ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จักรพรรดิโกไดโงะ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
Chainwit. (คุย | ส่วนร่วม)
ย้อนการแก้ไขของ 2001:FB1:30:5E4E:E015:B663:CFD0:CD5F (พูดคุย) ไปยังรุ่นก่อนหน้าโดย 2001:FB1:30:5E4E:2571:5491:B1B2:AC9C
ป้ายระบุ: ย้อนรวดเดียว
บรรทัด 25:
}}
 
'''จักรพรรดิโกไดโงะ''' ({{nihongo|後醍醐天皇}}) [[จักรพรรดิญี่ปุ่น]] องค์ที่ 96,<ref name="kunaicho">[[Imperial Household Agency]] (''Kunaichō''): [http://www.kunaicho.go.jp/ryobo/guide/096/index.html 後醍醐天皇 (96)]; retrieved 2013-8-28.</ref>, ตามลำดับตามประเพณี.<ref>[[Richard Ponsonby-Fane|Ponsonby-Fane, Richard]]. (1959). ''The Imperial House of Japan,'' p. 95.</ref> พระองค์ประสบความสำเร็จในการล้มล้าง [[รัฐบาลโชกุนคามากูระ]] ในปี ค.ศ. 1333 และก่อตั้ง [[การฟื้นฟูเค็มมุ]] เพื่อนำราชวงศ์กลับมาสู่อำนาจ. นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่จักรพรรดิมีอำนาจใด ๆ จนกระทั่งการฟื้นฟูเมจิในปี ค.ศ. 1868.<ref name="sansom22">Sansom 1977: 22–42.</ref> การฟื้นฟูเค็มมุถูกโค่นล้มโดย [[อาชิกางะ ทากาอูจิ]] ในปี ค.ศ. 1336, เข้าสู่ [[รัฐบาลโชกุนอาชิกางะ]], และแบ่งราชวงศ์ออกเป็นสองฝ่ายที่เป็นปฏิปักษ์ระหว่างอาชิกางะซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก [[ราชสำนักเหนือ]] ซึ่งตั้งอยู่ใน [[เกียวโต]] และ [[ราชสำนักใต้]] ซึ่งตั้งอยู่ใน [[โยชิโนะ]] ซึ่งนำโดยโกไดโงะและผู้สืบทอดต่อมา.
 
จักรพรรดิแห่งศตวรรษที่ 14 พระองค์นี้เองได้เลือกพระนามหลังมรณกรรมของพระองค์เองตามจักรพรรดิไดโงะในสมัย [[ศตวรรษที่ 9]] และโก-(後), ซึ่งแปลว่า "ภายหลัง", และบางครั้งเขาก็ถูกเรียกว่า "จักรพรรดิไดโงะตอนหลัง", หรือ, ในบางแหล่งที่เก่ากว่า, "ไดโงะ, ที่สอง".
บรรทัด 39:
{{บทความหลัก|การฟื้นฟูเค็มมุ}}
[[ไฟล์:Emperor-Go-Daigo-by-Ogata-Gekko-1904.png|right|thumb|ภาพพิมพ์บล็อกไม้แสดงภาพจักรพรรดิโกะ-ไดโงะกำลังทรงพระสุบินถึงผีในพระตำหนัก]]
* '''.ศ. 13081851''' (ปี [[เอ็งเคียว]] ที่ 1): ในการสวรรคตของ [[จักรพรรดิโกะ-นิโจ]], ฮานาโซโนะเสด็จขึ้นครอง [[ราชบัลลังก์ดอกเบญจมาศ]] เมื่อพระชนมายุ 12 พรรษา; และเจ้าชายทากาฮารุ, พระราชโอรสองค์ที่ 2 ของอดีต [[จักรพรรดิโกอูดะ]] ได้รับการยกฐานะเป็นรัชทายาทและรัชทายาทภายใต้การนำของ [[รัฐบาลโชกุนคามากูระ]].<ref>Titsingh, {{Google books|18oNAAAAIAAJ|p. 278|page=278}}; Ponsonby-Fane, Richard. (1959) ''The Imperial House of Japan'', p. 204.</ref>
* '''29 มีนาคม .ศ. 13181861''' (วันที่ 26 เดือน 2 ปี [[บุนโป]] ที่ 2): ในปีที่ 11 ของรัชสมัยฮานาโซโนะ (花園天皇十一年), จักรพรรดิสละราชบัลลังก์; และพระราชภาติยะ (ลูกพี่ลูกน้อง) ของพระองค์ได้รับการสืบทอด, พระราชโอรสองค์ที่ 2 ของอดีตจักรพรรดิโกอูดะ. หลังจากนั้นไม่นาน, กล่าวกันว่าจักรพรรดิโกไดโงะได้เสด็จขึ้นครองราชบัลลังก์.<ref>Titsingh, {{Google books|18oNAAAAIAAJ|p. 281|page=281}}; Varley, p. 44; a distinct act of ''senso'' is unrecognized prior to [[Emperor Tenji]]; and all sovereigns except [[Empress Jitō|Jitō]], [[Emperor Yōzei|Yōzei]], [[Emperor Go-Toba|Go-Toba]], and [[Emperor Fushimi|Fushimi]] have ''senso'' and ''sokui'' in the same year until the reign of [[Emperor Go-Murakami]].</ref>
* '''.ศ. 13191862''' (เดือน 4 ปี [[บุนโป]] ที่ 3): จักรพรรดิโกไดโงะทำให้ศักราชถูกเปลี่ยนเป็นเก็นโอเพื่อเป็นการเริ่มต้นรัชสมัยของพระองค์.<ref>Varley, p. 243.</ref>
ในปี ค.ศ. 1324, ด้วยการค้นพบแผนการของจักรพรรดิโกไดโงะที่จะโค่นล้ม [[รัฐบาลโชกุนคามากูระ]]. [[โรกูฮาระ ทันได]] กำจัด ฮิโระHino ซูเกโตโมะSuketomo ผู้ร่วมงานที่ใกล้ชิดของเขาในเหตุการณ์โชชู.Shōchu
 
ในปี [[พ.ศ. 1874]] องค์จักรพรรดิได้พยายามโค่นล้มรัฐบาลโชกุนอีกครั้งแต่ไม่สำเร็จเนื่องจากที่ปรึกษาในพระองค์คนหนึ่งได้นำแผนการไปแจ้งแก่รัฐบาลที่ [[คะมะกุระ]] ทำให้รัฐบาลโชกุนได้ทำการเนรเทศองค์จักรพรรดิไปยัง [[จังหวัดโอะกิ]] ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับที่อดีต [[จักรพรรดิโกะ-โทะบะ]] เคยถูกเนรเทศไปภายหลัง [[สงครามปีโจคิว]] เมื่อปี [[พ.ศ. 1764]] หรือ 110 ปีก่อนหน้านั้นและสถาปนาเจ้าชายคะซูฮิโตะจากราชสกุลจิเมียวอินขึ้นเป็น [[จักรพรรดิโคงง]]
ใน [[สงครามปีเก็งโก]] ปี ค.ศ. 1331, แผนของจักรพรรดิโกไดโงะถูกค้นพบอีกครั้ง, ครั้งนี้โดยการทรยศโดยที่ปรึกษาคนสนิทของพระองค์ โยชิดะ ซาดาฟูซะ. พระองค์รีบซ่อน [[ไตรราชกกุธภัณฑ์]] ในปราสาทอันเงียบสงบใน คาซางิยามะ (ตำบลคาซางิ, อำเภอโซรากุ, [[จังหวัดเกียวโต]] ในปัจจุบัน) และยกกองทัพ, แต่ปราสาทก็ตกเป็นของกองทัพ [[โชกุน]] ในปีถัดมา, และพวกเขาก็สถาปนา [[จักรพรรดิโคงง]] ขึ้นครองราชบัลลังก์, เนรเทศ โกไดโงะ ไปยัง จังหวัดโอกิ ([[หมู่เกาะโอกิ]] [[จังหวัดชิมาเนะ]] ในทุกวันนี้),<ref name=Sansom2>{{Cite book |last=Sansom |first=George |title=A History of Japan, 1334–1615 |url=https://archive.org/details/historyofjapan00sans |url-access=registration |publisher=Stanford University Press |year=1961 |isbn=0804705259 |pages=[https://archive.org/details/historyofjapan00sans/page/7 7]–11}}</ref> ที่เดียวกับที่ [[จักรพรรดิโกะ-โทบะ]] ถูกเนรเทศหลังจาก [[สงครามปีโจคิว]] ปี ค.ศ. 1221.
 
ปี [[พ.ศ. 1876]] องค์จักรพรรดิโกะ-ไดโงะสามารถหลบหนีออกจากที่คุมขังโดยความช่วยเหลือของ [[นะวะ นะงะโตะชิ]] ขุนศึกผู้จงรักภักดีในระหว่างนั้น [[อะชิกะงะ ทะกะอุจิ]] อดีตขุนศึกของฝ่ายรัฐบาลโชกุนที่แปรพักตร์มาเข้ากับฝ่ายจักรพรรดิได้ทำการยึดคืน [[นครหลวงเฮอัง]] มาจากฝ่ายรัฐบาลได้สำเร็จพร้อมกันนั้นอีกหนึ่งขุนศึกแปรพักตร์คือ [[นิตตะ โยะชิซะดะ]] ได้ทำการยึด [[คะมะกุระ]] ได้สำเร็จทำให้รัฐบาลโชกุนล่มสลายและคนในตระกูลโฮโจกระทำเซ็ปปุกุ (ฆ่าตัวตาย) ทั้งหมด
ในปี ค.ศ. 1333, จักรพรรดิโกไดโงะหนีจาก โอกิ ด้วยความช่วยเหลือของ [[นาวะ นางาโตชิ]] และครอบครัวของเขา, ยกทัพที่ภูเขาเซ็นโจ ใน [[จังหวัดโฮกิ]] (ตำบลโคโตอูระ, อำเภอโทฮากุ, [[จังหวัดทตโตริ]] ปัจจุบัน). [[อาชิกางะ ทากาอูจิ]], ที่โชกุนส่งไปตามหาและทำลายกองทัพนี้, เข้าข้างจักรพรรดิและจับ [[โรกูฮาระ ทันได]]. ตามนี้, [[นิตตะ โยชิซาดะ]], ที่ได้ยกทัพไปทางทิศตะวันออก, วางล้อมคามากูระ. เมื่อเมืองตกอยู่กับนิตตะในที่สุด, โฮโจ ทากาโตกิ, ผู้สำเร็จราชการแทนโชกุน, หนีไป [[โทโชจิ]], ที่เขาและครอบครัวฆ่าตัวตายทั้งหมด. สิ่งนี้ยุติอำนาจโฮโจและปูทางสู่ระบอบทหารใหม่.<ref name=Sansom2/>{{rp|15–21}}
 
ปี [[พ.ศ. 1877]] จักรพรรดิโกะ-ไดโงะเสด็จนิวัติกลับไปยัง [[นครหลวงเฮอัง]] และปลดจักรพรรดิโคงงลงจากราชบัลลังก์พร้อมกับรวมพระราชอำนาจทั้งหมดไว้ที่พระองค์อันเป็นจุดกำเนิด [[ยุคฟื้นฟูสมัยเก็งมู]] ทำให้อะชิกะงะ ทะกะอุจิซึ่งสามารถปราบปรามศัตรูทางการเมืองรวมถึงนิตตะ โยะชิซะดะและสถาปนาตนเองเป็นปฐมโชกุนแห่งอะชิกะงะไม่พอใจยกกองทัพบุกเข้านครหลวงเฮอังเมื่อปี [[พ.ศ. 1879]] พร้อมกับสถาปนาพระอนุชาของอดีตจักรพรรดิโคงงขึ้นเป็น [[จักรพรรดิโคเมียว]] ทางฝั่งจักรพรรดิโกะ-ไดโงะและพระราชวงศ์ได้เสด็จลี้ภัยลงไปยังเมือง [[โยะชิโนะ]] ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ของ [[นครหลวงเฮอัง]] พร้อมกับตั้งราชสำนักขึ้นที่นี่เมื่อ [[เดือนมกราคม]] [[พ.ศ. 1880]] ทำให้เกิด [[ยุคราชสำนักเหนือ-ใต้]] ขึ้นมา
 
* '''18 กันยายน พ.ศ. 1882''' (วันที่ 15 เดือน 8 ปี [[ราคุโอะ]] ที่ีที่ 2) ปที่ปีที่ 21 ในรัชสมัยจักรพรรดิโกะ-ไดโงะสละราชสมบัติที่เมืองโยะชิโนะให้กับ '''เจ้าชายโนะริโยะชิ''' ที่รัชทายาทขิ้นสืบราชบัลลังก์ต่อมาเป็น [[จักรพรรดิโกะ-มุระกะมิ]]
 
เมื่อกลับมาถึงเมืองเกียวโตอย่างมีชัย, ไดโงะขึ้นครองบัลลังก์จาก จักรพรรดิโคงง และเริ่ม [[การฟื้นฟูเค็มมุ]]. การฟื้นฟูเห็นได้ชัดว่าเป็นการฟื้นคืนวิถีทางที่เก่ากว่า, แต่, ในความเป็นจริง, จักรพรรดิมองเผด็จการจักรวรรดิเหมือนกับ [[จักรพรรดิจีน]]. พระองค์ต้องการที่จะเลียนแบบจีนในทุกวิถีทางและกลายเป็นผู้ปกครองที่มีอำนาจมากที่สุดในตะวันออก. การปฏิรูปที่ใจร้อน, คดีสิทธิที่ดิน, ผลตอบแทน, และการกีดกันซามูไรออกจากระเบียบการเมืองทำให้เกิดการวิจารณ์มากมาย, และระเบียบการเมืองของพระองค์เริ่มแตกสลาย. ใน ค.ศ. 1335, [[อาชิกางะ ทากาอูจิ]], ที่ได้เดินทางไปญี่ปุ่นตะวันออกโดยไม่ได้รับพระราชโองการเพื่อปราบปรามกบฏนากาเซ็นได, กลายเป็นท้อแท้. ไดโงะได้ออกคำสั่งให้ นิตตะ โยชิซาดะ เพื่อติดตามและทำลายอาชิกางะ.
* '''18 กันยายน พ.ศ. 1882''' (วันที่ 15 เดือน 8 ปี [[ราคุโอะ]] ที่ี 2) ปที่ 21 ในรัชสมัยจักรพรรดิโกะ-ไดโงะสละราชสมบัติที่เมืองโยะชิโนะให้กับ '''เจ้าชายโนะริโยะชิ''' ที่รัชทายาทขิ้นสืบราชบัลลังก์ต่อมาเป็น [[จักรพรรดิโกะ-มุระกะมิ]]
* '''19 กันยายน พ.ศ. 1882''' (วันที่ 16 เดือน 8 ปี [[ราคุโอะ]] ที่ 2) อดีตจักรพรรดิโกะ-ไดโงะสวรรคตเมื่อพระชนมายุเพียง 51 พรรษา