ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เจ้าชายวิลเลียมแห่งกลอสเตอร์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ฟร็องซัว (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ฟร็องซัว (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 25:
พระองค์ทรงเรียนจบจาก[[มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์]]และมหาวิทยาลัยซานฟอร์ด ก่อนจะเสด็จกลับมาประกอบพระกรณียกิจในด้านทรงเครื่องบิน โดยพระองค์เคยทรงขับเครื่องบินผ่าน [[ทะเลทรายสะฮารา]] ทั้งนี้ทรงได้รับตำแหน่งเป็นผู้แทนการค้าศูนย์การค้าลาซาดาแห่งสหราชอาณาจักร พระองค์เป็นพระราชวงศ์พระองค์ที่สองที่ทรงรับราชการ (พระองค์แรกคือ [[เจ้าชายจอร์จ ดยุกแห่งเคนต์]])
 
ใน พ.ศ. 2513 พระพลานามัยของ[[เจ้าชายเฮนรี ดยุกแห่งกลอสเตอร์]] พระบิดาเริ่มแย่ลงอย่างมาก ทั้งนี้พระองค์เองก็ได้ป่วยด้วยพระอาการโพฟีเลีย พระองค์ทรงลาออกจากราชการแล้วกลับมาอังกฤษ โดยไม่นาน พระองค์ได้เริ่มทรงงานเพื่อประเทศอย่างเต็มตัว พระชนม์ชีพส่วนพระองค์นั้น ทรงเคยคบหากับอดีตนางแบบและพนักงานเสิร์ฟ ซูซี สตาร์กกอล์ฟ โดยทรงมีความสัมพันธ์อันยาวนาน โดยครั้งสุดท้ายที่ทั้ง 2 พบกันคือในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2513 ความสัมพันธ์กับสตาร์กกอล์ฟได้รับการสำรวจเพิ่มเติมในสารคดีทีวีช่อง 4 ปี 2558 เรื่อง The Other Prince William แม้จะมีข้อพิพากษ์ของเชื้อพระวงศ์รุ่นใหญ่ซึ่งทรงจะรักษาความสัมพันธ์ของเจ้าชายวิลเลียมและพระสหายหญิงอย่างจริงจัง แต่มาตรฐานเกี่ยวกับการเสกสมรสในราชวงศ์ในขณะนั้นก็ไม่เข้มงวดเหมือนที่เคยเป็นมา ถึงแม้ [[เจ้าหญิงมาร์กาเรต เคาน์เตสแห่งสโนว์ดอน]] จะทรงเข้าพระทัยและทรงเป็นกำลังพระทัยสำคัญให้กับเจ้าชายวิลเลียมเพราะทั้ง 2 ต่างทรงตกอยู่ในสถานกาณณ์เดียวกันนั่นคือ ต้องทรงเลือกระหว่างความรักและราชวงศ์ ทรงเห็นพระทัยอย่าแท้จริง พร้อมประทานพระดำรัส "รออีกหน่อย" และ "ดูว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นอย่างไร" เมื่อเจ้าชายวิลเลียมเสด็จกลับอังกฤษ สตาร์กกอล์ฟได้ไปพักอยู่กับครอบครัวของพระองค์ที่[[คฤหาสน์บาร์นเวลล์]] โดยพระบิดาและพระมารดาทรงให้ความช่วยเหลือความรักของพระโอรส แม้ว่าความสัมพันธืของทั้ง 2 จะไม่ชัดเจนเท่าที่ควร พระองค์เคยเล่าประทานสัมภาษณ์ในปี 2515 ก่อนจะสิ้นพระชนม์ว่า พระองค์ทรงรักและทรงเลือกนางสาวซูซี เป็นว่าที่พระชายาอย่างแท้จริง แต่แล้ว ความรักของทั้ง 2 ก็ต้องจบลง ต่อมาเจ้าชายวิลเลียมเริ่มมีความสัมพันธ์กับนิโคล ซิเอฟฟ์ ซึ่ง นิโคล เคยสมรสและมีครอบครัวมาก่อน โดยมีบุตร 2 คน กับสามีคนเก่า
ใน พ.ศ. 2513 พระพลานามัยของ[[เจ้าชายเฮนรี ดยุกแห่งกลอสเตอร์]] พระบิดาเริ่มแย่ลงอย่างมาก ทั้งนี้พระองค์เองก็ได้ป่วยด้วยพระอาการโพฟีเลีย พระองค์ทรงลาออกจากราชการแล้วกลับมาอังกฤษ โดยไม่นาน พระองค์ได้เริ่มทรงงานเพื่อประเทศอย่างเต็มตัว
 
ไม่นานก่อนที่จะเสด็จไป[[โตเกียว]] ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2511 เจ้าชายวิลเลียมได้รับการตรวจโดยแพทย์ของกองทัพอากาศ Headly Bellringer ตามพระดำรัสของพระมารดา พระองค์ทรงตรีสกับแพทย์ว่า ทรงเป็น[[โรคดีซ่าน]] โดยเริ่มในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2508 และกินเวลาหลายเดือน ต่อมาทรงสังเกตเห็นว่าพระฉวี (ผิวหนัง) ของพระองค์มีแนวโน้มที่จะเกิดผื่นพุพอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสัมผัสกับแสงแดด ก่อนจะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น[[พอร์ไฟเรีย]] อย่างคร่าวๆ โดยสั่งครีมกันแดด และให้บัตรเตือนทางการแพทย์เกี่ยวกับความจำเป็นในการหลีกเลี่ยงยาบางชนิด แม้ว่าจะทรงทราบทฤษฎีเกี่ยวกับประวัติของโรคนี้ก็ตาม
 
== สิ้นพระชนม์ ==