ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อำเภอวาริชภูมิ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Billner2009 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
InternetArchiveBot (คุย | ส่วนร่วม)
Rescuing 0 sources and tagging 1 as dead.) #IABot (v2.0.8.1
บรรทัด 19:
 
== ประวัติ ==
เมื่อปี พ.ศ. 2387 ชาวภูไทเมืองกะป๋อง ( เมืองเซโปน [[ประเทศลาว|สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว]] ) ประมาณ 400 ครัวเรือน ได้อพยพข้ามแม่น้ำโขงเข้ามายังประเทศ[[สยาม]] โดยมี ท้าวราชนิกูล บุตรของท้าวคำผง เจ้าเมืองกะป๋อง เป็นผู้นำในการอพยพครั้งนั้น ขบวนผู้อพยพได้เดินทาง พักแรม ผ่านเขตเมือง[[จังหวัดนครพนม|นครพนม]] [[จังหวัดสกลนคร|สกลนคร]] จนกระทั่งปี พ.ศ. 2390 ท้าวราชนิกูลและชาวภูไทกะป๋อง ได้ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านหนองหอย ( อำเภอวาริชภูมิในปัจจุบัน ) เนื่องจากเห็นว่าเป็นทำเลที่ดี มี กุ้ง หอย ปู ปลา แหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์ ในปี พ.ศ. 2430 ท้าวราชนิกูล ได้ถึงแก่กรรมลง ท้าวสุพรม ผู้เป็นบุตรชาย ได้เดินทางไปยัง[[กรุงเทพมหานคร]] เพื่อเข้าเฝ้า[[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] รัชกาลที่ 5 และขอจัดตั้งเมืองวาริชภูมิ ทางการ[[สยาม]] จึงได้สืบประวัติ สอบถามเรื่องราวเกี่ยวกับตระกูลของท้าวสุพรม ไปยังเจ้าเมืองต่าง ๆ ในหัวเมืองลาวฝ่ายเหนือ ทั้งจากบันทึก และคำบอกเล่า จนสามารถยืนยันได้ว่าตะกูลของท้าวสุพรม เคยเป็นเจ้าเมืองมาก่อนเมื่อครั้งอยู่ฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง [[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] จึงโปรดเกล้า ฯ พระราชทานยศ[[บรรดาศักดิ์ไทย|บรรดาศักดฺ์]] แต่งตั้งให้ ท้าวสุพรม เป็น " รองอำมาตย์เอก[[พระสุรินทรบริรักษ์]] " ดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองวาริชภูมิ<ref>http://husojournal.ksu.ac.th/manage/upload_file/6NlHoDQCci520131128223818.pdf{{ลิงก์เสีย|date=ตุลาคม 2021 |bot=InternetArchiveBot |fix-attempted=yes }} มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ วารสารวิถีสังคมมนุษย์ ปีที่ 1 ฉบับพิเศษ เดือนมกราคม - มิถุนายน พ.ศ. 2556 : " ภูไทกะป๋อง " ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของกลุ่มชาติพันธ์ภูไทในลุ่มน้ำโขงตอนกลาง , ดร.สพสันติ์ เพชรคำ</ref>
 
ในช่วงระยะแรกของเมืองวาริชภูมิ การทำราชการต่าง ๆ จะขึ้นกับ[[เมืองหนองหาน]] แต่เกิดกรณีพิพาทเขตแดนระหว่างเมืองหนองหาน กับเมือง[[สกลนคร]]อยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งในที่สุด ปี พ.ศ. 2435 พลตรี พระเจ้าบรมวงษ์เธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ [[พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม|กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม]] ผู้สำเร็จราชการหัวเมืองลาวฝ่ายเหนือ มีคำสั่งให้โอนการทำราชการของเมืองวาริชภูมิไปขึ้นกับเมือง[[สกลนคร]] แต่ให้กรมการเมืองวาริชภูมิยังคงตำแหน่งเดิมทุกคน และในปี พ.ศ. 2441 มีพระราชโองการประกาศใช้ข้อบังคับท้องที่ ร.ศ.117 ให้ยกเลิกตำแหน่ง อุปฮาด ราชบุตร ราชวงษ์ ซึ่งเป็นตำแหน่งเดิมแบบ[[อาณาจักรล้านช้าง]]โบราณ มาเป็นตำแหน่งข้าราชการเช่นเดียวกับส่วนกลางทั่วประเทศ ในครั้งนั้น คณะกรมการเมืองวาริชภูมิ ประกอบด้วย [[พระสุรินทรบริรักษ์]] ( สุพรม เหมะธุลิน ) ผู้ว่าราชการเมือง, หลวงสมัครวาริชกิจ ( หล้า ) ปลัดเมือง, หลวงสฤษฎ์วาริชการ ( พิมพ์ ) ศาลเมือง ( ยกกระบัตรเมือง ), ขุนสมานวาริชภูมิ ( คำตัน ) ศาลเมือง ( ยกกระบัตรเมือง ), ขุนราชมหาดไทย ( เคน ) มหาดไทย, ขุนบริบาล (วันทอง ) นครบาล, ขุนพรหมสุวรรณ ( เพชร ) คลังเมือง และขุนศรีสุริยวงศ์ ( บุตร ) โยธาเมือง<ref>https://www.facebook.com/KrmKarmeuxngSwangdaendin/posts/524117240978302<nowiki/>กรมการเมืองสว่างแดนดิน พระสุรินทรบริรักษ์ , ธวัช ปุณโณทก เรียบเรียง</ref>