ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เจ้าพระตา"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
|||
บรรทัด 1:
{{ต้องการอ้างอิง}}
{{กล่องข้อมูล เชื้อพระวงศ์|name=พระวรราชปิตา|สีพิเศษ=#ffcc00|สีอักษร=#8f5f12|ภาพ=ไฟล์:เจ้าพระตา.jpg|พระนามาภิไธย=|พระปรมาภิไธย=พระวรราชปิตา|ประสูติ= พ.ศ. 2236|วันพิราลัย=[[พ.ศ. 2314]]|พระอิสริยยศ=เจ้าผู้ครองนคร|พระบิดา=เจ้าอุปราชนอง|พระมารดา=พระราชนัดดาของพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราช|พระมเหสี=พระนางบุศดีเทวี|พระราชโอรส และพระราชธิดา=10 พระองค์|ราชวงศ์=[[ราชวงศ์สุวรรณปางคำ|แสนทิพย์นาบัว]]|ทรงราชย์=พ.ศ. 2311|พิธีบรมราชาภิเษก=|ระยะเวลาครองราชย์=3 ปี|รัชกาลก่อนหน้า=[[เจ้าปางคำ|เจ้านอง]]|รัชกาลถัดมา=[[เจ้าพระวอ|พระวรราชภักดี]]}}
'''เจ้าพระตา หรือ พระวรราชปิตา''' (พ.ศ. 2236-2314) เป็นเจ้าผู้ครอง[[นครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน]] ([[หนองบัวลำภู]]) พระองค์ที่ 2 ([[พ.ศ. 2311|พ.ศ. 2311]]-[[พ.ศ. 2314|พ.ศ. 2314]]) เป็นพระราชโอรสในเจ้าอุปราชนอง ([[เจ้าปางคำ|เจ้านอง]]) ปฐมผู้ปกครองเมืองนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน อันสืบมาแต่สาย[[ราชวงศ์สุวรรณปางคำ|ราชวงศ์แสนทิพย์นาบัว]] สืบมา
== ประวัติ ==
บรรทัด 19:
== ศึกชิงราชบัลลังก์นครเวียงจันทน์ ==
ในปี พ.ศ. 2238 พระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราชสวรรคต ไม่มีผู้สืบราชสมบัติอย่างชัดเจน มีแต่พระราชนัดดาที่ทรงพระเยาว์ ทำให้เกิดความปั่นป่วนและศึกแย่งชิงเชื้อพระวงศ์มาเป็นพวกตน บางพระองค์ได้หลบหนีออกนอกราชอาณาจักร การแย่งชิงราชสมบัติหลังการสวรรคตของพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราชจึงเป็นชนวนเหตุการนำไปสู่การแบ่งแยกอาณาจักรล้านช้างอันเข้มแข็ง และยิ่งใหญ่ ออกเป็น 3 อาณาจักรเล็กอันอ่อนแอในที่สุด และพระยาเมืองแสนอัครมหาเสนาบดี ได้เข้ายึดราชบัลลังก์พร้อมสถาปนาตนขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์อาณาจักรล้านช้าง พระองค์ที่ 33 พระนามว่า "พระยาจันทสีหราช (เมืองแสน)" ขณะนั้นเจ้าองค์บุญ พระราชโอรสของ[[เจ้าองค์ลอง]] และเป็นหลานของ[[พระไชยเชษฐาธิราชที่ 2]] (พระเจ้าไชยองค์เว้) จึงได้หนีราชภัยสงครามมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารเจ้าอุปราชนองผู้เป็นญาติใกล้ชิด เนื่องจากเจ้าอุปราชนองเป็นพระอนุชาร่วมมารดากับเจ้าไชยองค์เว้
ในปี พ.ศ. 2273 พระไชยเชษฐาธิราชที่ 2 (พระเจ้าไชยองค์เว้) เสด็จสวรรคต เจ้าองค์ลองซึ่งเป็นพระราชโอรสจึงเสวยราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์อาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ พระองค์ที่ 2 ซึ่งมีพระราชโอรสคือ เจ้าองค์บุญ อาศัยอยู่ที่หนองบัวลุ่มภู และในปี พ.ศ. 2283 เจ้าองค์ลองสวรรคต [[เจ้าอุปราชนอง]] พระบิดาของพระวอ-พระตา ยึดอำนาจจากเจ้าองค์ลอง
ปี พ.ศ. 2294 เจ้าองค์บุญมีความประสงค์จะได้ราชบัลลังก์นครเวียงจันทน์โดยอ้างสิทธิเป็นพระราชโอรสของเจ้าองค์ลอง และพระราชนัดดาของพระเจ้าไชยองค์เว้ ซึ่งพระตา และพระวอ จึงได้ยกกองกำลังร่วมต่อต้านพระบิดาของตน หนองบัวลุ่มภูเข้าช่วงชิงราชบัลลังก์จากเจ้าอุปราชนอง พระมหากษัตริย์อาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ พระองค์ที่ 3 จนสำเร็จ แล้วปราบดาภิเษกเจ้าองค์บุญขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ครองอาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์ พระองค์ที่ 4 พระนามว่า [[พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่ 3]] หรือ พระเจ้าสิริบุญสาร และพระเจ้าสิริบุญสารได้ให้พระตา และพระวอดูแลรักษาบ้านหินโงมอีกด้วย แต่หาได้เป็นเสนาบดีในราชสำนักนครเวียงจันทน์ไม่ ดังปรากฏในพงศาวดารหัวเมืองมณฑลอีสาณของหม่อมอมรวงษ์วิจิตร ความว่า ''"จุลศักราช ๑๑๒๙ ปีกุญนพศก พระเจ้าองค์หล่อผู้ครองกรุงศรีสัตนาคนหุตถึงแก่พิราไลย หามีโอรสที่จะสืบตระกูลไม่ แสนท้าวพระยาแลนายวอ นายตา จึ่งได้พร้อมกันเชิญกุมารสองคน ซึ่งเปนเชื้อวงษ์พระเจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุตคนเก่า อันได้หนีไปอยู่กับนายวอ นายตา เมื่อพระเจ้าองค์หล่อยกกำลังมาจับพระยาเมืองแสนฆ่านั้น ขึ้นครองกรุงศรีสัตนาคนหุต "''
บรรทัด 31:
== ครองเมือง ==
ปี พ.ศ. 2283 เมื่อพระตามาถึงหนองบัวลุ่มภู ก็ขึ้นครองเมืองเป็นเจ้าผู้ครองเมืองนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน พระองค์ที่ 2
== สงครามนครเวียงจันทน์ ==
|