มนเทียรนี้ถือเป็น[[ลัทธิไวษณพ|ไวษณว]]มนเทียรที่มีสีสันฉูดฉาดและงดงามที่สุดใน[[อินเดียใต้]] มนเทียรนี้ยังมีส่วนสำคัญยิ่งในประวัติของ[[ลัทธิไวษณพ]] เริ่มจากงานของ[[รามนุชารามานุชะ]] และผู้สานต่อที่ชื่อ [[นาฐมุนีนาถมุนี]]และ[[ยมุนาจรรย์จารย์]]ซึ่งมาก่อนหน้าในศรีรังคัม{{sfn|Spencer| 1978| pp=16-19}} สถานที่ตั้งซึ่งอยู่บนเกาะระหว่างแม่น้ำกลลิทัม และ[[แม่น้ำกาเวรี]]<ref name=unescosrirang/> นั้นทำให้ประสบกับอุทกภัยได้ง่าย รวมทั้งทำให้ง่ายต่อการรุกรานและเปลี่ยนเป็นค่ายทหาร{{sfn|Spencer| 1978| pp=14-19}} มนเทียรเคยถูกทำลายและปล้นชิงของมีค่าไปโดยกองทัพของ[[รัฐสุลต่านเดลี]]ซึ่งบุกเข้าโจมตีและทำลายล้าง[[อาณาจักรปันทยะ]] (Pandya) เมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 14 และมนเทียรก็ถูกสร้างขึ้นใหม่อีกในปลายคริสต์ศตวรรษเดียวกัน{{sfn|Hopkins| 2002| pp= 68-69}}{{sfn|Spencer| 1978| pp=19-21, Quote: "It was Malik Kafur's spectacular southern raid of 1310-11 AD which resulted in the initial plundering of the Srirangam, Chidambaram, and other famous temples of the Tamil country."}} มนเทียรได้รับการสร้างให้แข็งแรงขึ้น ป้องกันมากขึ้น และสร้าง[[โคปุรัม]]จำนวนมาก ขยายอาณาเขตของมนเทียรมากในยุคคริสต์ศตวรรษที่ 16 และ 17{{sfn|Abdur Rahman|1999|pp=377-378}}{{sfn|George Michell|Clare Arni|1999|pp=76-77}} มนเทียรนี้เคยเป็นหนึ่งในจุดศูนย์กลางสำคัญของ[[ขบวนการภักติ]] ร่วมไปกับการร่ายรำและขับร้อง<ref name=parthasarathy137>T.S. Parthasarathy (1978), [https://www.jstor.org/stable/24158234 Music and Dance in Tamil Literature], Indian Literature, Vol. 21, No. 4, pages 137-148; Quote: "The hymns of the Divyaprabandham bad also been set to music and were being sung till the 14th century when the sack of Srirangam by Malik Kafur put an end to the practice."</ref>