ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระบรมราชมาตามหัยกาเธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Anggorn1 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ย้อนการแก้ไขของ Anggorn1 (พูดคุย) ไปยังรุ่นก่อนหน้าโดย Ponarus
ป้ายระบุ: ย้อนรวดเดียว
บรรทัด 14:
|จำนวนหน้า=490
}}</ref>
| death_style = สวรรคตสิ้นพระชนม์
| death_date = {{วันตาย-อายุ|2382|5|18|2355|11|10}}
| father1 = [[พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว]]
บรรทัด 21:
| spouse = 7 ท่าน
| issue1 = 8 พระองค์
}}
|birth_style=พระราชสมภพ}}
'''สมเด็จพระบรมราชมาตามหัยกาเธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์'''<ref>{{อ้างหนังสือ| ผู้แต่ง = พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว| ชื่อหนังสือ = พระราชพิธีสิบสองเดือน|จังหวัด = กรุงเทพฯ| พิมพ์ที่ = พิมพ์ครั้งที่ 21, รัตนชัยการพิมพ์| ปี = 2552 | ISBN = 978-974-417-594-6| จำนวนหน้า = 296|หน้า = 26}}</ref> (10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2355 - 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2382) ต้น[[:หมวดหมู่:ราชสกุลศิริวงศ์|ราชสกุลศิริวงศ์]] เป็นสมเด็จพระบรมราชบิดาชนกใน[[สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี]] (สมเด็จพระบรมราชชนนีใน[[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]])
 
สมเด็จพระบรมราชมาตามหัยกาเธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ เดิมมีพระนามว่า '''พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าศิริวงศ์''' เป็นพระราชโอรสลำดับที่ 6 ใน[[พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว]] และลำดับที่ 1 ใน[[เจ้าจอมมารดาทรัพย์ ในรัชกาลที่ 3|เจ้าจอมมารดาทรัพย์ พระสนมเอก]] ธิดาพระอักษรสมบัติ (ทับ) กับผ่อง ณ พัทลุง ประสูติเมื่อวันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2355 มีพระขนิษฐาร่วมเจ้าจอมมารดาหนึ่งพระองค์ คือ [[สมเด็จพระบรมราชมาตามหัยิกาเธอ กรมพระยาสุดารัตน์ราชประยูร]]
บรรทัด 29:
กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์มีพระโอรสพระธิดารวม 9 พระองค์ คือ<ref>{{อ้างหนังสือ|ผู้แต่ง=ศุภวัฒย์ เกษมศรี, พลตรี หม่อมราชวงศ์, และรัชนี ทรัพย์วิจิตร|ชื่อหนังสือ=พระอนุวงศ์ชั้นหม่อมเจ้าในพระราชวงศ์จักรี|จังหวัด=กรุงเทพ|พิมพ์ที่=สำนักพิมพ์บรรณกิจ|ปี= พิมพ์ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2549|ISBN=974-221-818-8|หน้า=หน้าที่|จำนวนหน้า=360}}</ref><ref>[[จุลลดา ภักดีภูมินทร์]], [http://www.sakulthai.com/DSakulcolumndetail.asp?stcolumnid=517&stissueid=2421&stcolcatid=2&stauthorid=13 'พระสัมพันธวงศ์เธอ'], สกุลไทย, ฉบับที่ 2421, ปีที่ 47, ประจำวันอังคารที่ 13 มีนาคม 2544 </ref><ref>จุลลดา ภักดีภูมินทร์, [http://www.sakulthai.com/DSakulcolumndetail.asp?stcolumnid=878&stissueid=2448&stcolcatid=2&stauthorid=13 สถาปนาคำนำพระนาม], สกุลไทย, ฉบับที่ 2448, ปีที่ 47, ประจำวันอังคารที่ 18 กันยายน 2544 </ref><ref>จุลลดา ภักดีภูมินทร์, [http://www.sakulthai.com/DSakulcolumndetail.asp?stcolumnid=1460&stissueid=2486&stcolcatid=2&stauthorid=13 เล่าเรื่องมอญ], สกุลไทย, ฉบับที่ 2486, ปีที่ 48, ประจำวันอังคารที่ 11 มิถุนายน 2545 </ref>
# '''หม่อมเจ้ามงคลเลิศ''' (ประสูติเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2377 สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2404) ประสูติแต่หม่อมแพ ทรงได้รับสถาปนาเลื่อนพระยศขึ้นเป็นพระองค์เจ้ามงคลเลิศ ในสมัยรัชกาลที่ 4 (พ.ศ. 2396) ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงเปลี่ยนคำนำหน้าเป็น[[พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้ามงคลเลิศ]]
# '''หม่อมเจ้าหญิงรำเพย''' (พระราชสมภพประสูติเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2377 สวรรคตเมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2404 ถวายเพลิงพระศพ ณ พระเมรุท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2405) ประสูติแต่[[หม่อมน้อย ศิริวงศ์ ณ อยุธยา]] โดยหม่อมเจ้าหญิงรำเพยทรงรับราชกาลฝ่ายในเป็นพระมเหสีใน[[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] พระองค์ทรงได้รับสถาปนาเลื่อนพระอิสริยยศขึ้นเป็น'''พระนางเธอ พระองค์เจ้ารำเพยภมราภิรมย์''' (ปัจจุบันออกพระนามว่า[[สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี]]) มีพระราชโอรสและพระราชธิดาทั้งหมด 4 พระองค์ หนึ่งในนั้นคือ[[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]]
# '''หม่อมเจ้าหญิงชมชื่น''' (ประสูติ พ.ศ. 2377 สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2436 พระราชทานเพลิง ณ วัดเทพศิรินทรสวาส เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2437) ประสูติแต่หม่อมงิ้ว ศิริวงศ์ ณ อยุธยา ทรงได้รับสถาปนาเลื่อนพระยศขึ้นเป็นพระประพันธวงษ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงชมชื่น ในรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2418) และในภายหลังรัชกาลที่ 5 ทรงเปลี่ยนคำนำหน้าเป็น [[พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าชมชื่น|พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงชมชื่น]]
# '''หม่อมเจ้าหญิงพื้นพงศ์''' (ประสูติ พ.ศ. 2378 สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2435 พระราชทานเพลิง ณ วัดเทพศิรินทราวาส พร้อมกับพระองค์เจ้าหญิงชมชื่น) ประสูติแต่หม่อมจาด ศิริวงศ์ ณ อยุธยา ทรงได้รับสถาปนาเลื่อนพระยศขึ้นเป็นพระประพันธวงษ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงพื้นพงศ์ประยุรวงศ์สนิท ในรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2413) และในภายหลังรัชกาลที่ 5 ทรงเปลี่ยนคำนำหน้าเป็น [[พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพื้นพงศ์ประยุรวงศ์สนิท]]
บรรทัด 38:
# '''หม่อมเจ้าประเสริฐศักดิ์''' มีพระนามเดิม หม่อมเจ้าชายดำ (สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2424) ประสูติแต่หม่อมน้อย ศิริวงศ์ ณ อยุธยา (คนละคนกับหม่อมน้อยผู้เป็นหม่อมมารดาของ[[สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี]]) โดยหม่อมน้อยผู้นี้มีสกุลเดิมว่าภมรมนตรี ซึ่งในภายหลังเมื่อกรมหมื่นมาตยาพิทักษ์สิ้นพระชนม์แล้ว หม่อมน้อยได้ไปเป็นหม่อมห้ามใน[[พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนราชสีหวิกรม]] จึงกายเป็น[[หม่อมน้อย ชุมสาย ณ อยุธยา]] หม่อมเจ้าประเสริฐศักดิ์ทรงได้รับสถาปนาเลื่อนพระยศขึ้นเป็น พระประพันธวงษ์เธอ พระองค์เจ้าประเสริฐศักดิ์ ในสมัยรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2412) และในภายหลังรัชกาลที่ 5 ได้เปลี่ยนคำนำหน้าเป็น [[พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประเสริฐศักดิ์]]
 
==สิ้นพระชนม์==
==สวรรคต==
พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ 3 เมื่อวันเสาร์เดือน 7 ขึ้น 5 ค่ำ ปีกุน <ref name="วังหลวง">{{อ้างหนังสือ
|ผู้แต่ง=กิตติพงษ์ วิโรจน์ธรรมากูร
|ชื่อหนังสือ=ย้อนรอยราชสกุลวงศ์ "วังหลวง"
บรรทัด 52:
</ref>ตรงกับวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2382 พระชันษา 26 ปี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาพระอัฐิขึ้นเป็น '''สมเด็จพระบรมราชมาตามหัยกาเธอ'''<ref>{{อ้างหนังสือ| ผู้แต่ง = สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร| ชื่อหนังสือ = ราชสกุลวงศ์| URL = http://bcnnon.ac.th/webnon/Load/2013/01/king22.pdf| จังหวัด = พิมพ์ครั้งที่ 14, กรุงเทพฯ| พิมพ์ที่ = สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร| ปี = 2554 | ISBN = 978-974-417-594-6| จำนวนหน้า = 296|หน้า = 38}}</ref> (สมเด็จตา) เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติแด่พระชนกในสมเด็จพระบรมราชชนนี
 
โดยเมื่อสวรรคตสิ้นพระชนม์นั้น [[พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ทรงพระอาลัยเป็นอันมาก ด้วยเป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในขณะนั้น จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดการปลูกพระเมรุ พระราชทานเพลิงพระศพ ณ ท้องสนามหลวงเป็นการใหญ่ แล้วให้อัญเชิญพระอัฐิบรรจุในพระโกศทองคำ มาประดิษฐานไว้ ณ ตำหนัก[[กรมสมเด็จพระศรีสุลาไลย]] ในพระบรมมหาราชวัง ครั้นภายหลังเมื่อ[[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ จึงโปรดเกล้าฯ ให้ช่างทำพระบรมประโกศทองคำจำหลักลายลงยาราชาวดีเปลี่ยนถวายใหม่<ref>เทศนากัณฑ์ที่ 1 เรื่องพระราชสันตติวงศ์</ref>
 
==อ้างอิง==