ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ระบบสองรอบ"

'''ระบบสองรอบ''' ({{lang-en|Twotwo-round system}}) หรือ'''การลงคะแนนแบบรันออฟตัดเชือก''' ({{lang-en|Runoffrunoff voting}}) หรือ '''ระบบบัตรลงคะแนนรอบที่สอง''' ({{lang-en|Secondsecond ballot}}) หรือ'''ระบบนับบัตรลงคะแนน''' ({{lang-fr|Ballotage}}ballotage) เป็น[[วิธีการลงคะแนน]]แบบหนึ่งที่ใช้สำหรับเลือกผู้แทนเพียงคนเดียว โดยผู้มีสิทธิสิทธิ์เลือกตั้งใช้สิทธิเลือกผู้แทนที่ชอบเพียงคนเดียว โดยการเลือกตั้งแบบนี้จะมีสองรอบ โดยผู้สมัครหนึ่งคนหรือมากกว่าจะสามารถผ่านเข้าไปยังรอบสองได้ในกรณีที่[[คะแนนเสียงข้างมาก|คะแนนเสียงข้างมากเด็ดขาด]] (มากกว่าร้อยละ 50) หรือขั้นต่ำที่ระบุไว้ตามกฎหมายเลือกตั้ง<ref>{{Cite web |title=Two-Round System |url=https://www.electoral-reform.org.uk/voting-systems/types-of-voting-system/two-round-system/ |access-date=7 Nov 2019 |website=Electoral Reform Society}}</ref> โดยในรอบที่สองนั้น จะเหลือเพียงแค่ผู้สมัครที่คะแนนเสียงมากที่สุดในรอบแรกเพียงสองคน หรือบางกรณีคือผู้สมัครที่ผ่านเกณฑ์คะแนนขั้นต่ำในรอบแรกเท่านั้น

[[ระบบการลงคะแนน]]แบบสองรอบนี้นิยมใช้กันในการเลือกตั้งสมาชิก[[สภานิติบัญญัติ]] และการเลือกตั้ง[[ประธานาธิบดี]]แบบเลือกตั้งทางตรง รวมทั้งการเลือกตั้งผู้นำพรรคการเมืองหรือผู้บริหารภายในบริษัทเอกชน

[[ระบบการลงคะแนน|การลงคะแนน]]ระบบสองรอบนั้นใน[[สหรัฐอเมริกา]]เรียกว่า "การลงคะแนนแบบรันออฟตัดเชือก" (Runoffrunoff voting) และเรียกการลงคะแนนรอบที่สองว่า "การเลือกตั้งรอบรันออฟตัดเชือก" (Runoffrunoff election) โดยความหมายนั้นอาจหมายถึงการเลือกตั้งใดๆใด ๆ ที่แบ่งการลงคะแนนเป็นรอบๆรอบ ๆ โดยในแต่ละรอบจะมีผู้สมัครที่ตกรอบ โดยในการจำกัดความแบบทั่วไปของการเลือกตั้งระบบสองรอบนั้นไม่ได้มีเพียงแค่แบบรันออฟตัดเชือกเพียงแบบเดียว แต่ยังมีแบบอื่นซึ่งรวมถึง [[ระบบบัตรลงคะแนนหลายรอบ|แบบบัตรลงคะแนนหลายรอบ]] (Exhaustiveexhaustive ballot)]] และ[[ระบบจัดลำดับความชอบ|แบบหลายรอบในทันที]] (Instantinstant runoff voting)]] ยกตัวอย่างเช่นในประเทศแคนาดา ในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคการเมืองซึ่งมักจะมีผู้สมัครมากกว่าสองคนนั้นจะใช้ระบบบัตรลงคะแนนหลายรอบ (Exhaustive ballot system) ซึ่งมักจะเรียกกันว่าระบบรันออฟตัดเชือกเช่นกัน เพื่อคัดเลือกผู้สมัครเพียงคนเดียวที่ได้รับเสียงข้างมากเด็ดขาดเท่านั้น (มากกว่าครึ่งหนึ่ง) โดยผู้สมัครที่มีคะแนนน้อยที่สุดในแต่ละรอบการลงคะแนนจะเป็นผู้ตกรอบไป โดยผู้มีสิทธิสิทธิ์เลือกตั้งสามารถลงคะแนนในรอบต่อไปโดยเลือกผู้สมัครคนอื่นแทนได้

ใน[[ระบบการลงคะแนน|การลงคะแนน]]ทั้งสองรอบ ผู้มีสิทธิสิทธิ์เลือกตั้งทำเครื่องหมายเลือกผู้สมัครเพียงคนเดียว หากไม่มีผู้สมัครคนใดได้รับ[[เสียงข้างมากเด็ดขาด]] (มากกว่าครึ่ง) ในรอบแรก ผู้สมัครที่ได้คะแนนสูงสุดสองลำดับแรกจะได้เข้าไปในรอบสอง โดยผู้สมัครที่เหลือนั้นตกรอบ ในการลงคะแนนรอบสองเนื่องจากเหลือผู้สมัครเพียงสองคน (ยกเว้นกรณีที่คะแนนเสียงออกมาเท่ากันแล้ว) ย่อมจะมีผู้สมัครเพียงคนเดียวที่ได้[[เสียงข้างมากเด็ดขาด]] (ผู้ชนะการเลือกตั้ง) โดยในรอบสองนี้ ผู้มีสิทธิสิทธิ์เลือกตั้งสามารถเปลี่ยนใจจากผู้สมัครที่ตกรอบในรอบแรกมาเลือกผู้สมัครคนอื่นที่เข้ารอบสองแทนได้

การเลือกตั้งระบบสองรอบใช้ใน[[การเลือกตั้งในฝรั่งเศสสมัยสาธารณรัฐที่ 5|การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส สมาชิกสภานิติบัญญัติ และการเลือกตั้งท้องถิ่นของฝรั่งเศส]] และใช้ในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา[[อิหร่าน]] วุฒิสภา[[ประเทศเช็กเกีย|สาธารณรัฐเช็กเกีย]] [[สมัชชาแห่งชาติ (เวียดนาม)|สมัชชาแห่งชาติของเวียดนาม]] และ[[สมัชชาแห่งชาติของพลังประชาชน|สมัชชาแห่งชาติของคิวบา]] ใน[[อิตาลี]]นั้นใช้ระบบนี้ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และยังใช้ในการเลือกว่าพรรคใด หรือพรรคร่วมใดจะได้จำนวนที่นั่งเพิ่ม (Majority bonus) ในสภาเมือง<ref>The usefulness of the link between different political forces in the second ballot is (...) a convergence of interests: {{Cite journal |last=Buonomo |first=Giampiero |date=2000 |title=Al candidato sindaco non eletto spetta sempre almeno un seggio |url=https://www.questia.com/projects#!/project/89302579 |journal=Diritto&Giustizia Edizione Online}} {{Subscription required |via=[[Questia]]}}</ref> ระบบเลือกตั้งสองรอบยังใช้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของประเทศ[[อัฟกานิสถานกัวเตมาลา]] [[อาร์เจนตินากานา]] [[ออสเตรียกาบูเวร์ดี]] [[เบนินคอสตาริกา]] [[โบลิเวียคีร์กีซสถาน]] [[บราซิลโครเอเชีย]] [[บัลแกเรียโคลอมเบีย]] [[บูร์กินาฟาโซจิบูตี]] [[กาบูเวร์ดีชิลี]] [[ชิลีเช็กเกีย]] [[โคลัมเบียซิมบับเว]] [[คอสตาริกาเซอร์เบีย]] [[โครเอเชียเซเนกัล]] [[สาธารณรัฐเช็กไซปรัส]] [[ไซปรัสติมอร์-เลสเต]] [[สาธารณรัฐโดมินิกันตุรกี]] [[ติมอร์-เลสเตโตโก]]<ref>https://www.aljazeera.com/news/2019/05/togo-law-president-stand-terms-190509180859448.html</ref> [[จิบูตีนอร์ทมาซิโดเนีย]] [[เอกวาดอร์บราซิล]] [[อียิปต์บัลแกเรีย]] [[เอลซัลวาดอร์บูร์กินาฟาโซ]] [[ฟินแลนด์เบนิน]] [[กานาโบลิเวีย]] [[กัวเตมาลาเปรู]] [[เฮติโปรตุเกส]] [[อินเดียโปแลนด์]] [[อิหร่านฟินแลนด์]] [[อินโดนีเซียมอลโดวา]] [[คีร์กีซสถานมาลาวี]] [[ไลบีเรียยูเครน]] [[ลิธัวเนียโรมาเนีย]] [[มาลาวีรัสเซีย]] [[มอลโดวาลิทัวเนีย]] [[นอร์ทมาซิโดเนียไลบีเรีย]] [[เปรูสโลวาเกีย]] [[โปแลนด์สโลวีเนีย]] [[โปรตุเกสสาธารณรัฐโดมินิกัน]] [[โรมาเนียออสเตรีย]] [[รัสเซียอัฟกานิสถาน]] [[เซเนกัลอาร์เจนตินา]] [[เซอร์เบียอินเดีย]] [[สโลวาเกียอินโดนีเซีย]] [[สโลวีเนียอิหร่าน]] [[โตโกอียิปต์]]<ref>https://www.aljazeera.com/news/2019/05/togo-law-president-stand-terms-190509180859448.html</ref> [[ตุรกีอุรุกวัย]] [[ยูเครนเอกวาดอร์]] [[อุรุกวัยเอลซัลวาดอร์]] และ[[ซิมบับเวเฮติ]]

ใน[[การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ค.ศ. 2002|การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส]]เมื่อ ค.ศ. 2002 นั้น มีเพียงผู้คาดการณ์โดยสื่อว่าจะเป็นผู้เข้ารอบสุดท้ายคือ [[ฌัก ชีรัก]] และ[[ลียอแนล ฌ็อสแป็ง]] ซึ่งเป็นตัวแทนพรรคที่ใหญ่ที่สุดทั้งสองพรรคในฝรั่งเศสขณะนั้น โดยมีผู้สมัครชิงตำแหน่งทั้งสิ้นกว่า 16 คน รวมถึง [[ฌองฌ็อง-ปีแอร์แยร์ เชอแวนมองต์ม็อง]] (ร้อยละ 5.33%) และ[[คริสเตียนคริสตียาน โตบิบีรา]] (ร้อยละ 2.32%) ซึ่งเป็นพรรคร่วมฝ่ายซ้ายของ[[ลียอแนล ฌ็อสแป็ง]] โดยเนื่องจากคะแนนเสียงจากฝ่ายซ้ายนั้นถูกแบ่งให้ผู้สมัครหลายคน ทำให้ผู้สมัครคนที่สาม [[ฌองฌ็อง-มารี เลอ เป็งแปน]] ผู้สมัครคนที่สาม ได้คะแนนเสียงนำหน้า[[ลียอแนล ฌ็อสแป็ง]]ไปในรอบแรกได้ โดยผู้สมัครที่ได้ลำดับที่สี่ลงไป (ตกรอบ) มีคะแนนเสียงน้อยกว่าร้อยละ 7%

* [[ฌอง-มารีฌัก เลอ เป็ง]]ชีรัก (ฝ่ายกลางขวาจัด) 17ร้อยละ 82.79%21