ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Mda (คุย | ส่วนร่วม)
Mda (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 38:
เจ้าชายฟิลิปแห่งกรีซและเดนมาร์กประสูติที่เกาะคอร์ฟูในประเทศกรีซเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ค.ศ. 1921 เป็นพระโอรสพระองค์เดียวและเป็นบุตรคนที่ห้าของ[[เจ้าชายแอนดรูว์แห่งกรีซและเดนมาร์ก]] กับ[[เจ้าหญิงอลิซแห่งบัทเทินแบร์ค]]<ref>Brandreth, p. 56</ref> ทรงเป็นสมาชิกใน[[ราชวงศ์ชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์-เซินเนอร์บอร์-กลึคส์บวร์ค]] อันเป็นสาขาหนึ่งของ[[ราชวงศ์อ็อลเดินบวร์ค]] เนื่องด้วยพระบิดาทรงเป็นทายาทโดยตรงของ[[พระเจ้าจอร์จที่ 1 แห่งกรีซ]] และ[[พระเจ้าคริสเตียนที่ 9 แห่งเดนมาร์ก]] ทำให้ทรงมีศักดิ์เป็นเจ้าชายของทั้งกรีซและเดนมาร์ก อยู่ในลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ของบัลลังก์ทั้งสอง อย่างไรก็ตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์เดนมาร์ก ค.ศ. 1953 ได้ตัดสิทธิ์สืบราชบัลลังก์เดนมาร์กของครอบครัวฟิลิป<ref>{{cite book |last=Tågholt |first=Knud |year=1963 |title=Det glücksburgske kongehus, fra Christian IX til prinsesse Margrethe: Den danske kongeslægt gennem hundrede år, 1863-1963 |publisher=Aros |page=6}}</ref>
 
ความพ่ายแพ้ใน[[สงครามกรีก–ตุรกี (ค.ศ. 1919–1922)|สงครามกรีก–ตุรกี]] บีบบังคับให้เสด็จลุงของฟิลิป [[พระเจ้าคอนสแตนตินที่ 1 แห่งกรีซ]] ต้องสละราชสมบัติในปี ค.ศ. 1922 และลี้ภัยไป[[แคว้นซิซิลี|เกาะซิซิลี]] ส่วนเจ้าชายแอนดรูว์พร้อมครอบครัวถูกจับกุมโดยคำสั่งของรัฐบาลทหารที่ตั้งขึ้นใหม่ ผู้บัญชาการรบหลายคนถูกประหารชีวิต ในขณะนั้น หลายคนมองว่าเจ้าชายแอนดรูว์คงไม่รอดชีวิต<ref>{{cite journal|title=News in Brief: Prince Andrew's Departure|journal=The Times|date=5 December 1922|page=12}}</ref> เดือนธันวาคมปีนั้นเอง ศาลปฏิวัติได้พิพากษาเนรเทศเจ้าชายแอนดรูว์ออกจากประเทศกรีซตลอดชีวิต อังกฤษส่งเรือหลวงคาลิปโซมารับครอบครัวของเจ้าชายแอนดรูว์ไปยังประเทศฝรั่งเศส พวกเขาเลือกที่จะอาศัยอยู่ในบ้านเช่าแถบชานเมืองกรุงปารีส ซึ่งเช่าจากพระญาติในราชสำนักฝรั่งเศส<ref>Alexandra, pp. 35–37; Heald, p. 31; Vickers, pp. 176–178</ref>
 
เจ้าชายฟิลิปได้รับการศึกษาครั้งแรกที่ The Elms โรงเรียนอเมริกันในกรุงปารีส<ref name="basil">{{cite book |last1=Boothroyd |first1=Basil |title=Prince Philip: An Informal Biography |date=1971 |publisher=McCall Publishing Company |location=New York |isbn=0841501165 |edition=First American}}</ref> ทรงมีภาพจำเป็นเด็กฉลาดแต่ถ่อมตัว<ref>Alexandra, p. 42; Heald, p. 34</ref> ต่อมาในปีค.ศ. 1928 ทรงถูกส่งตัวไปอังกฤษและเข้าเรียนที่โรงเรียนแชม ช่วงนี้ทรงอยู่อาศัยกับพระอัยกีที่[[พระราชวังเค็นซิงตัน]] ซึ่งก็คือ[[เจ้าหญิงวิกตอเรียแห่งเฮสส์และไรน์|วิกตอเรีย เมานต์แบ็ทแตน มาร์เชเนสแห่งมิลด์ฟอร์ดเฮเวน]] และอาศัยกับท่านลุงที่ตำหนักลินเดิน ซึ่งก็คือ[[จอร์จ เมานต์แบ็ทแตน มาร์ควิสที่ 2 แห่งมิลด์ฟอร์ดเฮเวน]]<ref>Heald, pp. 35–39</ref> และในช่วงสามปีหลังจากนี้ พี่สาวสี่พระองค์ได้สมรสกับเจ้าชายเยอรมันและย้ายไปพำนักในประเทศเยอรมนี ทางด้านพระมารดาถูกวิจนิจฉัยว่าเป็น[[โรคจิตเภท]]และต้องอยู่ในสถานบำบัดของ[[ซีคมุนท์ ฟร็อยท์]]<ref>Brandreth, p. 66; Vickers, p. 205</ref> พระบิดาก็ย้ายไปอยู่ในคฤหาสน์ที่[[มงเต-การ์โล]] เมืองทางใต้ของฝรั่งเศสใกล้ชายแดนดิตาลี ฟิลิปแทบไม่ได้ติดต่อกับพระมารดาอีกเลยตลอดช่วงวัยเด็ก
 
ในคใน ค.ศ. 1933 เจ้าชายฟิลิปในวัย 12 ชันษาถูกส่งตัวไปยังโรงเรียนของวังซาเลิมในประเทศเยอรมนี เนื่องด้วยครอบครัวพี่เขยของพระองค์เป็นเจ้าของโรงเรียนแห่งนี้ เมื่อ[[ระบอบนาซี]]เรืองอำนาจในเยอรมนี นายควร์ท ฮาน ชาวยิวซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียน รู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตจึงได้อพยพไปยัง[[ประเทศสกอตแลนด์]]และก่อตั้งโรงเรียนกอร์ดอนสตันที่นั่น เจ้าชายฟิลิปย้ายตามไปที่นั่นในสองภาคเรียนให้หลัง<ref>Brandreth, p. 72; Heald, p. 42</ref> ต่อมาใน ค.ศ. 1937 เจ้าชายฟิลิปได้ทราบข่าวร้ายว่า [[เจ้าหญิงเซซีลีแห่งกรีซและเดนมาร์ก|เจ้าหญิงเซซีลี]] พี่สาวของพระองค์ พร้อมด้วยสามีและบุตรน้อยสามคน ทั้งหมดเสียชีวิตในอุบัติเหตุเครื่องบินตกในเที่ยวบินโคโลญ–ลอนดอน เจ้าชายฟิลิปในวัย 16 ชันษาเสด็จร่วมรัฐพิธีศพที่เมือง[[ดาร์มชตัท]] ประเทศเยอรมนี<ref>Brandreth, p. 69; Vickers, p. 273</ref> และในปีต่อมา จอร์จ เมานต์แบ็ทแตน ผู้เป็นลุงและผู้ปกครองของเจ้าชายก็เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง
 
เนื่องด้วยเจ้าชายฟิลิปเสด็จออกจากประเทศกรีซขณะเป็นทารก ทำให้พระองค์ไม่สามารถตรัส[[ภาษากรีก]] พระองค์เคยกล่าวใน ค.ศ. 1992 ว่าทรงเข้าใจภาษากรีกอยู่บ้าง<ref name="independent">{{cite news |url=https://www.independent.co.uk/arts-entertainment/a-strange-life-profile-of-prince-philip-1563268.html |work=The Independent |location=London |title=A strange life: Profile of Prince Philip |first=Fiammetta |last=Rocco |date=13 December 1992 |accessdate=22 May 2010}}</ref> และระบุว่าทรงคิดว่าตัวเองเป็นคนเดนมาร์ก แต่ครอบครัวพระองค์พูดภาษาอังกฤษ, ฝรั่งเศส และเยอรมัน<ref name=independent />
 
==ราชการทหารเรือ==