยล้า เมื่อตกกลางคืน เขาสังเกตเห็นแสงอร่าม เมื่อเดินไปสำรวจก็พบทองคำและกลุ่มธิดาอัปสร อัลเบอริชจึงสอบถาม พวกธิดาอัปสรอธิบายว่านี่เป็นทองคำที่เสด็จพ่อให้พวกหล่อนเฝ้ายาม เพราะมันสามารถนำไปหลอมทำเครื่องประดับที่มีอำนาจครองภิภพ แต่ผู้ที่จะหลอมสำเร็จต้องเป็นคนที่ละทิ้งความรัก พวกพวกธิดาอัปสรบอกว่าไม่มีอะไรต้องกลัวต่อให้บอกความจริงกับคนแคระหื่นกามอย่างอัลเบอริช อัลเบอริชได้ยินดังนั้นจึงปฏิเสธความรัก และตัดสินใจขโมยทองคำ
เส้น 74 ⟶ 76:
ทองคำที่ยึดมา ไม่สามารถปิดบังรัศมีของไฟรอาจนมิดชิด เหลือแต่เพียงช่องว่างขนาดเท่าดวงตา ยักษ์ฟาฟเนอร์เห็นแหวนที่นิ้วของจอมเทพ จึงเรียกร้องจะเอาแหวน จอมเทพจึงยอมมอบแหวนให้แก่ฟาฟเนอร์ พวกยักษ์ปล่อยตัวประกันและเริ่มแบ่งสมบัติ แต่แบ่งไม่ลงตัว ฟาฟเนอร์จึงทุบฟาโซลท์จนตาย และใช้หมวกทาร์นเฮล์มแปลงกายเป็นมังกรและคุ้มครองสมบัติกับแหวนอยู่ในป่าลึก
 
===ปฐมภาคหนึ่ง: ''ธิดาวัลคือเรอ''===
ชายแปลกหน้าหลบพายุเข้ามาในกระท่อมหลังหนึ่งใกล้ต้นไม้ยักษ์ในสภาพไร้อาวุธและบาดเจ็บเกินจะไปต่อ เขาพบกับซีคลินเดอ ({{lang|de|Sieglinde}}) นางแนะนำตัวว่าเป็นภริยาของชายที่ชื่อฮุนดิง ({{lang|de|Hunding}}) ทั้งสองเริ่มมีความสนใจต่อกัน แต่ก็ถูกขัดจังหวะโดยสามีของนางที่ชื่อฮุนดิง ฮุนดิงเห็นชายแปลกหน้าสวมใส่เสื้อคลุมขนหมาป่า จึงต้อนรับอย่างดิบดีโดยเรียกว่า "พ่อหนุ่มหมาป่า"
 
เส้น 88 ⟶ 90:
เหล่าวัลคือเรอรวมตัวบนยอดเขา แต่ละนางอุ้มร่างไร้ลมหายใจของวีรุบุรษ บรึนฮิลเดอมาถึงพร้อมกับซีคลินเดอและร้องขอความช่วยเหลือจากเหล่าพี่น้อง แต่ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งจอมเทพ ซีคลินเดอกล่าวว่าถ้าไม่มีซีคมุนด์ นางก็ไม่อยากมีชีวิตต่อ บรึนฮิลเดอแจ้งว่าซีคลินเดอตั้งท้องกับซีคมุนด์ ขอให้นางมีชีวิตต่อเพื่อเห็นแก่เด็ก และขอให้ตั้งชื่อเด็กว่าซีคฟรีท ({{lang|de|Siegfried}}) บรึนฮิลเดอมอบเศษซากดาบโนทุงให้แก่นาง เมื่อซีคลินเดอจากไป จอมเทพก็เดินทางมาถึงพร้อมความพิโรธ ทรงริบฤทธิ์เดชของบรึนฮิลเดอเป็นเพียงหญิงมนุษย์ธรรมดา นางจะต้องหลับไหลไร้ส่งกำบังอยู่บนภูเขาจนกว่าจะมีบุรุษมาพบนาง แล้วจอมเทพก็บันดาลให้นางหลับไหลอยู่บนหินก้อนหนึ่ง และรับสั่งให้เทพโลเกอเสกเปลวไฟนิรันดร์คลุมรอบร่างของนางไว้
 
===มัชฌิมภาคสอง : ''ซีคฟรีท''===
ในป่าลึกภายในหุบเขา ซีคฟรีทกลับจากการเที่ยวเล่นในป่าพร้อมกับดาบที่ทำพังอีกแล้ว ซีคฟรีทตำหนิคนแคระนามว่ามีเมอ ว่าไม่มีปัญญาทำดาบดีๆ ทั้งสองมีปากเสียง มีเมอตัดพ้อว่าเลี้ยงดูซีคฟรีทมาตั้งแต่เกิด ซีคฟรีทไม่เชื่อว่ามีเมอคือพ่อที่แท้จริงของตน เพราะพละกำลังต่างกันลิบลับ จึงเค้นเอาความจริง มีเมอสารภาพว่าเขาพบกับหญิงนามว่าซีคลินเดอในป่า นางคลอดลูกและเสียชีวิต มีเมอจึงเก็บซีคฟรีทมาเลี้ยง มีเมอเอาเศษซากดาบโนทุงมาแสดง ซึ่งเป็นดาบของบิดาที่แท้จริง ซีทฟรีดสั่งให้มีเมอตีดาบโนทุงขึ้นมาใหม่จากเศษซากเดิม แล้วก็โกรธหัวเหวี่ยงออกจากบ้าน มีเมอรู้สึกอับจนหนทาง เขาเก็บบุตรมนุษย์มาเลี้ยงเพื่อหวังให้จัดการมังกร แล้วตนเองจะได้ครอบครองแหวน แต่ตอนนี้ ตนเองกลับไม่มีปัญญาสร้างดาบที่จะใช้ฆ่ามังกร
 
เส้น 102 ⟶ 104:
ซีคฟรีทมาถึงตีนเขาก็พบกับนักพเนจร นักพเนจรถามคำถามชายหนุ่ม ชายหนุ่มไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคือจอมเทพ คิดว่าเป็นชายแก่ธรรมดาจึงตอบกลับอย่างโอหัง นักพเนจรขวางซีคฟรีทจึงเกิดการต่อสู้กัน ซีคฟรีทใช้ดาบโนทุงทำลายหอกของนักพเนจร(เล่มเดียวกับที่เคยทำลายดาบโนทุง)จนแตกเป็นเสี่ยงๆ นักพเนจรเห็นดังนั้นก็เข้าใจว่ายุคแห่งการปกครองโดยทวยเทพสิ้นสุดแล้ว จึงเก็บเศษซากหอกและจากไปโดยสงบ ซีคฟรีทมาถึงยอดเขาและพบคนในชุดเกราะนอนหลับไหลอยู่ ชายหนุ่มไม่เคยเห็นสตรีมาก่อนจึงเข้าใจว่าคนในชุดเกราะเป็นผู้ชาย เมื่อเขาถอดชุดเกราะของอีกฝ่ายออก ความงดงามของบรึนฮิลเดอก็ทำให้เขาตกตะลึง ชายหนุ่มคิดว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ชายที่งดงามอะไรเช่นนี้ ชายหนุ่มจุมพิตอีกฝ่ายเพื่อปลุกจากนิทรา ในตอนแรกนางปฏิเสธรักจากซีคฟรีท เพราะความรักกับมนุษย์จะทำให้ความเป็นอมตะของเธอสิ้นสุดลง แต่สุดท้าย เธอก็ยอมรับรักจากซีคฟรีท และครองรักกันอย่างมีความสุข
 
===ภาคสามปัจฉิมภาค: ''เทวาอัสดง''===
ซีคฟรีทได้ครองรักกับบรึนฮิลเดออย่างมีความสุข วันหนึ่งซีคฟรีทต้องการออกไปผจญโลกภายนอก จึงร่ำลาภรรยาและสัญญาว่าจะรักนางเพียงผู้เดียว พร้อมสวมแหวนวิเศษให้นางเป็นของดูต่างหน้า แล้วจึงออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ