ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ปราสาทวินด์เซอร์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Cuteystudio (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
Cuteystudio (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 82:
=== ค.ศ. 1350–1500 ===
[[ไฟล์:WindsorLowerBaileyJosephNash1848 edited.jpg|thumb|300px|ลานล่างในคริสต์ทศศตวรรษ 1840 โบสถ์เซนต์จอร์จทางซ้ายและหอกลมทางขวา]]
พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 ทรงพระราชสมภพที่ปราสาทเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1312 มักจะเรียกกันว่า “เอ็ดเวิร์ดแห่งวินด์เซอร์” เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1350 พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดทรงรื้อปราสาทเก่าทิ้งและสร้างปราสาทใหม่ยกเว้นหอเคอร์ฟิว (“T”) และสิ่งก่อสร้างเล็กๆเล็ก อื่นๆๆ อื่น ๆ โปรดให้บาทหลวงวิลเลียมแห่งวิคแฮมเป็นผู้ออกแบบและดูแลการก่อสร้าง หอพระเจ้าเฮนรีที่ 2 หรือ หอกลมถูกสร้างแทนที่ด้วยสิ่งก่อสร้างปัจจุบันแต่มิได้ยกระดับสูงเท่าปัจจุบันจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19 นอกจากนั้นก็ยังทรงสั่งให้เสริมสร้างความแข็งแกร่งเพื่อเพิ่มการป้องกันข้าศึกด้วย โบสถ์น้อยของปราสาทได้รับการขยายให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมากแต่มิได้สร้างวัดใหม่ตามแผนที่วางไว้ ซึ่งอาจจะเป็นผลมาจากปัญหาเรื่องความปลอดภัย และกำลังทรัพย์หลังจากเกิด[[กาฬโรคระบาดในยุโรป]] อีกสิ่งหนึ่งที่สร้างในสมัยนี้คือประตูนอร์มัน (“M”) ซึ่งเป็นประตูใหญ่ที่ฐานหอกลมที่เป็นจุดสุดท้ายของการป้องกันข้าศึกก่อนที่จะเข้าสู่ลานบน (“B”) ซึ่งเป็นบริเวณพระราชฐานชั้นใน
 
ในปี ค.ศ. 1348 พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 ทรงก่อตั้ง[[เครื่องราชอิสริยาภรณ์การ์เตอร์]] (Order of the Garter) ซึ่งพิธีการมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้ยังกระทำกันเป็นประจำทุกปีที่[[โบสถ์เซนต์จอร์จ ปราสาทวินด์เซอร์|โบสถ์เซนต์จอร์จ]]ซึ่งเป็นโบสถ์น้อยหลักของพระราชวัง ระหว่างปี ค.ศ. 1353 ถึงปี ค.ศ. 1354 ทรงสร้าง Aerary Porch ภายในโบสถ์เซนต์จอร์จ
 
ในปี ค.ศ. 1390 ในรัชสมัยของ[[พระเจ้าริชาร์ดที่ 2 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าริชาร์ดที่ 2]] โบสถ์เซนต์จอร์จอยู่ในสภาพที่เสื่อมโทรมมากจนเกือบจะพังทลายลงมาจึงได้เริ่มการบูรณปฏิสังขรณ์ โดยมี[[เจฟฟรี ชอเซอร์]] (Geoffrey Chaucer) ข้าราชสำนักคนโปรดเป็นผู้ควบคุมงาน ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองเป็นไปตลอดรัชสมัย ราวสิบปีก่อนชอเซอร์จะเสียชีวิตพระเจ้าริชาร์ดพระราชทานของขวัญและสิ่งต่างๆต่าง ๆ รวมทั้งเงินประจำปีจำนวน 20 [[ปอนด์สเตอร์ลิง]]ตลอดชีพตั้งแต่ปี ค.ศ. 1394 และไวน์อีก 252 แกลลอนต่อปีตั้งแต่ปี ค.ศ. 1397 ชอเซอร์เสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ค.ศ. 1400 ไม่ว่าความชำนาญหรือประสบการณ์ในการก่อสร้างของชอเซอร์จะเป็นเช่นใดโบสถ์เซนต์จอร์จก็กลับมาอยู่ในสภาพที่เสื่อมโทรมอีกภายในระยะเวลาเพียง 50 หลังจากการบูรณปฏิสังขรณ์
 
[[พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4]] (ค.ศ. 1461–ค.ศ. 1483) เป็นพระเจ้าแผ่นดิน[[ราชวงศ์ยอร์ก]]องค์แรก เป็นผู้สร้างโบสถ์เซนต์จอร์จที่เห็นกันในปัจจุบัน โบสถ์น้อยอันที่จริงแล้วมิใช่โบสถ์น้อยซึ่งหมายถึงวัดเล็กๆเล็ก ๆ ตามความหมายดั้งเดิมแต่เป็น[[มหาวิหาร]]ขนาดย่อและ[[ที่เก็บศพ|ที่เก็บพระบรมศพ]] และที่เก็บพระศพ สถาปัตยกรรมเป็นแบบ[[สถาปัตยกรรมกอธิค|เพอร์เพ็นดิคิวลาร์กอธิค]] (Perpendicular Gothic) ระหว่างรัชสมัยของ[[พระเจ้าเฮนรีที่ 7 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าเฮนรีที่ 7]] ก็ได้มีการรื้อบางส่วนของโบสถ์น้อยที่สร้างมาแต่เดิมออกเพื่อสร้าง[[โบสถ์น้อยพระแม่มารี]]แต่ก็ทรงละทิ้ง โบสถ์น้อยเป็นสิ่งก่อสร้างที่สำคัญที่สุดสิ่งหนึ่งในทางสถาปัตยกรรมของพระราชวัง
 
การก่อสร้างโบสถ์น้อยเป็นจุดสำคัญในการเปลื่ยนแปลงลักษณะของการก่อสร้างทางสถาปัตยกรรมของปราสาทวินด์เซอร์ หลังจาก[[สงครามดอกกุหลาบ]]บ้านเมืองก็มีความสงบขึ้นซึ่งทำให้สิ่งก่อสร้างในสมัยต่อมาจะคำนึงถึงความสะดวกสบายและแบบลักษณะทางสถาปัตยกรรมมากขึ้นกว่าที่จะคำนึงถึงความแข็งแรงในการป้องกันข้าศึกแต่เพียงอย่างเดียวเช่นที่เป็นมา หน้าที่ของปราสาทจึงเปลี่ยนจากการเป็น[[ปราสาท]]มาเป็น[[พระราชวัง]] ที่เห็นได้จากการสร้าง “ระเบียงเกือกม้า” (“H”) ในปี ค.ศ. 1480 ที่สร้างใกล้โบสถ์น้อยเพื่อให้เป็นที่พำนักของนักบวช ตัวสิ่งก่อสร้างโค้งเป็นเกือกม้าซึ่งเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 พระราชวังถูกบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่เมื่อปี ค.ศ. 1871 จนสิ่งก่อสร้างเดิมเกือบจะไม่หลงเหลือ