ผลต่างระหว่างรุ่นของ "หลิว เต๋อหัว"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
Jakamae (คุย | ส่วนร่วม)
เพิ่ม Endgame ,2021
บรรทัด 40:
 
== ประวัติ ==
'''หลิว เต๋อหัว''' หนึ่งในนักแสดงที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดของวงการภาพยนตร์ ตั้งแต่ยุคปลายทศวรรษที่ 80s จนถึงปัจจุบัน เป็นนักแสดงหลัก(Main Actor) ของอุตสาหกรรม[[ภาพยนตร์จีน|ภาพยนตร์จีนฮ่องกง]] ผู้สร้างตำนานให้กับวงการภาพยนตร์จีนอย่างมากมายยาวนานกว่า 30 ปี ทรงอิทธิพลถึงขนาดกำหนดทิศทางการสร้างภาพยนตร์ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนฮ่องกงมวลรวมเกินกว่ากึ่งหนึ่ง มีผลงานแสดงนำ(Leader Actor) มากกว่า 160 เรื่อง เป็นนักแสดงนำ(Leader Actor) ผู้มียอดรายได้ภาพยนตร์สูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง (No.1 Boxoffice Actor) ในรอบ 20 ปี (1985 - 2005) ของเกาะ[[ฮ่องกง]] สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งในรอบ 10 ปี (2004 - 2014) ใน[[จีนแผ่นดินใหญ่]] ยุคเริ่มแรกเปิดตลาดเสรีภาพยนตร์ เป็นนักแสดงผู้ทำผลกำไรภาพยนตร์ต่อเรื่องสูงที่สุดในบรรดานักแสดงทั้งในเกาะฮ่องกงและทั่วเอเชียจนได้รับยกย่องว่าเป็น ดารายอดนิยมแห่งเอเชีย (Box Office Star of Asia) เป็นนักแสดงทรงอิทธิพลแห่งโลกภาพยนตร์แนว[[โศกนาฏกรรม]] เป็นหนึ่งใน 7 นักแสดงเอเชียผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลกภาพยนตร์ตลอดกาล และเขายังเป็นนักร้องที่โด่งดังในยุคต้นทศวรรษที่ 90s คว้ารางวัลเพลงมากกว่า 292 รางวัล เป็นนักร้องจากเอเชียที่ได้รับความนิยมติดอันดับ 1 ใน 25 [[บิลบอร์ด|บิลบอร์ดชาร์ท]](Billboard) ของ[[สหรัฐ|สหรัฐอเมริกา]] เป็นหนึ่งในสี่ นักร้อง[[จตุรเทพ]] แห่งวงการเพลงจีน[[ภาษากวางตุ้ง]]ในยุคทศวรรษที่ 90s เป็นหนึ่งใน 10 นักร้องชายเพลงจีนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 30 ปี ของเกาะฮ่องกง และยุคต้นทศวรรษที่ 80s เป็นหนึ่งในนักแสดงดาวรุ่งกลุ่ม [[5 พยัคฆ์ทีวีบี|ห้าพยัคฆ์]]แห่งละครซีรีส์ทีวีบี(TVB) หลิว เต๋อหัวเต๋อหัว ได้รับยกย่องจากวงการภาพยนตร์ทั่วโลกว่า เป็นนักแสดงหลัก(Main Actor) ของอุตสาหกรรม[[ภาพยนตร์จีน]] และยังเป็นหนึ่งในสมาชิกกรรมการ รางวัล[[รางวัลออสการ์|ออสการ์]] (The Academy of Motion Picture Arts and Sciences) แห่งสหรัฐอเมริกา{{อ้างอิง}}
 
เขาคนนี้ เกิดมาในครอบครัวที่ยากจน บิดามีอาชีพเป็นนักดับเพลิง บ้านของเขาเป็นบ้านไม้อยู่ในชุมชนแออัด(slums) ย่าน Diamond Hill เขาช่วยเหลือทางบ้านทำงานตั้งแต่เด็กๆ พออายุ 18 ปี เข้าเรียนโรงเรียนการแสดงค่าย[[สถานีโทรทัศน์ทีวีบี]](TVB) เริ่มมีผลงานซีรีส์ทางโทรทัศน์ในปี 1981 มีโอกาสร่วมแสดงกับพระเอกละครซีรีส์ยอดนิยมแห่งยุคอย่าง[[โจว เหวินฟะ]] ในเรื่อง ยาจกซู ไอ้หนุ่มหมัดเมา (The Legend of Master So ,1982) แสดงนำบทพระเอกซีรีส์เรื่องแรก คือ มือปราบเจ้าอินทรี (The Emissary ,1982) มาพร้อมกับคาแรกเตอร์แนวขับขี่มอเตอร์ไซด์ มีผลงานละครซีรีส์ เรื่อง [[มังกรหยก ภาค 2 ตอน จอมยุทธอินทรี]] (The Return of the Condor Heroes ,1983) โด่งดังมากมายทั่วเอเชีย หลิว เต๋อหัวเป็นนักแสดงดาวรุ่งกลุ่ม [[5 พยัคฆ์ทีวีบี]] ประกอบด้วย [[หวง เย่อหัว]] , [[เหมียว เฉียวเหว่ย]] , [[ทัง เจิ้นเย่]] , หลิว เต๋อหัว , [[เหลียง เฉาเหว่ย]] กลุ่มนักแสดงถูกปลุกปั้นให้รับบทพระเอกหรือบทสำคัญของละครซีรีส์ค่ายทีวีบี เขามีผลงานละครซีรีส์หลายเรื่องเช่น ลิขิตฮ่องเต้ , ฮ่องเต้เจ้าสำราญ , ขุนศึกตระกูลหยาง , อุ้ยเสี่ยวป้อ (แสดงคู่กับเหลียง เฉาเหว่ย) เป็นต้น หลิว เต๋อหัวแสดงภาพยนตร์ในบทสมทบครั้งแรกด้วยการสนับสนุนจากโจว เหวินฟะ ในเรื่อง Boat People (1982) หรือ ใส่ความบ้าท้านรก ร่วมแสดงกับหลิน จื่อเสียง (George Lam) นักร้องชื่อดังแห่งยุค 80's ผลงานของผู้กำกับ[[แอนน์ ฮุย|แอนด์ ฮุย]] เขาได้เข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทองสาขาดาวรุ่งยอดเยี่ยม ได้แสดงนำบทพระเอกครั้งแรกในภาพยนตร์ของค่าย[[ชอว์บราเดอร์สสตูดิโอ]] เรื่อง On the Wrong Track (1983) หรือ บังคับข้าให้บ้าระห่ำ ภาพยนตร์แจ้งเกิดในฐานะนักแสดงนำบทพระเอก คือ ภาพยนตร์เรื่อง The Unwritten Law (1985) หรือ นี่แหล่ะ ดวงใจแม่ ในช่วงนี้เองเขาได้แสดงความจำนงต่อค่ายโทรทัศน์ทีวีบีเจ้าสังกัดขอแสดงภาพยนตร์เพียงอย่างเดียว แต่ทางค่ายทีวีบีปฏิเสธและไม่สนับสนุนพร้อมลงโทษไม่ป้อนงานแสดงละครเป็นเวลาถึง 2 ปี เขาเจึงหันมาร้องเพลงออกอัลบั้มจากการสนับสนุนของหลิน จื่อเสียง ออกอัลบั้มแรกในปี 1985 แต่ยังไม่โด่งดังทั้งถูกปรามาสว่า ไร้พรสวรรค์ทางดนตรี ในปี 1987 เขาได้แสดงนำและสร้างภาพยนตร์กับเดวิด ลาย(David Lai) ซึ่งต่อมาได้ที่เป็นหุ้นส่วนสำคัญในบริษัทผลิตภาพยนตร์จุดเริ่มต้นแนวหนังที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัวของเขา ในคือภาพยนตร์เรื่อง Sworn Brothers (1987) หรือ โหดห้ามอุทธรณ์ (หรืออีกชื่อ หลิว เต๋อหัว ศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย) อันโดยเขาได้แสดงนำและสร้างภาพยนตร์ร่วมกับเดวิด ลาย(David Lai) ซึ่งต่อมาได้เป็นจุดเริ่มต้นแนวหนังที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัวหุ้นส่วนสำคัญในบริษัทผลิตภาพยนตร์ของเขา และได้รับยกย่องว่าเป็นหนังแก็งสเตอร์แนวใหม่ของโลกภาพยนตร์ (New HardBoiled Style Gangster Movie) หรือที่บ้านเราในยุคนั้นเรียกว่า หนังแก็งสเตอร์เลือดเดือด
 
ในปี 1988 หลิว เต๋อหัวตัดสินใจออกจากสังกัดค่ายโทรทัศน์ทีวีบี(TVB) หันมาแสดงภาพยนตร์อย่างเดียว ประสบความสำเร็จสูงมากกับภาพยนตร์แนวดราม่ารันทด เรื่อง The Truth (1988) หรือ เพชรแท้ทุบไม่แตก (หนังภาคต่อของเรื่อง The Unwritten Law ,1985 หรือ นี่แหล่ะ ดวงใจแม่) ภาพยนตร์แนวโรแมนติคคอมาดี้ เรื่อง The Crazy Companies 1,2 (1988) หรือ รวยเถอะปุ๋ย ภาค 1 , บริษัทยุ่งแล้วรวย ภาค 2 ได้เข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทองสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ในหนังแนวแก๊งสเตอร์ เรื่อง As Tears Go By (1988) หรือ ทะลุกลางอก ผลงานกำกับเรื่องแรกของ[[หว่อง ก๊า ไหว่|หว่อง กาไว]] จากการโปรดิวเซอร์และอำนวยการสร้างโดย เติ้ง กวงหยง (Alan Tang) อันเป็นจุดเริ่มต้นคาแรกเตอร์ตัวละครที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัวของเขา เพียงแค่ชั่วปีเดียว หลิว เต๋อหัวแสดงภาพยนตร์มากถึง 10 เรื่อง ประสบความสำเร็จทางรายได้หลายต่อหลายเรื่องติดๆกันล้วนเป็นภาพยนตร์หลากหลายแนว จึงได้รับฉายาว่า อัศวินแห่งภาพยนตร์ (Knight of Movie) พร้อมกับตำแหน่ง พระเอกยอดนิยม(Box Office Star) ของวงการหนังจีน[[ฮ่องกง]] ในปี 1989 หลิว เต๋อหัวทำสถิติมีผลงานภาพยนตร์มากถึง 16 เรื่องในปีเดียว สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์จีนฮ่องกง มีผลงานโด่งดังทั่วเอเชียจากภาพยนตร์แนวจีนอินเตอร์เนื้อหารุนแรงติด[[เรทภาพยนตร์ในอเมริกา|เรท]] 18+ เรื่อง Casino Raiders (1989) หรือ เจาะเหลี่ยมกระโหลก แสดงคู่กับ[[อลัน ทัม]] นักร้องชื่อดังแห่งทศวรรษ 80's ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามไปทั่วเอเชีย ภาพยนตร์แนววีรบุรุษนักพนันเรื่อง God of Gamblers (1989) หรือ [[คนตัดคน]] แสดงคู่กับ[[โจว เหวินฟะ]] ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายไปทั่วเอเชีย หลิว เต๋อหัวจึงเป็นพระเอกหนังที่ได้รับความนิยมระดับเอเชียและนานาชาติ เป็นต้นมา
บรรทัด 56:
หลิว เต๋อหัว ยังได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งใน นักแสดงทรงอิทธิพลของอุตสาหกรรมภาพยนตร์โลก เป็นผู้นำภาพยนตร์แนว'''โศกนาฏกรรม''' (Tragedy Movie) ที่บทพระเอก นางเอก บทสมทบสำคัญต้องพบเหตุโศกเศร้าสะเทือนใจ และมีสไตล์หนังเป็นของตัวเอง คือ Mixed Drama / Action / Romance หรือ หนังดราม่า แอคชั่น โรมานซ์ ผสมผสาน(mixed) อยู่ในเรื่องเดียวกัน เขายังได้สร้างอัตลักษณ์ฉากตายของตัวเองด้วยท่าตายชักกระตุก (Andy Lau dies in style) และฉากปืนจ่อหัวบังคับตัวละครในภาพยนตร์กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง ในโลกภาพยนตร์มีหลิว เต๋อหัว คนเดียวเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นกับภาพยนตร์แนว[[โศกนาฏกรรม]] (Tragedy Movie) เช่น Casino Raider 1 (1989) หรือ เจาะเหลี่ยมกระโหลก A Moment of Romance (1990) หรือ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ Casino Raider 2 (1991) หรือ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ตอน แตะได้ถ้าไม่กลัวโลกแตก Saviour of the Soul (1991) หรือ ตายกี่ชาติก็ขาดเธอไม่ได้ The Moon Warriors (1993) หรือ คนบินเทวดา ที่กลายเป็นต้นแบบภาพยนตร์ที่มีสัตว์เลี้ยงเป็นคู่หูตัวเอก Full Throttle (1995) หรือ ยึดถนนเก็บใจไว้ให้เธอ เป็นต้น ปัจจุบัน หลิว เต๋อหัว มีผลงานการแสดงมากกว่า 160 เรื่อง ได้รับความนิยมอย่างมหาศาลมาโดยตลอด เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางไปทั่วโลก จนวงการหนัง[[ฮอลลีวูด]]เปรียบเปรยว่า หลิว เต๋อหัว คือ [[ทอม ครูซ]] (Tom Cruise) แห่งเอเชีย เป็นหนึ่งใน 7 นักแสดงเอเชียยอดนิยมและยิ่งใหญ่ตลอดกาล(The Most Popular Actors of All Time & Greatest Actors of All Time) ร่วมกับ [[บรูซ ลี]] (Bruce Lee) , [[เฉินหลง]] (Jackie Chan) , [[โจว เหวินฟะ]] (Chow Yun fat) , [[โจว ซิงฉือ]] (Stephen Chow) , [[หลี่ เหลียนเจี๋ย]] (Jet Li) และ [[เจิน จื่อตัน|เจิ้น จื่อตัน]] (Donnie Yen) และเขาได้รับยกย่องว่า เป็นนักแสดงที่ขี่มอเตอร์ไซด์โด่งดังที่สุดในโลก (Andy Lau is on the bike in the popular motorcycle - scene) และเป็นผู้สร้างปรากฏการณ์ให้โลกภาพยนตร์นำมอเตอร์ไซด์มาเป็นส่วนสำคัญหรือแกนสำคัญของเนื้อเรื่องในภาพยนตร์ และคาแรกเตอร์หรือตัวละครของเขาที่มีอัตลักษณ์ อันมีลักษณะเฉพาะขัดแย้งทางศิลธรรมหรือที่นิยมเรียกว่า แบดบอยด์(Badboy) ได้รับความนิยมไปทั่วโลก
 
ในปี 1991 หลิว เต๋อหัวเปิดบริษัทผลิตภาพยนตร์ของตัวเองในนาม '''Team Work''' Motion Pictures ผลงานผลิต โปรดิวเซอร์ อำนวยการสร้างเรื่องแรก ได้แก่ Saviour of the Soul (1991) หรือ Lanar Romance หรือชื่อไทย [[ตายกี่ชาติก็ขาดเธอไม่ได้]] (เราเลยไม่ยอมตาย) ที่กลายมาเป็นต้นแบบและได้รับการยกย่องว่าเป็นภาพยนตร์ดัดแปลงจาก[[หนังสือการ์ตูน]]ที่ประสบความสำเร็จเป็นเรื่องแรกของโลก เขายังได้ผลิตและพัฒนาภาพยนตร์ต้นแบบแนวหักเหลี่ยมเฉือนคมสไตล์จีนฮ่องกง อย่างเรื่อง The Sting (1992) หรือ ลูบคมขบวนโหด ภาพยนตร์ต้นแบบหนังรักดราม่าสไตล์จีนฮ่องกง อย่างเรื่อง Days of Tomorrow (1993) หรือ ครั้งนี้ครั้งโน้น ใจกระโจนไปหา ภาพยนตร์ต้นแบบหนังโรแมนติกคอมอดี้สไตล์จีนฮ่องกง อย่างเรื่อง Thanks for Your Love (1996) หรือ ถนนนี้ หยุดหัวใจรักข้าไม่ได้ และมักมี[[กวน จือหลิน]] มาเป็นนางเอกภาพยนตร์ต้นแบบของเขาเสมอ นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้นำ-แสดงหนังดัดแปลงจาก[[วีดีโอเกม]] อย่างเรื่อง บันล็อก ผู้ชายทะลุเวลา (Future Cops ,1993) หนังตลกสัปดลเรท 18+ อย่างเรื่อง สองใหญ่แย่งใหญ่ (The Sting 2 : Perfect Exchange ,1993) หนังแนวเต้นรำ อย่างเรื่อง Dance of a Dream (2001) หรือ แผนตุ๋นชุลมุนรัก เป็นต้น เขายังคิดค้นตัวละครของตัวเองอีกครั้งในรูปแบบมิติตัวละครที่มีแรงขับภายในใจออกสู่การกระทำ ในภาพยนตร์ต้นแบบเรื่อง What a Wonderful World (1996) หรือชื่อไทย ยึดหัวใจโลกอย่าห้าม ต่อมาเขาเปลื่ยนชื่อบริษัทเป็น '''Focus Group''' มีบริษัทลูกในเครือหลายบริษัท เช่น โฟกัส ฟิล์ม (อำนวยการสร้าง - จัดจำหน่าย) , '''Infinitus''' เอนเตอร์เทนเมนท์ (ผลิตภาพยนตร์) , โฟกัส มิวสิค , โฟกัส เอนเตอร์เทนเมนท์ เป็นต้น หลิว เต๋อหัว ยังประสบความสำเร็จอย่างสูงในฐานะโปรดิวเซอร์ , อำนวยการสร้าง , ควบคุมการผลิต , อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์จีนที่โด่งดังระดับโลกหลายเรื่อง เช่น Infernal Affairs 1,2,3 หรือชื่อไทย [[สองคนสองคม|2 คน 2 คน]] ทั้งสามภาค , House of Flying Daggers (2004) หรือ จอมใจบ้านมีดบิน ที่เขานำ[[โศกนาฏกรรม]]ความรัก ฉากต่อสู้ในป่าไผ่และฉากยิงธนูสามดอกจากเรื่อง The Moon Warriors (1993) หรือ คนบินเทวดา มาใช้ในเรื่องนี้ ผลงานเรื่องอื่นๆเช่น Cold War 1,2 หรือ [[2 คมล่าถล่มเมือง|2 คม ล่าถล่มเมือง]] ทั้งสองภาค เป็นต้น ผลงานสร้างเรื่อง Fulltime Killer (2001) หรือ กระสุนนี้เพื่อฆ่า หัวใจข้าเพื่อเธอ ได้พัฒนาต่อเป็น[[เกมส์ออนไลน์]]ในชื่อเดียวกัน ในปี 2006 เขาได้รับรางวัล Asian Filmmaker of the year ในฐานะคนทำหนังยอดเยี่ยมแห่งปี จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน ประเทศ[[เกาหลีใต้]] ทั้งยกย่องว่าเขาคือ หนึ่งในต้นแบบการพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของประเทศ[[เกาหลีใต้]]และเอเชีย นอกจากนี้ เขายังสนับสนุนผู้กำกับคลื่นลูกใหม่ภายใต้อำนวยการสร้างของเขาหลายคน เช่น เจิ้ง จี่หล่ำ (Lam Chi-chung) นักแสดงสมทบในเรื่อง นักเตะเสี้ยวลิ้มยี่ (Shaolin Soccer ,2001) บทชายร่างอ้วนพริ้วไหวดั่งสายน้ำ และคนเล็กหมัดเทวดา (Kung Fu Hustle ,2004) ในบทคู่หูโจวซิงฉือ ให้เป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง I'll Call You (2006) ใกล้นัก..รักเลย , หนิง เฮา (Ning Hao) ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ให้เป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง Crazy Stone (2006) ปฏิบัติการปล้น ก้นคะมำ จนกลายเป็นภาพยนตร์ซีรีส์รวมชุดมีภาคต่อตามมา คือ Crazy Racer (2009) และ Crazy Alien (2019) ที่ภาคล่าสุดทำเงินใน[[จีนแผ่นดินใหญ่]]สูงถึง 328 ล้านเหรียญสหรัฐ(USD) เขายังผลักดันสนับสนุนนักแสดงชาวจีนแผ่นดินใหญ่ให้มีชื่อเสียงในวงการภาพยนตร์หลายคน เช่น หวัง เป่าเฉียง (Wang Baoqiang) ที่แจ้งเกิดจากบทสมทบในภาพยนตร์ที่แสดงร่วมกับเขา เรื่อง จอมคนหัวใจไม่ลวงรัก (A world without thieves ,2004) ต่อมามีผลงานโดดเด่นในภาพยนตร์จีนชุดเรื่อง [[แก๊งม่วนป่วนไทยแลนด์]] (Lost in Thailand ,2012) และภาพยนตร์จีนชุด แก็งม่วนป่วนเยาวราช (Detective Chinatown ,2016) , [[เติ้ง เชา]] (Deng Chao) ที่แจ้งเกิดในวงการภาพยนตร์จากเรื่อง [[ตี๋เหรินเจี๋ย ดาบทะลุคนไฟ]] ในบทนักสืบคนเผือก เป่ย ตงไหล และได้เป็นพระเอกต่อในภาพยนตร์ของ[[โจว ซิงฉือ]] หลายเรื่องเช่น เงือกสาวปังปัง (The Mermaid ,2016) เป็นต้น
 
หลิว เต๋อหัว เริ่มประสบความสำเร็จด้านงานเพลงอัลบั้มที่หก 可不可以-誰說不可以 ในปี 1990 หลังจากที่เขาพยายามเป็นนักร้องออกอัลบั้มแรกตั้งแต่ปี 1985 คว้ารางวัล Jade Solid Gold Music Awards นักร้องชายยอดนิยม(Most Popular Hong Kong Male Artist) ประจำปี 1990 มาครองได้สำเร็จ ก้าวขึ้นเป็นนักร้องแถวหน้า(pop star) ของวงการเพลง[[ป็อป]]ฮ่องกงเป็นต้นมา ในปี 1991 เขามีบริษัทเพลงในนาม New Melody Records (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น โฟกัส มิวสิค) ไว้ดูแลงานเพลงของเขาเอง ในปี 1992 หลิว เต๋อหัว , [[จาง เสฺวโหย่ว]] , [[หลี่หมิง]] , [[กัว ฟู่เฉิง]] เป็นนักร้อง '''C- pop''' ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดระดับราชาเพลง[[ป็อป]] (King of Canto - pop) จึงถูกยกย่องให้เป็น นักร้อง[[จตุรเทพ]] แห่งวงการเพลงจีน[[ภาษากวางตุ้ง]] ของเกาะฮ่องกง(The Four Heavenly Kings of Cantopop) หรือวงการเพลงโลก เรียกขานในนาม สี่ราชาแห่งวงการเพลงป็อป[[ฮ่องกง]] (Four Kings of Hong Kong pop-music industry) ในปี 1995 หลิว เต๋อหัว ทำสถิติเป็นนักร้องเอเชียได้รับความนิยมสูงสุด 1 ใน 25 อันดับ[[บิลบอร์ด|บิลบอร์ดชาร์ท]](Billboard) ของ[[สหรัฐ|สหรัฐอเมริกา]] ในปี 1997 หลิว เต๋อหัว ได้ร่วมงานดนตรีกับนักเป่าแซ็กโซโฟนชื่อดังของโลก [[เคนนี จี|เคนนี่ จี]] (Kenny G) ในปี 1999 หลิว เต๋อหัว เป็นนักร้องร่วมเวทีคอนเสิร์ตราชาเพลงป๊อปโลก [[ไมเคิล แจ็กสัน|ไมเคิล แจ๊กสัน]] (Michael Joseph Jackson) ในทัวร์คอนเสิร์ต MJ & Friends ในปี 2000 หนังสือ[[บันทึกสถิติโลกกินเนสส์|กินเนสบุ๊ค]]เรคคอร์ด รายงานสถิติว่า หลิว เต๋อหัวเป็นนักร้องที่คว้ารางวัลผลงานเพลงภาษาจีนมากถึง 292 รางวัล มากที่สุดในโลก หลิว เต๋อหัว ยังคว้ารางวัลนักร้องชายยอดนิยมแห่งเกาะฮ่องกง(Most Popular Hong Kong Male Artist) ถึง 7 สมัย รางวัลนักร้องชายยอดนิยมแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค(Asia Pacific Most Popular Male Artist) ถึง 15 สมัย เป็นหนึ่งใน 10 นักร้องชายเพลงจีนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบสามทศวรรษ(ทศวรรษ ที่ 70s 80s และ 90s) ของเกาะ[[ฮ่องกง]] (Top 10 Greatest Cantopop Singers) ร่วมกับ แซม ฮุย (Samuel Hui) , หลอ เหวิน (Roman Tam) , [[อลัน ทัม]] (Alan Tam) , [[เลสลี จาง|เลสลี่ จาง]] (Leslie Cheung) , [[จาง เสฺวโหย่ว]] (Jacky Cheung) , [[หลี่หมิง]] (Leon Lai) , [[กัว ฟู่เฉิง]] (Aaron Kwok) , [[เฉิน อี้ซวิ่น]] (Eason Chan) และ หว่อง กาคุย (Wong Ka Kui) นักร้องนำวง Beyond ปัจจุบัน ฐานะนักร้องของหลิว เต๋อหัว ยังได้รับความนิยมอย่างสูงขับร้องทั้งเพลงจีน[[ภาษากวางตุ้ง]] (canto-pop) และเพลง[[ภาษาจีนกลาง]] (mando-pop) มีบริษัทเพลงของตัวเองอย่าง โฟกัส มิวสิค , โฟกัส เอนเตอร์เทนเมนท์ (ออแกไนซ์ จัดงานแสดง แสง สี เสียง) เป็นผู้ดูแลงานเพลงของเขา บทเพลง 起走過的日子 (Yat Hei Jau Gwoh Dik Yat Ji) [[ภาษาจีนกวางตุ้ง]] เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Casino Raider 2 (1991) หรือ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ตอน แตะได้ถ้าไม่กลัวโลกแตก เป็นบทเพลงอมตะที่เขาร้องเป็นเพลงประจำตัวของเขา แล้วเขาก็นำเอาทำนองเพลงนี้มาใส่เนื้อร้อง[[ภาษาจีนกลาง]] หรือแมนดาริน ในบทเพลง 来生缘 (Lai Sheng Yuan - ไหล เซิงหยวน) นำมาร้องเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Saviour of the Soul (1991) หรือ [[ตายกี่ชาติก็ขาดเธอไม่ได้]] (เราเลยไม่ยอมตาย) ต่อมาดัดแปลงเป็น[[ดนตรีสากล|เพลงสากล]]ในบทเพลง "Caravan Of Life" (Tokyo Square) บทเพลง 谢谢你的爱 (Thank You for Your Love) ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางไปทั่วโลกเทียบเท่าเพลงสากล อัลบัม Forget Love Potion ( 忘情水 , 1994) ทำสถิติยอดขายไปทั่วโลก ฐานะนักร้องของหลิว เต๋อหัว เริ่มเป็นที่รู้จักของชาวตะวันตกจากการนำเพลง "I Hate Myself for Loving You" (我恨我痴心) ของนักร้องเพลงสากล Joan Jett มาร้องในรูปแบบของเพลงจีน เขายังได้รับรางวัลจาก[[เอ็มทีวี]] แห่งสหรัฐอเมริกา ประจำปี 1994 ได้แก่รางวัล MTV Lifetime Achievement Award รับมอบในปี 1995 และรางวัลประจำปี 1995 ได้แก่รางวัลศิลปินยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย MTV Asian All-Outstandionging Artist Award รับมอบในปี 1996 อีกด้วย
บรรทัด 62:
หลิว เต๋อหัว เป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จสูงสุด ทั้งในฐานะนักแสดง , นักร้อง , เจ้าของบริษัทบันเทิง จึงได้รับยกย่องจากสมาพันธ์อุตสาหกรรมบันเทิงแห่งเกาะฮ่องกง(วงการภาพยนตร์ , วงการเพลง , วงการละครซีรีส์) ให้เป็นหนึ่งในสี่ "ผู้ทรงอิทธิพลของอุตสาหกรรมบันเทิงแห่งเกาะ[[ฮ่องกง]]" ยุคเกาะฮ่องกงกลับคืนสู่[[จีนแผ่นดินใหญ่]](1997 - 2005) ร่วมกับ [[หว่อง จิง|หวังจิง]] ผู้กำกับ ผู้อำนวยการสร้าง เจ้าของบริษัทผลิตภาพยนตร์ , เชอร์ [[รัน รัน ชอว์]] เจ้าของค่ายสถานีโทรทัศน์ทีวีบี(TVB) - ชอว์บราเดอร์สตูดิโอ และเจ้าของกลุ่มบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ Emperor Entertainment Group (EEG) เขาได้กล่าวสุนทรพจน์เมื่อได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ประมาณว่า "จะพัฒนาภาพยนตร์จีน จะแสดงแต่ภาพยนตร์จีน จะยืนหยัดอยู่เคียงข้าง[[ภาพยนตร์จีน]] ให้ยิ่งใหญ่ตลอดไป" ซึ่งในปี 1996 ขณะไปรับรางวัลศิลปินยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย MTV Asian All - Outstandionging Artist Award จาก[[เอ็มทีวี]] แห่งสหรัฐอเมริกา เขาให้สัมภาษณ์แก่สื่อตะวันตกประมาณว่า "เขาไม่มีความสนใจร่วมงานแสดงภาพยนตร์ใน[[ฮอลลีวูด]] เขามีความตั้งใจจะแสดงภาพยนตร์และสร้างภาพยนตร์เอเชียและจีนมากกว่า เพราะมีแต่คนเอเชียหรือคนจีนเท่านั้นที่จะสร้างภาพยนตร์แล้วยังคงอัตลักษณ์และมีสไตล์หนังเอเชียหรือจีนดั้งเดิม เป็นที่ชื่นชอบแก่แฟนหนังทั่วโลกมากกว่าสร้างจาก[[ฮอลลีวูด]]"
 
ในปี 2004 - 2014 เป็นยุคเริ่มแรกเปิดตลาดเสรีภาพยนตร์ใน[[จีนแผ่นดินใหญ่]] หลิว เต๋อหัวมีผลงานแสดงนำและร่วมอำนวยการสร้างภาพยนตร์สัญชาติจีนแผ่นดินใหญ่หลายเรื่อง เช่น จอมคนหัวใจไม่ลวงรัก (A world without thieves ,2004) , จอมใจบ้านมีดบิน (House of Flying Daggers ,2004) เขายังเป็นผู้นำในการสร้างภาพยนตร์จีนระดับบล็อกบัสเตอร์เพื่ออกฉายทั่วโลก เช่น มหาบุรุษกู้แผ่นดิน (A Battle Of Wits ,2006) สามก๊กขุนศึกเลือดมังกร (Three Kingdoms: Resurrection of the Dragon ,2008) ปิดเมืองล่าโจร (Firestorm ,2013) เป็นต้น เขายังเป็นผู้ปลุกกระแสภาพยนตร์แอ็คชั่น-[[ภาพยนตร์กำลังภายใน|กำลังภายใน]]-[[แฟนตาซี]] ให้ได้รับความนิยมในจีนแผ่นใหญ่และทั่วโลกอีกครั้ง ในเรื่อง [[ตี๋เหรินเจี๋ย ดาบทะลุคนไฟ]] (Detective Dee, and the Mystery of the Phantom Flame ,2010) ทั้งพลักดันให้ผู้กำกับคนดัง[[ฉีเคอะ]] กลับมายิ่งใหญ่ในโลกภาพยนตร์อีกรอบ และเขาก็เป็นนักแสดงนำ(Leader Actor) ผู้มียอดรายได้ภาพยนตร์สูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง (No.1 Boxoffice Actor) ใน[[จีนแผ่นดินใหญ่]]ในรอบ 10 ปี (2004 - 2014) ภาพยนตร์ประเภทขายนักแสดงนำ(Film Star) มีภาพยนตร์เข้าฉายในช่วงนี้นับเฉพาะสถานะนักแสดงนำ 15 เรื่อง มียอดรายได้ภาพยนตร์มากกว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐ(USD) เขายังร่วมสนับสนุนภาพยนตร์ทุนสร้างจีนแผ่นดินใหญ่แต่ใช้[[ภาษาอังกฤษ]]เรื่องแรกของโลกเพื่อสร้างความเป็นสากล อย่างเรื่อง เดอะ เกรท วอลล์ (The Great Wall ,2016) ปัจจุบัน สถานะนักแสดงนำ(Leader Actor) ในจีนแผ่นดินใหญ่ ได้รับความนิยมอย่างมหาศาล มีภาพยนตร์ออกฉายอย่างต่อเนื่อง นับจากปี 2015 เป็นต้นมา หลิว เต๋อหัวมียอดรายได้ภาพยนตร์มากกว่า 1,000 ล้านดอลล่าห์สหรัฐ(USD) มีภาพยนตร์ทำเงินมหาศาลหลายเรื่อง เช่น The White Storm 2 - Drug Lords (2019) ผลงานสร้างและนำแสดงของเขาทุนสร้างเพียง 25 ล้านเหรียญสหรัฐ(USD) ทำรายได้มากกว่า 190 ล้านเหรียญสหรัฐ(USD) ภาพยนตร์เรื่อง Shock Wave 2 (2020) ทุนสร้าง 30 ล้านเหรียญสหรัฐ(USD) ทำรายได้มากกว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐ(USD) หนังทุนต่ำอย่างเรื่อง Endgame (2021) ทำรายได้มากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ(USD) ซึ่งได้สร้างสถิติรายได้มากกว่าทุนสร้างหลายเท่าตัวมาโดยตลอด จนเป็นที่คาดการณ์ว่า แม้จะเปิดตลาดเสรีภาพยนตร์ใน[[จีนแผ่นดินใหญ่]]อย่างเต็มรูปแบบ หลิว เต๋อหัวยังคงสถานะนักแสดงนำ(Leader Actor) เป็นอันดับหนึ่งต่อไป
 
ในประเทศไทย หลิว เต๋อหัว เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากภาพยนตร์ เรื่อง A Moment of Romance (1990) หรือ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ออกฉายในปี พ.ศ. 2533 ถึงสองรอบ รอบแรกฉายวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2533 ทำรายได้กว่า 18 ล้านบาท มีกระแสเรียกร้องให้นำกลับมาฉายใหม่ รอบ 2 ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2533 ทำเงินกว่า 5 ล้านบาท รวมรายได้ตลอดการฉายในโรงภาพยนตร์มากกว่า 23 ล้านบาท เป็นหนังทำเงินสูงสุดประจำปี 2533 ของประเทศไทย (ไม่นับรวมหนังกลางแปลงที่ออกฉายต่อเนื่องยาวนานหลายปี) และในวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2534 ได้นำกลับมาฉายในโรงภาพยนตร์อีกครั้งหนึ่ง ต่อมามีภาพยนตร์เรื่อง Full Throttle (1995) หรือ ยึดถนนเก็บใจไว้ให้เธอ ออกฉายปี พ.ศ. 2538 ทำเงินไปกว่า 40 ล้านบาท เป็นหนังทำเงินสูงสุดของเขาในไทยเป็นสถิติถึงทุกวันนี้ ภาพยนตร์เรื่องที่ 100 ของเขา เรื่อง A Fighter's Blue (2000) หรือ หัวใจข้า หัวใจนาง หัวใจหลอมเพชร ถ่ายทำในประเทศไทย ในวันที่ 17 มกราคม 2560 หลิว เต๋อหัว ได้เกิดอุบัติเหตุตกม้าได้รับบาดเจ็บที่กระดูกเชิงกราน ระหว่างถ่ายทำโฆษณาที่เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ปัจจุบันรักษาตัวหายดีเป็นปกติ กลับมาทำงานบันเทิงในปลายปี 2561 เรียบร้อยแล้ว ล่าสุดในวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2563 ได้นำภาพยนตร์เรื่อง A Moment of Romance (1990) หรือ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ กลับมาฉายในโรงภาพยนตร์อีกครั้งฉลองครบรอบ 30 ปี