ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เฮฟีสเทียน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Setawut (คุย | ส่วนร่วม)
Setawut (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 45:
ในฤดูใบไม้ผลิ 324 ปีก่อนค.ศ. เฮฟีสเทียนพร้อมอเล็กซานเดอร์ได้เคลื่อนพลไปยัง[[:en:Ecbatana|เอกแบทานา]] และไปถึงในฤดูใบไม้ร่วง วันหนึ่งเฮฟีสเทียนเดินทางไปยังโรงละคร และทานไก่ต้มและไวน์เย็น แล้วจึงเกิดอาการไข้ เขาป่วยอยู่เจ็ดวัน วันที่เจ็ดนั้นมีอาการหนักมาก จนอเล็กซานเดอร์ต้องรีบละทิ้งการชมการแข่งขันและมาหาเฮฟีสเทียนในทันที แต่ก็มาไม่ทัน เมื่ออเล็กซานเดอร์มาถึงเฮฟีสเทียนได้เสียชีวิตแล้ว มีทฤษฎีว่าเฮฟีสเทียนอาจถูกวางยาพิษหรืออาจป่วยด้วย[[ไข้รากสาดน้อย]]
 
[[แอร์เรียน]]ระบุว่า: ''"เขาโอบร่างของสหายรักและอยู่เช่นนั้นเกือบทั้งวันด้วยน้ำตา ไม่ยอมแยกจากไปไหนต่อให้ผู้น้อยเข้ามาฉุดก็ตาม...สองวันเต็มหลังความตายของเฮฟีสเทียน อเล็กซานเดอร์มิได้เสวยสิ่งใด ไม่ตอบสนองหรือประสงค์สิ่งใด ได้แต่นอนร้องไห้อยู่บนเตียงเงียบๆด้วยความโทมนัส”''<ref name="Arrian 7.14.6">Arrian 7.14.6</ref> อีกส่วนกล่าวว่า ''"เขากอดศพและอยู่อย่างนั้นทั้งวันและทั้งคืน"''<ref name="Arrian 7.14.6"/> และยังกล่าวว่ากลัฟเคียสผู้เป็นหมอ ถูกประหารฐานดูแลไม่ดีพอ<ref>Arrian 7.14.7</ref> ระบุอีกว่า อเล็กซานเดอร์ยังสั่งให้ทำลายวิหารของเทพ[[แอสคลีเพียส]]ในเอกแบทานา<ref name="Arrian 7.14.9">Arrian 7.14.9</ref> กษัตริย์หนุ่มยังตัดผมสั้นเพื่อไว้ทุกข์<ref>Arrian 7.14.8</ref> และยังระบุว่า ''"แม่ทัพนายกองจำนวนมากหมดความเคารพในตัวอเล็กซานเดอร์ เหมือนว่าพวกเขากำลังอุทิศตนเพื่อชายที่หมดอาลัยตายอยาก"''<ref>Arrian 7.15.3</ref> อเล็กซานเดอร์ไม่ได้แต่งตั้งผู้ใดขึ้นบัญชาการกองทหารม้าเฮไตรอยแทนเฮฟีสเทียน เขาอยากให้ชื่อเฮฟีสเทียนอยู่กับกองเฮไตรอยไปตลอดกาล
 
พลูทาร์กระบุว่า: ''"ความตะลึงพลันตกแก่อเล็กซานเดอร์ที่เอกแบทานา เขาเสียเฮฟีสเทียน รักแรกตั้งแต่วัยเด็ก เฮฟีสเทียนจากไปแล้ว...เพื่อนที่เป็นมากกว่าเพื่อน สนิทยิ่งกว่าพี่น้อง ผู้คอยสร้างความรู้สึกสงบในจิตใจของจอมพิชิตผู้เปล่าเปลี่ยว..."''<ref>Plutarch. [http://classics.mit.edu/Plutarch/alexandr.html ''Life of Alexander'']</ref>
 
ในบรรดาเรื่องราวเกี่ยวกับเฮฟีสเทียนที่พอสืบค้นได้ เอกสารโบราณมักจะกล่าวถึงการตายของเขามากที่สุด เนื่องจากมันมีผลโดยตรงต่ออเล็กซานเดอร์ บันทึกของ[[พลูทาร์ก]]ระบุว่า: ''"ความเศร้าโศกต่อการสูญเสียครั้งนี้ของอเล็กซานเดอร์เกินจะควบคุม และเพื่อเป็นการไว้อาลัย ทรงสั่งให้ตัดขนหางและขนแผงคอของม้าทุกตัว สั่งให้รื้อใบเสมาบนกำแพงเมืองข้างเคียงทุกแห่ง สั่งตรึงกางเขนแพทย์ผู้เคราะห์ร้ายและสั่งห้ามเป่าขลุ่ยรวมถึงเครื่องดนตรีอื่นทุกชนิดในค่ายทหารเป็นเวลายาวนาน และเมื่อโหรหลวงเดินทางมาจากอัมโมน ก็ทรงสั่งให้สักการะเฮฟีสเทียนและบรวงสรวงเป็นวีรบุรุษ ยิ่งกว่านั้น อเล็กซานเดอร์มุ่งทำสงครามเพื่อพยายามลืมความโศกเศร้า ถึงขั้นตามล่าและเข้าทำลายชนชาวคอสแซน ประหารชายวัยหนุ่มขึ้นไปทั้งหมดเอาเป็นการบรวงสรวงแก่ดวงวิญญาณของเฮฟีสเทียน"''<ref name="Plutarch 72.3">[http://www.perseus.tufts.edu/hopper/text?doc=Perseus:abo:tlg,0007,047:72 Plutarch, Alexander] Bernadotte Perrin, Ed.</ref> นักประวัติศาสตร์บางรายมองว่าการประหารชายชาวคอสแซนของอเล็กซานเดอร์ เป็นการทำตามตำนานเทพเจ้ากรีก เนื้อหาในมหากาพย์[[อีเลียด]]ที่ระบุว่า[[อคิลลีส]]ได้ทำการสังหาร "ชายหนุ่มสูงศักดิ์สิบสองคน" เพื่อไว้อาลัยต่อสหายรักพะทรอคลัส<ref name="Plutarch 72.3"/>
 
==พิธีการศพ==