ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Matable (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 27:
}}
 
'''เจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ'''<ref>[http://202.47.224.92/royalnews/home.php?id=4813 พระราชสาส์นแสดงความยินดี ในโอกาสที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี], สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์, เผยแพร่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2555, เรียกข้อมูลวันที่ 5 กรกฎาคม 2555</ref> ({{lang-en|Prince Philip, Duke of Edinburgh}}; พระนามเดิมคือ '''เจ้าชายฟิลิปแห่งกรีซและเดนมาร์ก;''' Prince Philip of Greece and Denmark 10 มิถุนายน ค.ศ. 1921 – 9 เมษายน ค.ศ. 2021) เป็นเจ้าชายแห่งกรีซและเดนมาร์กซึ่งอภิเษกสมรสเข้าสู่สมาชิกของ[[ราชวงศ์สหราชอาณาจักร|ราชวงศ์อังกฤษบริติช]] ทรงเป็นพระราชสวามีในของ[[สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร]]
 
เจ้าชายฟิลิปทรงประสูติในราชวงศ์ประเทศกรีซและเดนมาร์ก เดิมมีพระนามว่า '''เจ้าชายฟิลิปแห่งกรีซใน[[ราชวงศ์กรีก]]และ[[ราชวงศ์เดนมาร์ก'''|เดนมาร์ก]] แต่ในระหว่างที่ยังเป็นทารก ราชวงศ์ครอบครัวของพระองค์ต้องเสด็จลี้ภัยทางการเมืองถูกขับไล่เนรเทศออกจาก[[ราชอาณาจักรกรีซ]]ประเทศ เจ้าชายฟิลิปจึงเติบโตและได้เมื่อพระองค์มีพระชนม์มายุสิบแปดพรรษา ภายหลังจากทรงเข้ารับการศึกษาใน[[ประเทศฝรั่งเศส]], [[เยอรมนี]] และ[[สหราชอาณาจักร]] พระองค์ทรงเข้ารับราชการทหารในร่วม[[ราชนาวี|ราชนาวีอังกฤษ]]เมื่อปีใน ค.ศ. 1939 ขณะโดยพระชันษาชนม์มายุสิบแปดพรรษา 18ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปีค.ศ. และในปีนั้นเอง1939 พระองค์ทรงเริ่มติดต่อทางจดหมายกับเจ้าหญิงเอลิซาเบธขณะที่มีพระชันษาชนม์มายุสิบสามพรรษา 13ซึ่งเป็นพระราชธิดาและทายาทโดยตรงกับ[[สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ ปี6 แห่งสหราชอาณาจักร|สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6]] เจ้าชายฟิลิปทรงพบพระนางเป็นครั้งแรกในค.ศ. 1934 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง พระองค์ทรงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างโดดเด่นในกองเรือเมดิเตอร์เรเนียนและแปซิฟิกของบริติช
 
หลังสงคราม เจ้าชายฟิลิปทรงได้รับพระบรมราชานุญาตจากสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 ให้อภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงเอลิซาเบธ ก่อนที่จะมีการประกาศหมั้นหมายอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1947 พระองค์ทรงสละฐานันดรทั้งหมดของกรีซและเดนมาร์ก กลายเป็น [[คนในบังคับอังกฤษ]] โดยทรงใช้ชื่อและนามสกุลอังกฤษ "เมานต์แบ็ตเทน" ซึ่งแปลงมาจากนามสกุลเยอรมัน "บัทเทินแบร์ค" ของฝ่ายพระมารดา พระองค์ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงเอลิซาเบธ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1947 ก่อนที่จะอภิเษกสมรส พระมหากษัตริย์ได้พระราชทานฐานันดรศักดิ์แก่เจ้าชายฟิลิปให้เป็นฮิส รอยัลไฮเนส และสถาปนาพระองค์เป็นดยุกแห่งเอดินบะระ เอิร์ลแห่งแมริโอเน็ต และบารอนกรีนวิช เจ้าชายฟิลิปทรงลาออกจากการรับราชการทหาร เมื่อเจ้าหญิงเอลิซาเบธทรงขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระราชินีนาถในค.ศ. 1952 โดยทรงมีตำแหน่งยศเป็นผู้บัญชาการทหารและได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าชายบริติชใน ค.ศ. 1957 เจ้าชายฟิลิปทรงมีพระราชบุตรถึงสี่พระองค์กับควีนเอลิซาเบธที่สอง: เจ้าชาย[[เจ้าชายชาลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์|ชาร์ล เจ้าชายแห่งเวลล์]] เจ้าหญิง[[เจ้าหญิงแอนน์ พระราชกุมารี|แอนน์ พระราชกุมารี]] [[เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก]] และ[[เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เอิร์ลแห่งเวสเซกซ์]] ผ่านทางพระราชเสาวนีย์ของควีนเอลิซาเบธที่สอง(Order in Council) แห่งบริติชได้ถูกประกาศขึ้นใน ค.ศ. 1960 ทายาทของเจ้าชายฟิลิปและควีนเอลิซาเบธที่สองจะไม่มีฐานนัดดรศักดิ์และพระนามเต็ม ซึ่งสามารถใช้นามสกุลเป็น เมานต์แบ็ตเทน-วินด์เซอร์ ซึ่งมีสมาชิกบางพระองค์ในราชวงศ์ที่ใช้พระนามเต็ม เช่น เจ้าหญิงแอนน์ เจ้าชายแอนดรูว์ และเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด
ในฐานะทหารเรืออังกฤษ ทรงเข้าร่วม[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] ปฏิบัติหน้าที่ในกองเรือ[[ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน|เมดิเตอร์เรเนียน]]และกองเรือแปซิฟิก ภายหลังสงครามสิ้นสุดก็ได้รับพระราชานุญาตจาก[[สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 แห่งสหราชอาณาจักร|สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6]]ให้อภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงเอลิซาเบธ พระองค์ทรงสละฐานันดรทั้งหมดของกรีซและเดนมาร์ก และกลายเป็น[[คนในบังคับอังกฤษ]]โดยใช้ชื่อและนามสกุลอังกฤษ "เมานต์แบ็ตเทน" ซึ่งแปลงมาจากนามสกุลเยอรมัน "บัทเทินแบร์ค" ของฝ่ายพระมารดา
 
ด้วยการที่ทรงเป็นผู้คลั่งไคล้ด้านกีฬา เจ้าชายฟิลิปทรงช่วยพัฒนางานกิจกรรมจากการขี่ม้ามาเป็นการขับขี่รถม้า พระองค์ทรงเป็นผู้อุปถัมภ์ ประธาน หรือสมาชกขององค์กรต่าง ๆ กว่า 780 องค์กร และดำรงตำแหน่งเป็นประธานแห่งรางวัลของดยุกแห่งเอดินบะระ ซึ่งเป็นโครงการการพัฒนาตนเองสำหรับคนหน่มสาวที่มีอายุ 14 ถึง 24 ปี พระองค์ทรงเป็นพระราชสามีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดของราชวงศ์บริติชและเป็นสมาชิกชายที่มีพระชนม์ที่ยาวนานที่สุดในราชวงศ์บริติช ทรงเกษียณจากพระราชกรณียกิจ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 2017 ด้วยพระชนม์มายุ 96 พรรษา โดยทรงสำเร็จจากพระราชกรณียกิจ 22,219 ครั้ง และกล่าวสุนทรพจน์ 5,493 ครั้ง ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1952 เจ้าชายฟิลิปทรงสิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 9 เมษายน ค.ศ. 2021 อีกสองเดือนก่อนที่พระองค์จะมีพระชนม์มายุครบ 100 ปี
ฟิลิปได้รับพระราชทานยศขุนนางเป็นดยุกแห่งเอดินบะระ, เอิร์ลแห่งเมริออเน็ต และบารอนกรีนวิช แล้วจึงได้อภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงเอลิซาเบธเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1947 ต่อมาเมื่อเจ้าหญิงเอลิซาเบธได้ขึ้นครองราชย์ในปี ค.ศ. 1952 ดยุกฟิลิปก็ลาออกจากทหารเรือในยศนาวาโท ดยุกฟิลิปได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นเจ้าอังกฤษอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 1957
 
==วัยเยาว์ ==