ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราช"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 8:
== พระประวัติ ==
[[ไฟล์:Pagoda of Phra Wichai (Fai Na) of Champasak.jpg|thumb|250px|'''"ธาตุหลวงเฒ่า"''' เจดีย์บรรจุอัฐิธาตุของพระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราช (
เจ้าพระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราช มีพระนามเดิมว่า '''เจ้าฝ่ายหน้า''' หรือ '''เจ้าหน้า''' (ตามเอกสารของราชการไทย) สมภพเมื่อปี พ.ศ. 2269 ที่นครเวียงจันทน์ เป็นพระโอรสของเจ้าพระวรราชปิตา ([[เจ้าพระตา]]) แห่งนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน ([[หนองบัวลำภู]]) กับพระนางบุศดี ซึ่งสืบเชื้อสายมาจาก[[เจ้าปางคำ]]แห่ง[[เมืองเชียงรุ้ง]] และเป็นพระอนุชาของ[[พระประทุมวรราชสุริยวงศ์]] (เจ้าคำผง) เจ้าผู้ครองเมือง[[อุบลราชธานี]]องค์แรก
และต่อมาได้อพยพหนีราชภัยจาก[[พระเจ้าสิริบุญสาร]] แห่ง[[อาณาจักรล้านช้าง|อาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์]] มาพร้อมกันกับกลุ่มของเจ้าพระวอและเจ้าคำผง หลังสิ้นสงครามกับนครเวียงจันทน์ ใน [[พ.ศ. 2318]] แล้ว [[พระประทุมวรราชสุริยวงศ์]] (เจ้าคำผง) ขณะนั้นมีบรรดาศักดิ์เป็นพระปทุมราชวงศา ได้พาไพร่พล
พ.ศ. 2319 เกิดน้ำท่วมใหญ่ที่ดอนมดแดง พระประทุมสุรราช (เจ้าคำผง)และเจ้าฝ่ายหน้าจึงพาไพร่พลอพยพหนีน้ำมาอยู่ที่ดอนริมห้วยแจระแม (ปัจจุบันคือบ้านท่าบ่อ ตำบลแจระแม อยู่เหนือตัวเมืองอุบลราชธานี ประมาณ 8 กิโลเมตร)
ในปี [[พ.ศ. 2329]] เจ้าฝ่ายหน้าพร้อมกับเจ้านางอูสา แลเจ้าคำสิงห์ พระโอรสคนโต นำไพร่พลส่วนหนึ่งไปตั้งมั่นเป็นกองนอกอยู่ที่'''บ้านสิงห์ท่า''' (ต่อมาได้ยกฐานะขึ้นเป็นเมืองยศสุนทรในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 หรือคือ จังหวัด[[ยโสธร]]ในปัจจุบัน) ▼
▲
ในปี [[พ.ศ. 2334]] เกิดเหตุ[[กบฏอ้ายเชียงแก้ว]]ที่[[อาณาจักรล้านช้าง|อาณาจักรล้านช้างจำปาศักดิ์]] ทางฝ่ายนครจำปาศักดิ์ไม่สามารถรับมือได้ เนื่องจาก[[พระเจ้าองค์หลวงไชยกุมาร]] เจ้าผู้ครองนครจำปาศักดิ์ในเวลานั้น ถึงแก่พิราลัยกะทันหันหลังจากได้รับทราบข่าวศึก (ก่อนหน้านั้นพระเจ้าองค์หลวงฯ เองก็ประชวรเรื้อรังมานานแล้ว) เจ้าหน้าได้ร่วมมือกับ[[พระประทุมวรราชสุริยวงศ์|พระประทุมราชวงศา (เจ้าคำผง)]] เจ้าผู้ครองเมืองอุบล ผู้เป็นพี่ชาย ยกทัพไปปราบกบฏอ้ายเชียงแก้วจนราบคาบ และเจ้าฝ่ายหน้าได้จับตัวอ้ายเชียงแก้วประหารชีวิตที่[[แก่งตะนะ]] (อยู่ใน[[แม่น้ำมูล]] ระหว่าง[[อำเภอพิบูลมังสาหาร]]กับ[[อำเภอสิรินธร]]ในปัจจุบัน) ก่อนหน้าที่กองทัพเมือง[[นครราชสีมา]]จะยกมาถึงตามรับสั่งจากกรุงเทพฯ ▼
▲
ใน พ.ศ. 2335 ด้วยความดีความชอบในครั้งนี้ ทำให้เจ้าหน้าได้รับการแต่งตั้งเป็น "เจ้าพระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราช"<ref>ชื่อตาม ''พงศาวดารหัวเมืองมณฑลอีสาน'' ของ[[หม่อมอมรวงศ์วิจิตร]]</ref> เจ้าผู้ครองนครจำปาศักดิ์ ลำดับที่ 3▼
▲
== พระกรณียกิจ ==▼
▲== พระกรณียกิจ ==
เมื่อ [[พ.ศ. 2339]] เจ้าพระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราชได้ย้าย[[เมืองจำปาศักดิ์]]จากที่เดิมซึ่งอยู่ที่บ้านศรีสุมัง ริมฝั่ง[[แม่น้ำโขง]] มาตั้งอยู่ในบริเวณบ้านคันเกิง อยู่ทางฝั่งขวาแม่น้ำโขง ตรงข้าม[[ปากเซ|ปากแม่น้ำ]][[แม่น้ำเซโดน|เซโดน]] (ปัจจุบันเรียกว่า เมืองเก่าคันเกิง อยู่ที่บ้านเมืองเก่า เมืองโพนทอง [[แขวงจำปาศักดิ์]] [[ประเทศลาว]]) ▼
[[พ.ศ. 2334]] เจ้าพระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราชจึงแบ่งไพร่พลบ้านสิงห์ท่าส่วนหนึ่งมาอยู่ที่นครจำปาศักดิ์ และตั้งให้เจ้าคำสิงห์เป็นเจ้าราชวงศ์[[เมืองโขง]] หรือ สีทันดอน (ต่อมา พศ. 2357 รัชกาลที่ 2 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้งให้เป็นที่[[พระสุนทรราชวงศา]] ดำรงฐานะเจ้าผู้ครองเมืองยศสุนทรประเทศราชองค์แรก)
▲
[[พ.ศ. 2348]] เจ้าพระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราชได้มีใบบอกมายังกรุงเทพฯ เพื่อขอโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งบ้านนายอนเป็นเมือง [[พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก]] จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกบ้านนายอนขึ้นเป็นเมืองสพาดตามคำขอนั้น
[[พ.ศ. 2353]] มีครัว[[ชาวเขมร]]ภายใต้การนำของพระยาเดโช เจ้า[[เมืองกำปงสวาย]] กับนักปรัง ผู้น้องชาย อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในแถบ[[เมืองโขง]] เนื่องจากกลุ่มคนดังกล่าวเกิดความขัดแย้งกับ[[สมเด็จพระอุทัยราชา]] (นักองจัน) พระเจ้าแผ่นดิน[[กัมพูชา]] เจ้าพระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราชได้มีใบบอกแจ้งเรื่องลงมายัง[[กรุงเทพฯ]] [[พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย]] จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้[[พระยากลาโหมราชเสนา]] คุมกำลังมาคุมครัวเขมรของพระยาเดโชมาตั้งอยู่ที่บ้านลงปลา ส่วนครัวของนักปรังให้แยกมาตั้งอยู่ที่เมืองเซลำเภา<ref>ปัจจุบันคือเมือง[[ธาราบริวัตร]] อยู่ในเขต[[จังหวัดสตึงแตรง]] [[ประเทศกัมพูชา]]</ref> "จึ่งมีเขมรแทรกปนอยู่ในแขวง[[เมืองโขง]]แต่นั้นมา"<ref name="พงศาวดารอีสาน">พงศาวดารหัวเมืองมณฑลอีสาน ของ[[หม่อมอมรวงศ์วิจิตร]]</ref> == พระโอรส และพระธิดา ==
[[ไฟล์:กู่เจ้าฝ่ายหน้า.jpg|thumb|กู่เจ้านคร ซึ่งภายในบรรจุอัฐิของเจ้าพระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราช (เจ้าฝ่ายหน้า) ที่[[วัดมหาธาตุ]] [[จังหวัดยโสธร]]]]
ในสำเนาฉบับพงศาวดารอีสานยังอธิบายไว้ว่า เจ้าพระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราช มีพระโอรสและพระธิดา ทั้งหมด
# [[พระสุนทรราชวงศา (เจ้าคำสิงห์)|เจ้าคำสิงห์]] (ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นที่พระสุนทรราชวงศา เจ้าผู้ครองเมืองยศสุนทรองค์แรก)
# เจ้าบุตร หรือ[[พระสุนทรราชวงศาฯ (เจ้าฝ่ายบุต)|เจ้าฝ่ายบุต]] (ต่อมาพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นที่พระสุนทรราชวงศาฯ เจ้าผู้ครองเมืองยศสุนทร องค์ที่ 3)
# เจ้าสุดตา
# เจ้านางแดง
# เจ้านางไทย
เส้น 39 ⟶ 43:
== พิราลัย ==
เจ้าพระวิไชยราชสุริยวงษขัติยราชถึงแก่พิราลัย เมื่อ[[วันอังคาร]] ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 10 [[ปีมะแม]]ตรีศก [[จุลศักราช]] 1173 (ตรงกับวันที่ 20 เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2354) สิริรวมพระชนม์ 85 ปี ครองนครจำปาศักดิ์ ได้
และ == พระนามตามบันทึกเอกสารทางประวัติศาสตร์ ==
|