ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โจ ไบเดิน"

| name = โจ ไบเดนไบเดิน

| caption = โจ ไบเดนไบเดิน ใน พ.ศ. 2564

| birth_name = โจเซฟ โรบิเนตต์ ไบเดนไบเดิน จูเนียร์

'''โจเซฟ โรบิเนตต์ ไบเดิน จูเนียร์''' ({{lang-en|Joseph Robinette Biden, Jr.}};{{efn|{{IPA-en|ˈbaɪdən}}}} เกิด 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2485) หรือ '''โจ ไบเดิน'''{{efn|ถอดเสียงจากสัทอักษรสากล /ˈbaɪdən/}} เป็นนักการเมืองชาวอเมริกัน และเป็น[[ประธานาธิบดีสหรัฐ]]คนปัจจุบัน หลังการชนะ[[การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ พ.ศ. 2563|การเลือกตั้งประธานาธิบดี พ.ศ. 2563]] ในอดีตไบเดินเคยดำรงตำแหน่งเป็น[[รองประธานาธิบดีสหรัฐ]]คนที่ 47 ระหว่าง พ.ศ. 2552 ถึง 2560 เป็น[[วุฒิสภาสหรัฐ|สมาชิกวุฒิสภา]]จาก[[รัฐเดลาแวร์]]เจ็ดสมัยติดต่อกัน ระหว่าง พ.ศ. 2515 ถึง 2552 สังกัด[[พรรคเดโมแครต]]

ไบเดนเดินเกิดที่เมืองสแครนตัน ใน[[รัฐเพนซิลเวเนีย]] และอาศัยอยู่ที่เมืองนี้จนอายุได้ 10 ขวบจึงได้ย้ายมาอยู่ที่เมืองเดลาแวร์จวบจนปัจจุบัน เขาได้เริ่มศึกษาที่[[มหาวิทยาลัยเดลาแวร์]] และได้รับปริญญาด้านกฎหมายจาก[[มหาวิทยาลัยซีราคิวส์]] ในปี พ.ศ. 2511 ไบเดนเดินประกอบอาชีพเป็นทนายความตั้งแต่ปี 2512 และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในคณะลูกขุนเมื่อปี 2513 ไบเดนเดินเข้ามารับตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาครั้งแรกในปี 2515 โดยการเลือกตั้ง ทำให้กลายเป็นสมาชิกวุฒิสภาที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับ 5 ที่ได้เข้ามารับตำแหน่งในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐ โดยมีอายุเพียง 29 ปี ในสมัยแรก จากนั้น เขาก็ชนะการเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2521, 2527, 2533, 2539 และ 2545 นับว่าเป็นสมาชิกวุฒิสภาที่ครองตำแหน่งมานานที่สุดเป็นอันดับ 6 ในประวัติศาสตร์อีกด้วย

ไบเดนเดินเป็นสมาชิกของคณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ต่างประเทศมายาวนานจนเป็นประธานของคณะกรรมการชุดนี้ ศิลปะการเจรจาของเขาเคยนำมาซึ่งความช่วยเหลือทางการทหารของสหรัฐและการเข้าแทรกแซงใน[[สงครามบอสเนีย]] เขาออกเสียงสนับสนุนนโยบายการแก้ปัญหา[[สงครามอิรัก]] แต่ต่อมาได้ประกาศจุดยืนว่าอยากให้มีการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ดังกล่าว นอกจากนั้น ไบเดนเดินยังได้ดำรงตำแหน่งประธานของคณะกรรมาธิการศาลยุติธรรมสำหรับสมาชิกวุฒิสภาอีกด้วย โดยมีส่วนในเรื่องของยาเสพติด อาชญากรรม การป้องกันภัย และสิทธิพลเมือง และยังเป็นแกนนำในการเสนอกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาชญากรรมการใช้ความรุนแรงและการบีบบังคับ และกฎหมายว่าด้วยการคุกคามสตรี

ไบเดนเดินเคยลงสมัครชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครตเพื่อเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2531 และ 2551 แต่ไม่ประสบความสำเร็จทั้งสองครั้ง แต่ในปี 2551 [[บารัก โอบามา]] ผู้สมัครที่ได้ตำแหน่งตัวแทน[[พรรคเดโมแครต]]ตัดสินใจเลือกไบเดนเดินเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเป็นคู่สมัครในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2551 นี้ และได้รับเลือกตั้งเป็นรองประธานาธิบดี ในเดือนมกราคม 2560 ไบเดนเดินได้รับรางวัลเกียรติยศ[[เหรียญอิสรภาพประธานาธิบดี]]จากประธานาธิบดีโอบามา

ในเดือนเมษายน 2562 ไบเดนเดินประกาศลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐใน พ.ศ. 2563 ในเดือนมิถุนายน 2563 เขามีคุณสมบัติตามเกณฑ์จากคณะผู้ออกเสียงที่จำเป็นเพื่อให้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรค<ref name="delegates">{{cite news|url=https://www.washingtonpost.com/politics/biden-clinches-the-democratic-nomination-after-securing-more-than-1991-delegates/2020/06/09/ee8a4e66-a7e3-11ea-b473-04905b1af82b_story.html|title=Biden clinches the Democratic nomination after securing more than 1,991 delegates|first1=Annie|last1=Linskey|date=June 9, 2020}}</ref> และเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ไบเดนเดินประกาศให้[[กมลา แฮร์ริส]] เป็นคู่สมัครรับเลือกตั้ง จนในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2563 ไบเดนไบเดิน ได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้ง ด้วยคะแนนเสียง 306 ต่อ 232 และได้เข้าพิธีสาบานตนเพื่อรับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2564 ทั้งนี้ ไบเดนเดินเป็นประธานาธิบดีที่มีอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังเป็นคนแรกจาก[[รัฐเดลาแวร์]] และเป็นคนที่สองที่นับถือศาสนาคริสต์นิกาย[[โรมันคาทอลิก]]

ไบเดนไบเดิน กล่าวว่าเขามีความตั้งใจที่จะทำงานให้แตกต่างจาก[[รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา|รองประธานาธิบดี]]ในสมัยของประธานาธิบดี[[จอร์จ ดับเบิลยู บุช]] ซึ่งดำรงตำแหน่งโดย[[ดิก ชีนีย์]]<ref> "Biden says he'll be different vice president". CNN. December 22, 2008. Retrieved December 22, 2008.</ref> ไบเดนไบเดิน ยังได้รับเลือกเป็นผู้นำทีมเปลี่ยนผ่านสมัยประธานาธิบดีของโอบามา และยังเป็นผู้นำที่รับผิดชอบด้านโครงการต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างคุณภาพความเป็นอยู่ทางเศรษฐกิจของชนชั้นกลางอีกด้วย ช่วงต้นปี 2552 เขาได้เยี่ยมเยือนผู้นำ[[อิรัก]] อัฟกานิสถาน และปากีสถาน<ref>Lee, Carol E. (January 6, 2009). "'Senator' Biden's trip raises concerns". Politico. Retrieved January 9, 2009.</ref> และต่อมาในวันที่ 20 มกราคม เขาได้เข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง[[รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา|รองประธานาธิบดี]] ซึ่งเป็นคนแรกจาก[[รัฐเดลาแวร์]] และคนแรกที่นับถือศาสนาคริสต์[[นิกายโรมันคาทอลิก]]<ref>"The First Catholic Vice President?". NPR. January 9, 2009. Retrieved September 25, 2019.</ref><ref>Gaudiano, Nicole (November 6, 2008). "VP's home awaits if Biden chooses". The News Journal. Archived from the original on November 9, 2008. Retrieved November 8, 2008.</ref>

ภายหลังลงจากตำแหน่งรองประธานาธิบดี ไบเดนไบเดิน ได้กลายเป็นอาจารย์ประจำที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย ในขณะเดียวกันเขาก็คอยนำรณรงค์ด้านการรักษาโรคมะเร็ง<ref> O'Brien, Sara Ashley (March 12, 2017). "Joe Biden: The fight against cancer is bipartisan". CNNMoney. Retrieved March 13, 2017.</ref> เขาได้เขียนหนังสือเรื่อง Promise Me, Dad ในปี 2560 ซึ่งเป็นหนังสือชีวประวัติของตัวเอง ซึ่งได้รับความนิยมจนต้องออกเดินทางทัวร์โปรโมตหนังสือ<ref>Kane, Paul. "Analysis | Biden wraps up book tour amid persistent questions about the next chapter". The Washington Post. ISSN 0190-8286. Retrieved November 10, 2020.</ref> ในระหว่างปี 2560-2561 ไบเดนเดินมีรายได้มากถึง 15 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ<ref>Viser, Matt; Narayanswamy, Anu (July 9, 2019). "Joe Biden earned $15.6 million in the two years after leaving the vice presidency". The Washington Post. Retrieved July 16, 2019.</ref>

ไบเดนไบเดิน ยังได้รับความสนใจอยู่อย่างสม่ำเสมอ โดยได้คอยสนับสนุนตัวแทนของพรรคฯ และยังคงให้ความเห็นต่าง ๆ ในด้านการเมือง ด้านสิ่งแวดล้อม และเกี่ยวกับประธานาธิบดี[[ดอนัลด์ ทรัมป์]]<ref>Hutchins, Ryan (May 28, 2017). "Biden backs Phil Murphy, says N.J. governor's race 'most important' in nation". Politico.</ref><ref>"The Democratic candidates on foreign policy". Foreign Policy.</ref><ref>Greenwood, Max (May 31, 2017). "Biden: Paris deal 'best way to protect' US leadership". The Hill.</ref> ไบเดินยังเป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญในสิทธิของ LGBT ตั้งแต่สมัยรองประธานาธิบดีของเขาเป็นต้นมา ในปี 2562 ไบเดนเดินได้ตำหนิ[[บรูไน]] ในประเด็นเรื่องการบังคับใช้[[กฎหมายอิสลาม]]ซึ่งอนุญาตให้ทำการประหารชีวิตผู้ที่ผิดประเวณี และคนรักร่วมเพศโดย[[การปาหิน]]ว่า "น่ารังเกียจ และไร้มนุษยธรรม" และยังกล่าวอีกว่า "ไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ ทั้งทางวัฒนธรรม และประเพณี ที่แสดงออกถึงความเกลียดชัง และความไร้มนุษยธรรมเช่นนี้"<ref>"Brunei defends tough new Islamic laws against growing backlash". Reuters. March 30, 2019. Retrieved December 31, 2020.</ref> ในปี 2562 ไบเดนไบเดิน และภริยา มีสินทรัพย์รวมกันเพิ่มขึ้นรวมเป็นมูลค่าระหว่าง 2.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ถึง 8 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการปราศัยต่าง ๆ และสัญญาสำหรับแต่งหนังสืออีกหลายชุด<ref> Eder, Steve; Glueck, Katie (July 9, 2019). "Joe Biden's Tax Returns Show More Than $15 Million in Income After 2016". The New York Times. Retrieved July 16, 2019.</ref>

นายโจ ไบเดนไบเดิน ได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 46 อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2564 โดยในขณะเข้ารับตำแหน่ง เขามีอายุถึง 78 ปี ซึ่งถือเป็นผู้รับตำแหน่งประธานาธิบดีที่มีอายุมากที่สุด<ref>Hunnicutt, Trevor; Zengerle, Patricia; Renshaw, Jarrett (January 20, 2021). "Taking helm of divided nation, U.S. President Biden calls for end to 'uncivil war'". Reuters. Retrieved January 20, 2021.</ref>ในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังเป็นประธานาธิบดีคนที่ 2 ที่นับถือศาสนาคริสต์นิกาย[[โรมันคาทอลิก]]<ref>"Biden to become the second Catholic president in U.S. history, after JFK". NBC News. January 19, 2021. Retrieved January 20, 2021.</ref> ต่อจาก[[จอห์น เอฟ. เคนเนดี]] โดยเป็นประธานาธิบดีคนแรกจากรัฐเดลาแวร์<ref>Cormier, Ryan; Talorico, Patricia (November 7, 2020). "Delaware history is made: The First State gets its first president in Joe Biden". The News Journal. Retrieved January 20, 2021.</ref>

[[หมวดหมู่:ตระกูลไบเดนไบเดิน]]