ผลต่างระหว่างรุ่นของ "องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Mydragonfly (คุย | ส่วนร่วม)
ปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน
Mydragonfly (คุย | ส่วนร่วม)
ปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน
บรรทัด 98:
== '''ประวัติความเป็นมา''' ==
 
เมื่อปี [[พ.ศ. 2533]] คณะรัฐมนตรีในครั้งนั้นได้มีมติให้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ขึ้น ขั้นโดยให้กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมในขณะนั้น ดูแลพัฒนาโครงการและรับผิดชอบงาน ต่อมาในปี [[พ.ศ. 2534]] ได้รับอนุมัติให้จัดโครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เป็นโครงการวิทยาศาสตร์” เพื่อเฉลิมพระเกียรติ [[สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ|สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง]] เนื่องในโอกาส พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ ๑๒12 สิงหาคม ๒๕๓๕2535 โดยกำหนดกรอบงบประมาณโครงการ 650 ล้านบาทและเริ่มก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ในปี [[พ.ศ. 2537]] จนกระทั่งในปี [[พ.ศ. 2538]] คณะรัฐมนตรีมีมติให้จัดตั้ง องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ขึ้น มีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อเป็นหน่วยงานบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์ ได้มีพระราชกำหนดจัดตั้งองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ (อพวช.) ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ [[30 มกราคม]] [[พ.ศ. 2538]] โดยพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ เปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการ ในวันที่ [[8 มิถุนายน]] [[พ.ศ. 2543]] <ref>[http://www.most.go.th/main/index.php/about-us/structural-units/state-enterprise/nsm.html กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]</ref>
 
องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ดำเนินการพัฒนา “พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์” ซึ่งตั้งอยู่ ณ เทคโนธานี ถนนเลียบคลองห้า ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี จนแล้วเสร็จ  สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ  ให้พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะทรงดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จแทนพระองค์ ทรงเปิดพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์อย่างเป็นทางการ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่ออาคารว่า “อาคารพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์มหาราชินี” เมื่อ วันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2543<ref>[http://www.most.go.th/main/index.php/about-us/structural-units/state-enterprise/nsm.html กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]</ref> และได้เปิดให้บริการแก่ประชาชนอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2543 เป็นต้นมา
ต่อมาในปี พ.ศ. 2547 อพวช. เปิดให้บริการพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน มีพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการประมาณ 3,000 ตารางเมตร จัดแสดงนิทรรศการที่เกี่ยวกับกำเนิดโลกและสิ่งมีชีวิต การจำแนกประเภทสิ่งมีชีวิตต่างๆ รวมถึงมีการเก็บรักษาตัวอย่างทางธรรมชาติวิทยา
 
ต่อมาในปี พ.ศ. 25472546 อพวช. ได้เปิดให้บริการพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน มีพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการประมาณ 3,000 ตารางเมตร จัดแสดงนิทรรศการที่เกี่ยวกับกำเนิดโลกและสิ่งมีชีวิต การจำแนกประเภทสิ่งมีชีวิตต่างๆ รวมถึงมีการเก็บรักษาตัวอย่างทางธรรมชาติวิทยา
ปี พ.ศ. 2554 ได้มีการพัฒนาแหล่งเรียนรู้วิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้นอีกแห่งหนึ่งที่จัตุรัสวิทยาศาสตร์ มีพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมต่างๆ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประมาณ 3,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ที่ชั้น 4-5 อาคาร [[จัตุรัสจามจุรี]] (อาคารศูนย์การค้าของ [[จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]]) ซึ่งได้เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ [[เดือนมีนาคม]] [[พ.ศ. 2554]]
 
ปี พ.ศ. 2554 ได้มีการพัฒนาแหล่งเรียนรู้วิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้นอีกแห่งหนึ่งที่จัตุรัสวิทยาศาสตร์ มีพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมต่างๆ ด้านวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีและนวัตกรรม บนพื้นที่ประมาณ 3,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ที่ชั้น 4-5 อาคาร [[จัตุรัสจามจุรี]] (อาคารศูนย์การค้าของ [[จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย]]) ซึ่งได้เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ [[เดือนมีนาคม]] [[พ.ศ. 2554]] และปัจจุบันได้ปิดให้บริการแล้วเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2562
ปี พ.ศ. 2557 เปิดให้บริการพิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ ในอาคารที่มีพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการรวม 9,300 ตารางเมตร เนื้อหาหลักแสดงถึงวิวัฒนาการของเทคโนโลยีการสื่อสารและการคำนวณ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของคอมพิวเตอร์ และพัฒนาต่อมาเป็นเทคโนโลยีสารสนเทศหลากหลายรูปแบบในปัจจุบัน
 
ปี พ.ศ. 25572556 อพวช. เปิดให้บริการพิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันกับ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา ภายในอาคารที่มีพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการรวม 9,300 ตารางเมตร เนื้อหาหลักแสดงถึงวิวัฒนาการของเทคโนโลยีการสื่อสารและการคำนวณ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของคอมพิวเตอร์ และพัฒนาต่อมาเป็นเทคโนโลยีสารสนเทศหลากหลายรูปแบบในปัจจุบัน
 
ปี พ.ศ. 2562 อพวช. เปิดให้บริการพิพิธภัณฑ์เพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง คือ พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า ซึ่งจะนำเสนอนิทรรศการที่แสดงถึงวิวัฒนาการของโลกและสิ่งมีชีวิตต่างๆ ระบบนิเวศวิทยาของภูมิภาคต่างๆ แสดงถึงความหลากหลายทางชีวภาพทั้งในภาพรวมของทั้งโลกและของประเทศไทย และมีส่วนจัดแสดงที่นำเสนอหลักการทรงงานของ[[พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร]] ที่แสดงให้เห็นถึงการที่ทรงนำกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการแก้ปัญหาต่างๆ ให้กับประชาชน โดยมีพิธีเปิดไปเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2562
 
ปี พ.ศ. 2564 อพวช. ได้มีการพัฒนาแหล่งเรียนรู้วิทยาศาสตร์ จัตุรัสวิทยาศาสตร์ เพิ่มอพวช ขึ้นอีกหนึ่งแห่ง มีณ กรุงเทพมหานคร ในชื่อ “จัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. เดอะ สตรีท รัชดา” เป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมต่างๆต่าง ๆ ด้านวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ประมาณ 3,000 ตารางเมตรและนวัตกรรม ตั้งอยู่ที่ชั้น 5 อาคารศูนย์การค้า เดอะ สตรีท รัชดา ต่อมา อพวช. ได้พัฒนาและเปิดแหล่งเรียนรู้แห่งใหม่ขึ้นที่ จังหวัดเชียงใหม่ ในชื่อ “จัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. เชียงใหม่” โดยได้รับความร่วมมือจาก สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) ให้จัดตั้ง“จัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. เชียงใหม่” ภายในอุทยานดาราศาสตร์สิรินธร อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่  ซึ่งเป็นพื้นที่การเรียนรู้นอกห้องเรียนให้กับเยาวชนและประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ โดยทั้งสองที่ได้เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ เดือนมีนาคม พ.ศ. 2564
 
== '''พิพิธภัณฑ์ อพวช.''' ==
== พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์<ref>{{Cite web|last=Thailand|first=Museum|title=พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ อพวช. :: Museum Thailand|url=https://www.museumthailand.com/th/museum/NSM-Science-Museum|website=www.museumthailand.com}}</ref> ==
* พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ เป็นอาคารอาคารหลักมีรูปทรงลูกบาศก์ 3 ลูกเชื่อมติดกันมี 6 ชั้น มีพื้นที่จัดแสดงประมาณ 10,000 ตารางเมตร มีการจัดแสดงเป็นเนื้อหาต่างๆ ในแต่ละชั้น เช่น นิทรรศการหมุนเวียน ประวัติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไทย พลังงาน วิทยาศาสตร์ในชีวิตประจำวัน และภูมิปัญญาไทย
** ชั้นที่ 1 ส่วนต้อนรับ นักวิทยาศาสตร์รุ่นบุกเบิก ห้องอินเทอร์เน็ต การศึกษา และนิทรรศการหมุนเวียน
** ชั้นที่ 2 ประวัติการค้นพบและการประดิษฐทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
** ชั้นที่ 3 วิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน อุโมงค์พลังงาน และโรงภาพยนตร์
** ชั้นที่ 4 โลกของเรา สิ่งแวดล้อม สิ่งก่อสร้างและโครงสร้าง เกษตรกรรม
** ชั้นที่ 5 ร่างกายของเรา การคมนาคม คุณภาพชีวิต วิทยาศาสตร์ในบ้าน และอนาคต
** ชั้นที่ 6 เทคโนโลยีภูมิปัญญาไทย
 
=== พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาวิทยาศาสตร์<ref>{{Cite web|last=Thailand|first=Museum|title=พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาวิทยาศาสตร์ อพวช. :: Museum Thailand|url=https://www.museumthailand.com/th/museum/NaturalNSM-HistoryScience-Museum-2|website=www.museumthailand.com}}</ref> ===
* พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ เป็นอาคารอาคารหลักมีรูปทรงลูกบาศก์ 3 ลูกเชื่อมติดกันมี 6 ชั้น มีพื้นที่จัดแสดงประมาณ 10,000 ตารางเมตร มีการจัดแสดงเป็นเนื้อหาต่างๆ ในแต่ละชั้น เช่น นิทรรศการหมุนเวียน ประวัติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไทย พลังงาน วิทยาศาสตร์ในชีวิตประจำวัน และภูมิปัญญาไทย
** ชั้นที่ 1 ส่วนต้อนรับ นักวิทยาศาสตร์รุ่นบุกเบิก ห้องอินเทอร์เน็ต การศึกษา และนิทรรศการหมุนเวียน
** ชั้นที่ 2 ประวัติการค้นพบและการประดิษฐทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
** ชั้นที่ 3 วิทยาศาสตร์ขั้นพื้นฐาน อุโมงค์พลังงาน และโรงภาพยนตร์
** ชั้นที่ 4 โลกของเรา สิ่งแวดล้อม สิ่งก่อสร้างและโครงสร้าง เกษตรกรรม
** ชั้นที่ 5 ร่างกายของเรา การคมนาคม คุณภาพชีวิต วิทยาศาสตร์ในบ้าน และอนาคต
** ชั้นที่ 6 เทคโนโลยีภูมิปัญญาไทย
=== พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ธรรมชาติวิทยา<ref>{{Cite web|last=Thailand|first=Museum|title=พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ธรรมชาติวิทยา อพวช. :: Museum Thailand|url=https://www.museumthailand.com/th/museum/NSMNatural-ScienceHistory-Museum-2|website=www.museumthailand.com}}</ref> ===
พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเปิดให้บริการในปี พ.ศ. ๒๕๔๖ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการศึกษาวิจัยด้านธรรมชาติวิทยาของประเทศไทยและประเทศใกล้เคียง และยังเป็นศูนย์จัดแสดงนิทรรศการความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งนำเสนอตั้งแต่การกำเนิดโลก สู่กำเนิดสรรพสิ่งและสิ่งมีชีวิต ที่ล้วนผ่านกระบวนการวิวัฒนาการมานานและยังคงดำเนินเช่นนี้ต่อไป เพื่อดำรงไว้ซึ่งความหลากหลาย พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา เป็นอาคาร 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ประมาณ 3,000 ตารางเมตร จัดแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
 
เส้น 136 ⟶ 139:
'''ส่วนที่ 4''' ความหลากหลายทางชีวภาพ
 
* คลังเก็บวัสดุตัวอย่าง ประกอบด้วยคลังเก็บวัสดุตัวอย่างแห้ง และคลังเก็บวัสดุตัวอย่างเปียก พื้นที่ 1,200 ตารางเมตร วัสดุตัวอย่างเริ่มต้นจากการบริจาคตัวอย่างนกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจากครอบครัวนายแพทย์บุญส่ง เลขะกุล และตัวอย่างปลา สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ทะเลที่ไม่มีกระดูกสันหลัง จากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ต่อมาจึงได้เก็บตัวอย่างพืชและสัตว์ทุกชนิดต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน
 
=== พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ<ref>{{Cite web|last=Thailand|first=Museum|title=พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ อพวช. :: Museum Thailand|url=https://www.museumthailand.com/th/museum/Information-Technology-Museum-2|website=www.museumthailand.com}}</ref> ===
พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศเปิดให้บริการในปีพ.ศ. ๒๕๕๕ เพื่อให้บริการความรู้ และให้เห็นถึงประโยชน์ ความสำคัญของเทคโนโลยีการสื่อสารและสารสนเทศต่อการดำรงชีวิตประจำวันและการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงนิทรรศการที่เล่าเรื่องราววิวัฒนาการของเทคโนโลยีการสือสารนับตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์จนถึงยุคปัจจุบัน  และเบื้องหลังวิวัฒนาการทั้งหมดคือ ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์นั่นเอง  ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกนำเสนอด้วยเทคนิค แสง สี เสียง อันทันสมัย ประกอบชิ้นงาน เครื่องเล่นทางวิทยาศาสตร์  สื่อประสมเชิงตอบโต้ เสริมด้วยกิจกรรมการเรียนรู้หลายประเภท  เพื่อให้เกิดความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ไปกับการเรียนรู้ ภายในพิพิธภัณฑ์ การจัดแสดงนิทรรศการ ประกอบด้วยส่วนจัดแสดงหลัก 6 ส่วน  ได้แก่
 
เส้น 153 ⟶ 156:
'''ส่วนที่ 6''' เทคโนโลยีสารสนเทศกับการพัฒนาคุณภาพชีวิต
 
=== พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า<ref>{{Cite web|last=Thailand|first=Museum|title=พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า อพวช. :: Museum Thailand|url=https://www.museumthailand.com/th/museum/Rama9-Museum|website=www.museumthailand.com}}</ref> ===
เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อพวช. ได้รับความเห็นชอบให้ “โครงการพิพิธภัณฑ์พระรามเก้า” เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อแสดงให้เห็นหลักการคิด วิธีการทรงงานและกระบวนการค้นหาคำตอบ ตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่ทรงนำไปแก้ปัญหาหรือพระราชทานแก่พสกนิกรในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วราชอาณาจักร ตลอดจนเป็นแบบอย่างแก่ผู้สนใจชาวต่างประเทศ และเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านความเข้าใจในความสำคัญและปัญหาของระบบนิเวศ การบริหารจัดการทรัพยากรดิน น้ำ ป่า เพื่อให้มนุษย์อยู่ร่วมกับระบบนิเวศธรรมชาติอย่างยั่งยืน
 
เส้น 171 ⟶ 174:
 
'''ส่วนที่ 6''' การจัดการทรัพยากรน้ำในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก
 
== '''จัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช.''' ==
 
=== '''จัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. เดอะสตรีท รัชดา''' ===
แหล่งเรียนรู้แห่งใจกลางกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่สำหรับส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต และสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ร่วมกันภายในครอบครัว เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ซึ่งประกอบด้วยนิทรรศการ อย่างนิทรรศการสวนปริศนา” LOGICAL PARK และกิจกรรมเสริมศึกษา ดังนี้
 
1. กิจกรรม BLUE BOX IMAGINARIUM
 
2. กิจกรรม Inspire Lab
 
3. กิจกรรม Innovation Space
 
4. กิจกรรม Explorium
 
5. กิจกรรม I-SCREAM
 
=== '''จัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. เชียงใหม่''' ===
จัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. เชียงใหม่ ณ อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร เชียงใหม่ แหล่งเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม มุ่งเน้นการสร้างเสริมประสบการณ์และแรงบันดาลใจให้แก่เด็กและเยาวชน ด้านอาชีพวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่น่าสนใจในอนาคต ผ่านนิทรรศการสื่อสัมผัส และกิจกรรมที่สนุกสนาน เข้าใจง่าย ได้รับความรู้และแรงบันดาลใจไปพร้อมๆกัน ตอบสนองการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เข้าสู่อาชีพอุตสาหกรรมใหม่เพื่อพัฒนาประเทศ และขยายโอกาสทางการศึกษาให้เยาวชนในภูมิภาค บนพื้นที่กว่า 1,300 ตารางเมตร ประกอบด้วยนิทรรศการ ทั้งหมด 4 ส่วน ดังนี้
 
'''ส่วน 1''' The Career of the Future เปิดโลกอาชีพแห่งอนาคต
 
'''ส่วน 2''' Open The Biomedical World เปิดโลกทางการแพทย์
 
'''ส่วน 3''' Disaster operating Base ฐานปฏิบัติการภัยพิบัติ
 
'''ส่วน 4''' Aviation and Aerospace technology การบินและอวกาศ
 
== '''คาราวานวิทยาศาสตร์ และนิทรรศการเคลื่อนที่''' ==
คาราวานวิทยาศาสตร์ เป็นรูปแบบของพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เคลื่อนที่ เริ่มขึ้นในปี 2548 โดยร่วมกับหน่วยงานในท้องถิ่นเช่น โรงเรียน มหาวิทยาลัย องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น โดยคาราวานเน้นการนำเสนอความรู้ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย สร้างความสนุกสนานและสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ตามอัธยาศัย ผ่านชิ้นงานสื่อสัมผัสและกิจกรรมที่หลากหลายของ อพวช.
 
== '''กิจกรรมเสริมศึกษา''' ==
กิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ การคิดแบบวิทยาศาสตร์ ภายใต้พื้นฐานข้อมูลที่ถูกต้อง และให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลิกภาพ เพื่อให้เยาวชนเกิดความเข้มแข็งทางความคิดและจิตใจ สู่การเป็นกำลังสำคัญในการสร้างสรรค์และพัฒนาชาติอย่างยั่งยืนต่อไป เช่น ค่ายวัฒนธรรมวิทยาศาสตร์ ห้องการทดลองวิทยาศาสตร์ การแสดงวิทยาศาสตร์ โดมดูดาว เป็นต้น
 
== อ้างอิง ==