ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กิมจิ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
InternetArchiveBot (คุย | ส่วนร่วม)
Rescuing 2 sources and tagging 0 as dead.) #IABot (v2.0.8
YURi (คุย | ส่วนร่วม)
นำการอ้างอิงวิกิฯ ด้วยกันออก
บรรทัด 1:
[[ไฟล์:Korean Gimchi01.jpg|thumb|200px|กิมจิผักกาดขาว]]
 
'''กิมจิ'''<ref>พจนานุกรมคำใหม่ เล่ม ๑ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน.{{ต้องการอ้างอิงเต็ม}}</ref> ({{เกาหลี|김치|MC2000=gimchi|MR=kimch'i}} ''คิมชี'') มีข้อสันนิษฐานกันว่าน่าจะเพี้ยนมาจากคำว่า "ชิมเช" ({{เกาหลี|침채|ฮันจา=沈菜|MC2000=chimchae|MR=ch'imch'ae}}) ที่แปลว่าผักดองเค็ม กิมจิเป็น[[อาหารเกาหลี]]ประเภทผักดองที่อาศัยภูมิปัญญาก้นครัวของชาว[[เกาหลี]] ด้วยการหมัก[[พริก]]สีแดงและผักต่าง ๆ โดยทั่วไปจะเป็น[[ผักกาดขาว]] ชาวเกาหลีนิยมรับประทานกิมจิเกือบทุกมื้อ และยังนำไปปรุงเป็นส่วนประกอบอาหารอีกหลายอย่าง เช่น ข้าวต้ม ข้าวสวย ซุป ข้าวผัด สตู บะหมี่ จนถึงพิซซาและเบอร์เกอร์ ปัจจุบันกิมจิมีมากกว่า 187 ชนิด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีรสเผ็ด เปรี้ยว และมีกลิ่นฉุน แม้ปัจจุบันมีบริษัทอาหารผลิตกิมจิสำเร็จรูปหรือแบบสดขายตาม[[ห้างสรรพสินค้า]]ก็ตาม แต่ชาวเกาหลีก็ยังนิยมทำกิมจิกินเองที่บ้านใส่เกลือ พริก
'''กิมจิ'''<ref name=":0" /><ref name=":0">พจนานุกรมคำใหม่ เล่ม ๑ ฉบับราชบัณฑิตยสถาน.</ref> ''(คำทับศัพท์ มาจากภาษา{{เกาหลี|김치|MC2000=gimchi|MR=kimch'i}}'' ''คิมชี, (กิมจิ)'' กิมจิ เป็นเครื่องเคียงดั่งเดิมของเกาหลีที่สำคัญซึ่งขาดไม่ได้ในสำรับของชาวเกาหลี<ref>{{Citation|title=Korean cuisine|date=2021-05-31|url=https://en.wikipedia.org/w/index.php?title=Korean_cuisine&oldid=1026122514|work=Wikipedia|language=en|access-date=2021-06-09}}</ref> กิมจิ เป็นเครื่องเคียงประเภทหมักดองผักที่เกิดจากภูมิปัญญาของชาว[[เกาหลี]] ผักที่ใช้ดอง เช่น ผักกาดขาวและหัวไชเท้าเกาหลี หมักด้วยเครื่องปรุงหลากหลายชนิด เช่น พริกป่น ต้นหอม กระเทียม ขิง และจำพวกน้ำปลาหรืออาหารทะเลดอง และอื่นๆ ตามแต่ตำราเฉพาะตัว
 
ชาวเกาหลีนิยมรับประทานกิมจิเกือบทุกมื้อ และยังนำไปปรุงเป็นส่วนประกอบอาหารอีกหลายอย่าง เช่น ข้าวต้ม ข้าวสวย ซุป ข้าวผัด สตู บะหมี่ จนถึงพิซซาและเบอร์เกอร์
[[ไฟล์:Onggi in 1781.JPG|thumb]]
การหมักกิมจิแบบภูมิปัญญาดั่งเดิมของชาวเกาหลีจะหมักกิมจิไว้ในเครื่องเคลือบดินเผาสีน้ำตาลแบบโบราณ (คล้ายไหหรือโอ่งของไทย) เรียกว่าองกิ (Onggi) แล้วฝังเก็บไว้ใต้ดินเพื่อป้องกันไม่ให้กิมจิแข็งในฤดูหนาวและรักษาความเย็นไว้พอที่จะทำให้กระบวนการหมักช้าลงในช่วงฤดูร้อน ไหหมักกิมจิยังถูกเก็บไว้กลางแจ้งตามระเบียงบ้างที่เรียกว่า จางดกแด (Jangdokdae)<ref>[[ไฟล์:Jangdokdae Gyeongbokgung.JPG|thumb]]
</ref> แต่ในด้วยยุคสมัยใหม่ชาวเกาหลีจะใช้ตู้เย็นกิมจิโดยเฉพาะเพื่อความสะดวกสบายในการใช้มากกว่า
 
ปัจจุบันกิมจิมีมากกว่า 200 ชนิด ซึ่งสามารถแยกประเภทตามวัตถุดิบหลัก มักจะซึ่งเป็นผักต่างๆ แบ่งตามวิธีการหั่น วิธีการเก็บรักษา ส่วนใหญ่แล้วจะมีรสเผ็ด เปรี้ยว และมีกลิ่นฉุน แม้ปัจจุบันมีบริษัทอาหารผลิตกิมจิสำเร็จรูปหรือแบบสดขายตาม[[ห้างสรรพสินค้า]]ก็ตาม แต่ชาวเกาหลีก็ยังนิยมทำกิมจิกินเองที่บ้าน
 
== ประวัติ ==
จากบันทึกทางประวัติศาสตร์ของสามอาณาจักรเกาหลี (แพคเจ ชิลลา และโคกรูยอ) กล่าวถึงไหหมักกินจิ (Onggi<ref>https://en.wikipedia.org/wiki/Onggi</ref>) ว่าเอาไว้ใช้ดองผัก ซึ่งบ่งชี้ถึงกระบวกการถนอมอาหารแบบดองที่คนสมัยนั้นรับประทานเป็นปกติ ในช่วงสมัยอาณาจักรชิลลา (57 BC – AD 935) กิมจิเป็นที่นิยมแพร่หลายไปทั่วประเทศไปพร้อมๆกับพระพุทธศาสนาและยังเป็นที่รู้จักในด้านวิถีชีวิตของมังสวิรัติ
 
แต่ก่อนที่ยังไม่มีตู้เย็น การดองผักถือเป็นภูมิปัญญาดั่งเดิมเพื่อช่วยยืดอายุของอาหารไว้ ในประเทศเกาหลีจะดองผักในฤดูหนาวและฝังลงดินในเครื่องเคลือบดินเผาสีน้ำตาลแบบโบราณ ที่เรียกว่าองกิ (Onggi) ถือเป็นงานของสตรีที่จะรวมตัวกันทำกิมจิภายในครอบครัว ในบทกวีเรื่องหัวไชเท้าเกาหลี เขียนโดย ยีคยูโบ (Yi Gyubo) เป็นวรรกรรมในศตวรรษที่ 13 กล่าวถึงกิมจิหัวไชเท้าเกาหลีเป็นสิ่งที่เห็นได้บ่อยในสมัยโคกรูยอ
 
=== จุดเริ่มต้นของกิมจิ ===
กิมจิเป็นวัฒนธรรมเกาหลี แต่กิมจิดั่งเดิมจะไม่มีรสชาติเผ็ด บันทึกกิมจิในช่วงต้นจะไม่อ้างถึงกระเทียมหรือพริกป่นเลย แต่ก่อนพริกป่นไม่เป็นที่รู้จักในเกาหลีเลยจนกระทั่งถึงต้นศตวรรษที่ 17 จากการเกิดพืชโลกใหม่ พริกซึ่งมีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกา และเป็นที่รู้จักในแทบเอเชียตะวันออกโดยพ่อค้าชาวโปรตุเกส ส่งผลให้ในปัจจุบันพริกป่นกลายเป็นส่วนผสมมาตรฐานในการทำกิมจิไปแล้ว พริกป่นได้ถูกระบุเป็นครั้งแรกในสารานุกรมเกาหลี (Jibong yuseol) ตีพิมพ์ในปี 1614 และหลักฐานหนึ่งคือในในหนัสือ Sallim Gyeongje<ref>https://en.wikipedia.org/wiki/Sallim_gyeongje</ref> เขียนเกี่ยวการใช้ชีวิตและการปลูกพืชในปีศตวรรษที่ 17-18 มีจะระบุถึงกิมจิที่มีส่วนผสมพริกป่น อย่างไรก็ตามจนกระทั่งศตวรรณที่ 19 มีการใช้พริกในกิมจิอย่างแพร่หลายมากขึ้น จากช่วงต้นศตวรรษที่ 19 สูตรการทำกิมจิจะมีความคล้ายคลึงกับกิมจิในปัจจุบันอย่างมาก
มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน{{อ้างอิง}} เป็นอาหารดั้งเดิมของประเทศจีน แต่นิยมรับประทานกันในเกาหลีใต้ แม้แต่การออกเสียงของกิมจิก็มาจากภาษาจีน
 
=== สมัยอาณาจักรโคกรูยอโครยอ ===
มีการค้นพบหลักฐานเกี่ยวกับกิมจิจากตำรายารักษาโรคทางภาคตะวันออกของประเทศที่เรียกว่า "ฮันยักกูกึบบัง" (Hanyakgugeupbang) ในตำรากล่าวถึงกิมจิอยู่ 2 ชนิด ชนิดแรกคือหัวผักกาดฝานเป็นแผ่นดองด้วยซอสถั่วเหลืองเรียกว่า "กิมจิ-จางอาจิ" (Kimchi-jangajji) ชนิดที่สองใช้หัวไชโป๊เรียกว่า "ซุมมู โซกึมชอรี" (Summu Sogeumjeori) เป็นที่เชื่อกันว่าได้มีการปรับปรุงรสชาติของกิมจิให้จัดจ้านขึ้น อีกทั้งเริ่มได้รับความนิยมว่าเป็นอาหารแปรรูปจึงเริ่มมีการทำกิมจิตลอดทั้งปีโดยไม่กำจัดเฉพาะช่วงฤดูหนาวเหมือนก่อน ทั้งสองอย่างนี้เกิดขึ้นในสมัยอาณาจักรโครยอนี้{{อ้างอิง}}
 
เส้น 36 ⟶ 27:
วัตถุดิบในการทำกิมจิโดยทั่วไปแล้วจะเป็น[[ผักกาดขาว]] [[หัวผักกาด]] [[กระเทียม]] [[พริก|พริกแดง]] [[หัวหอมใหญ่]] [[ปลาหมึก]] [[กุ้ง]] [[หอยนางรม]]หรืออาหารทะเลอื่น ๆ [[ขิง]] [[เกลือ]] และ[[น้ำตาล]]
 
กิมจิมีมากมายหลายชนิดจากเอกสารของ[[พิพิธภัณฑ์กิมจิในโซล]] กิมจิมีมากกว่า 187 ชนิดโดยจะแตกต่างกันตามถิ่นและสภาพอากาศ{{อ้างอิง}} ตัวอย่างเช่นกิมจิหัวผักกาด (깍두기, kkakdugi) เป็นหัวผักกาดล้วนไม่มีผักกาดขาวผสม กิมจิแตงกวายัดไส้ (오이소박이오이소배기, oisobagioisobaegi) และกิมจิผักกาดขาวที่ถือว่าเป็นกิมจิที่รู้จักกันมากที่สุดในนานาชาติ ซึ่งจะเป็นการผสมผักกาดขาว พริกแดง กระเทียม ขิง และน้ำซุบจากปลากะตัก (젓갈, jeotgal) เข้าด้วยกันซึ่งผักกาดขาวควรจะเป็นผักกาดขาวจีน จึงจะได้กิมจิที่มีรสชาติดีและจัด หากทำจากผักกาดขาวชนิดอื่นจะทำให้กิมจิมีรสชาติที่อ่อนลง{{อ้างอิง}}
 
== สุขภาพ ==
เส้น 48 ⟶ 39:
== อ้างอิง ==
* นิตยสารชีวจิต ฉบับวันที่1 กันยายน 2549 คอลัมน์ เรื่องพิเศษ อาหารเกาหลี-ญี่ปุ่น...กินตามกระแสหรือกินเพื่อสุขภาพ
* [http://english.tour2korea.com/05food/Introduction/ddt_kimchi01.asp?konum=subm2_1&kosm=m5_1 Korea National Tourism Organization] {{Webarchive|url=https://web.archive.org/web/20061115065559/http://english.tour2korea.com/05food/Introduction/ddt_kimchi01.asp?kosm=m5_1&konum=subm2_1 |date=2006-11-15 }} History and development of Kimchi as Korean food.
{{รายการอ้างอิง}}
 
เส้น 54 ⟶ 45:
{{วิกิตำรา|กิมจิ}}
{{คอมมอนส์|Kimchi}}
* [http://www.kimchi.or.kr/eng/main.jsp Korean traditional Kimchi] {{Webarchive|url=https://web.archive.org/web/20070225135949/http://www.kimchi.or.kr/eng/main.jsp |date=2007-02-25 }}{{en icon}}
* [http://www.kimchimuseum.co.kr/english/exhibition.htm Kimchi Field Museum, Seoul] {{en icon}}
* [http://www.xn--12co8e9cc.com กิมจิ] {{Webarchive|url=https://web.archive.org/web/20110203204925/http://www.xn--12co8e9cc.com/ |date=2011-02-03 }} {{th icon}}
 
[[หมวดหมู่:อาหารเกาหลี]]
เข้าถึงจาก "https://th.wikipedia.org/wiki/กิมจิ"