ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อาชิกางะ โยชิมิตสึ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 35:
การสูญสิ้นอำนาจของคันเรโยริยูกิทำให้ความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ค.ศ. 1382 คุซูโนกิ มาซาโนริ แปรพักตร์กลับไปเข้ากับราชวงศ์ฝ่ายใต้อีกครั้ง และ ค.ศ. 1395 อิมางาวะ ซะดะโยะ ถูกปลดจากการเป็นผู้นำทัพในเกาะคีวชู คุซูโนกิ มาซาโนริ พ่ายแพ้ต่อทัพของรัฐบาลโชกุนฯ ใน ค.ศ. 1385 และมาซาโนริถึงแก่กรรมใน ค.ศ. 1389 ทำให้ราชวงศ์ฝ่ายใต้ขาดแม่ทัพที่เข้มแข็ง ใน ค.ศ. 1391 ตระกูลยามานะ ซึ่งเป็นตระกูลที่มีอำนาจถือครองที่ดินจำนวนมากในภูมิภาค[[ชูโงกุ]] นำโดยยามานะ อุจิกิโยะ ({{ญี่ปุ่น|山名 氏清|Yamana Ujikiyo}}) ถือโอกาสยกทัพเข้าเมืองเกียวโตเพื่อที่จะยึดอำนาจจากรัฐบาลโชกุนฯ ให้แก่ราชวงศ์ฝ่ายใต้ เรียกว่า สงครามปีเมโตกุ ({{ญี่ปุ่น|明徳の乱|Meitoku no ran}}) แต่ล้มเหลว
 
ใน ค.ศ. 1392 โชกุนโยชิมิตสึจัดให้มีการเจรจาข้อตกลงระหว่างราชวงศ์ฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้ โดยพระ[[จักรพรรดิโกะ-คาเมยามะ]]แห่งราชวงศ์ฝ่ายใต้ทรงยินยอมมอบเครื่องราชกกุฎภัณฑ์สามอย่าง (Three Sacred Treasures) อันเป็นสัญลักษณ์ของราชสมบัติญี่ปุ่น ให้แก่พระ[[จักรพรรดิโกะ-โคะมัตสึโคมัตสึ]]แห่งราชวงศ์ฝ่ายเหนือ ภายใต้เงื่อนไขว่าพระราชวงศ์ทั้งสองสายจะผลัดกันขึ้นครองราชสมบัติที่นครเกียวโต เท่ากับเป็นการยอมรับว่าพระจักรพรรดิที่เมืองเกียวโตนั้นเป็นพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นแต่เพียงพระองค์เดียว เป็นการยุติยุคราชวงศ์เหนือใต้ อันเป็นยุคสมัยแห่งความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมานานเป็นเวลาประมาณหกสิบปี
 
=== ดำรงตำแหน่งโอโงโชะ ===