ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สโมสรฟุตบอลเชียงราย ยูไนเต็ด"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ยุทธนาสาระขันธ์ (คุย | ส่วนร่วม)
Opalzasw (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 62:
 
=== เชียงราย ยูไนเต็ดภายใต้การสนับสนุนของ สิงห์ ===
ในฤดูกาล 2559 สิงห์ปาร์ค ของบริษัทสิงห์ ได้เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลักของทีม ทำให้เชียงราย ยูไนเต็ดเริ่มมีเงินทุนในการพัฒนาทีมมากขึ้น โดยสามารถดึงนักเตะชื่อดังอย่าง[[ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์]]เข้ามาร่วมทีมได้ เมื่อจบฤดูกาล สโมสรได้แยกทางกับธีรศักดิ์ โพธ์อ้น และได้แต่งตั้ง[[อาเลชังดรี กามา]] อดีตผู้ฝึกสอนของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดเข้ามาเป็นผู้ฝึกสอน ในวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2560 นาย มิตติ ติยะไพรัช ประธานสโมสรได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวยืนยันว่าได้ทำการเปลี่ยนชื่อสโมสรเป็น '''สโมสรฟุตบอลสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด''' <ref>[http://www.goal.com/s/th/news/4280/2017/01/28/32043392/ มิตติแจงประเด็นเปลี่ยนชื่อทีมเป็น '''สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด'''] โกลดอตคอม วันที่ 28 มกราคม 2560 </ref> รวมถึงเปลี่ยนชื่อสนามเป็นสิงห์ สเตเดียม เนื่องจากได้ผลิตภัณฑ์สิงห์ได้เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลัก โดยในฤดูกาล 2560 เชียงราย ยูไนเต็ดได้ยกระดับทีมขึ้นมาเป็นทีมเจ้าบุญทุ่มอย่างเต็มตัวด้วยงบการทำทีมกว่า 300 ล้านบาท ได้มีซื้อตัวนักฟุตบอลชื่อดังและสามารถดึงตัวผู้เล่นระดับแถวหน้า อาทิ [[ธนบูรณ์ เกษารัตน์]] เข้าทีมมาด้วยค่าตัว 50 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าตัวนักเตะไทยที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังได้เซ็นสัญญากับนักฟุตบอลดาวรุ่งจากเมืองทอง ยูไนเต็ดอีกกว่า 5 คน ได้แก่ [[พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล]], [[ศิวกรณ์ เตียตระกูล]], [[ชัยวัฒน์ บุราณ]], [[สุริยา สิงห์มุ้ย]] และ [[ชินภัทร ลีเอาะ]] ที่ภายหลังได้พัฒนาฝีเท้าจนกลายเป็นนักเตะตัวหลักของทีมไปในที่สุด
 
ฤดูกาล 2560 ภายใต้การคุมทีมของกามา เชียงราย ยูไนเต็ดสามารถทำผลงานได้ดีกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยสามารถจบฤดูกาลได้ในอันดับที่ 4 ได้ตำแหน่งรองแชมป์ฟุตบอลรายการ[[โตโยต้า ลีกคัพ 2560|โตโยต้า ลีกคัพ]] และคว้าแชมป์[[ช้าง เอฟเอคัพ 2560|ช้าง เอฟเอคัพ]] มาครองได้สำเร็จเป็นแชมป์แรกในประวัติศาสตร์สโมสร ด้วยการเอาชนะทีมแบ็งค็อก ยูไนเต็ดไป 4-2 พร้อมได้สิทธิ์ในการเล่นรอบเพลย์ออฟรายการเอเอฟซี แชมป์เปียนลีก ฤดูกาลถัดไป และแม้ในฤดูกาล 2561 นั้น เชียงราย ยูไนเต็ดจะประสบปัญหาหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น การที่ผู้เล่นตัวหลักทั้ง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ย้ายออกจากทีม การลาออกของรองประธานสโมสรผู้เป็นกำลังหลักในการบริหารอย่าง ธนพล วิระเทพสุภรณ์ หรือแม้แต่การที่ทีมไม่สามารถรักษาฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวาในฟุตบอลลีกได้ แต่เชียงราย ยูไนเต็ดก็ยังคงรักษาฟอร์มการเล่นในฟุตบอลถ้วยได้อย่างยอดเยี่ยมจนสร้างประวัติศาสตร์คว้า "ทริปเปิลแชมป์" ได้เป็นครั้งแรกของสโมสร ([[ช้าง เอฟเอคัพ 2561|ช้าง เอฟเอคัพ]], [[โตโยต้า ลีกคัพ 2561|โตโยต้า ลีกคัพ]] และ [[ไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพ 2561|ไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพ]]) ก่อนที่ทางสโมสรจะตัดสินใจแยกทางกับอาเลชังดรี กามาในนัดสุดท้ายของฤดูกาล ซึ่งเป็นนัดที่เชียงราย ยูไนเต็ดเอาชนะบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดไปได้ 3-2 และสามารถป้องกันแชมป์ช้าง เอฟเอคัพ พร้อมรับสิทธิ์ไปเล่นรอบเพลย์ออฟรายการเอเอฟซี แชมป์เปียนลีกได้เป็นปีที่สองติดต่อกัน
 
ในช่วงก่อนเริ่มฤดูกาล 2562 นายมิตติ ติยะไพรัชได้ตัดสินใจสละตำแหน่งประธานสโมสรให้แก่นางสาวปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช ผู้เป็นน้องสาว เนื่องจากตนต้องการทำงานด้านการเมืองกับทาง[[พรรคไทยรักษาชาติ]] อย่างเต็มที่ ก่อนจะถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปีและกลับเข้ามารับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาของสโมสรในภายหลัง เมื่อฤดูกาล 2562 เปิดฉากขึ้น เชียงราย ยูไนเต็ดภายใต้การคุมทีมของผู้ฝึกสอนคนใหม่อย่าง [[ไอล์ตง ดูซ ซังตูซ ซิลวา|ไอล์ตัน ซิลวา]] ก็สามารถทำผลงานได้ดีและสม่ำเสมอกว่าในฤดูกาลที่ผ่านมา สืบเนื่องจากผู้เล่นชาวไทยที่มีความเข้าใจรูปแบบการเล่นของทีมบวกกับความเด็ดขาดในการทำประตูของคู่กองหน้าอย่าง [[โรซีมาร์ อามังซียู|บิลล์ โรซีมาร์]] และ [[วิลเลียม เอนรีเก โรดรีเกส ดา ซิลวา|วิลเลียม เอนรีเก]] แม้ทีมจะตกรอบฟุตบอลถ้วยทุกรายการ แต่ก็ยังคงสามารถรักษาผลงานในลีกได้จนก้าวขึ้นมาเบียดแย่งตำแหน่งจ่าฝูงกับ[[บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด]] ในช่วงท้ายของการแข่งขัน ซึ่งระยะห่างของคะแนนที่ได้อย่างสูสีนี้ทำให้จนต้องมีการตัดสินแชมป์กันจนถึงในนัดสุดท้ายของฤดูกาล โดยก่อนการแข่งขันนัดสุดท้ายนั้น เชียงราย ยูไนเต็ดมีคะแนนทั้งหมด 55 แต้ม ในขณะที่ทางบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดมีคะแนนรวม 57 แต้ม นำเป็นจ่าฝูงของลีก แต่เมื่อจบการแข่งขันนัดสุดท้าย ทั้งสองทีมกลับมีเท่ากันที่ 58 แต้ม เนื่องจากเชียงราย ยูไนเต็ดสามารถเอาชนะ[[สโมสรฟุตบอลสุพรรณบุรี|สุพรรณบุรี เอฟซี]] ไปได้ 5–2 ส่วนบุรีรัมย์กลับนั้นพลาดท่าเสมอกับสโมสร[[เชียงใหม่ เอฟซี]] 1-1 เมื่อคะแนนของทั้งสองทีมเท่ากัน จึงจำเป็นต้องมีการตัดสินด้วยกฏเฮดทูเฮด ซึ่งเชียงรายนั้นมีเฮดทูเฮดที่ดีกว่าบุรีรัมย์ (เสมอ 0-0 ในเกมเยือน และชนะ 4-0 ในเกมเหย้า) ทำให้เชียงราย ยูไนเต็ดพลิกสถานการณ์กลับมาและคว้าแชมป์[[ไทยลีก]]สมัยแรกมาครองได้สำเร็จในที่สุด
 
แม้สโมสรจะประสบปัญหาเรื่องรายได้จาก[[การระบาดทั่วของโควิด-19|การระบาดของโรคโควิด-19]] ในฤดูกาล 2563-64 แต่เชียงราย ยูไนเต็ดก็สามารถประคับประคองสถานะของทีมให้ไปต่อได้ โดยได้มีการลดงบประมาณการทำทีมและแต่งตั้งให้เอเมอร์สัน ปาไรร่า เป็นผู้ฝึกสอนชั่วคราว ก่อนที่จะจบฤดูกาลด้วยการคว้าแชมป์ช้าง เอฟเอคัพมาครองได้เป็นสมัยที่ 3
 
== สนาม ==