ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โรเบิร์ต เรดฟอร์ด"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Stelios (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
Stelios (คุย | ส่วนร่วม)
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 50:
จนในปี 1959 เขาได้แสดงใน[[ละครบรอดเวย์]] เรื่อง ''Tall Story'' แต่ได้รับบทเล็กๆ แต่ถือเป็นจุดเริ่มต้นทางการแสดง และยังได้ปรากฏตัวตาม[[รายการโทรทัศน์]]หลาย ๆ รายการ และได้แสดงใน[[ภาพยนตร์]]เรื่องแรกคือ ''War Hunt'' (1962) แต่ผลงานที่เริ่มสร้างชื่อให้กับเขาเห็นจะเป็นละครบรอดเวย์ เรื่อง ''Barefoot in the Park'' (1963) ต่อมา โดยในปี 1965 เขาก็ได้แสดง ภาพยนตร์ เรื่อง ''Situation Serious But Not Hopeless'' และเรื่อง ''Inside Daisy Clover'' แล้วตามมาด้วยเรื่อง ''The Chase'' และ ''This Property Is Condemned'' แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เขาได้เดินทางไปยุโรปอีกครั้ง จนต่อมา เขาได้รับข้อเสนอให้แสดงภาพยนตร์เรื่อง ''Barefoot in the Park'' ซึ่งเป็นดัดแปลงจากละครเวทีที่เขาเคยแสดง ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายในปี 1967 และได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก
 
โรเบิร์ต เรดฟอร์ดเคยต้องขึ้น[[ศาล]] ที่ไม่ทำตามสัญญา ไม่ยอมแสดงภาพยนตร์เรื่อง ''The[[เดอะแกรดูเอท Graduateพิษรักแรงสวาท]]'' และ ''Rosemary’s Baby'' แต่กลับ ไปแสดงเรื่อง Blue แทน จนถูกฟ้องร้องเป็นเรื่องเป็นราว แต่ต่อมาเขาได้รับบบท คิด ใน ''Butch Cassidy and the Sundance Kid'' ในปี 1969 ซึ่งนับเป็นความสำเร็จดี ภาพยนตร์ 2 เรื่องต่อมา คือ ''Tell Them Willy Boy Is Here'' และ ''The Downhill Racer'' ก็ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ที่ดี แต่ในปีต่อ ๆ มาเขากลับล้มเหลวอีก จนกระทั่งในปี 1972 ภาพยนตร์เรื่อง ''The Candidate'' และ [[Jeremiah Johnson]] ที่เขาแสดง สามารถทำรายได้ค่อนข้างดี ผลงานเรื่องต่อมา คือ [[The Way We Were]] ทำให้เขากลับมายืนหยัดได้อย่างมั่นคงอีกครั้ง หลังจากนั้น เขายังได้แสดงนำในภาพยนตร์เรื่อง ''The Sting'' ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับ[[รางวัลออสการ์]]ถึงเจ็ดรางวัล รวมทั้งรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วย
 
จากนั้นก็ได้แสดงภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่าง ''The Great Gatsby'', ''The Great Waldo Pepper'' (1975), ''Three Days of the Condor'' (1975), ''All the President’s Men'' (1976) (ซึ่งเป็นเรื่องที่เขาสร้างเอง) และเรื่อง ''A Bridge Too Far'' (1977) หลังจากนั้นเขาหยุดพักไปสองปี และกลับมาอีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง ''The Electric Horseman'' (1979) และ ''Brubaker'' (1980) จนในปี 1980 เขาหันไปจับงานด้านการกำกับ โดยเริ่มต้นจากเรื่อง ''Ordinary People'' ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับ รางวัลออสการ์ไปถึงสี่รางวัล ในปี 1984 เขาแสดงนำในเรื่อง ''The Natural'' แล้วตามด้วยเรื่อง ''[[Out of Africa]]'' ภาพยนตร์ที่กวาดรางวัลออสการ์ไปถึงแปดตัว